ในการที่เราจะปฏิบ้ติต่อสมาชิกของโบสถื ที่กระทำผิดนั้น พลไพร่ของพระเจ้า จะต้องปฏิบ้ติตามคำสอนที่พระผู้ช่วยให้รอด ทรงชี้แจงไว้ในหนังสือมัดธาย บาที่ ๑๘ CCh1 300.2
มนุษย์ทั้งหลายเป็นทรัพ์สมบัติของพระคริสต์ ซึ่งพระองค์ ทรงซื้อไว้ด้วยมูลค่าอันสูง มนุษย์ทั้งหลายถูกผูกมัดไว้กับพระ คริสต์โดยความรักที่พระบิดา และพระองค์ ทรงสำแดงต่อเขาทั้ง- หลาย ถ้าเช่นนั้นแล้วเราควรจะระมัดระวังมากสักเพียงไรในการ ที่เราจะปฏิบัติต่อกันและกัน มนุษย์ไม่ม่สิทธิ์ ที่ จะคิดว่า เพื่อน มนุษย์ด้วยกันทำสิ่งที่ชั่วร้าย สมาชิกของโบสถ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำ ตามใจชอบในการที่จะปฏิบัติ ต่อเพื่อนสมาชิกด้วยกันที่ทำผิด เขา ไม่ควรจะมีอคติต่อคนทั้งหลายที่ทำผิด เพราะโดยการกระทำเช่นนี้ เขาได้เติมเชื้อแห่งความชั่วร้ายในจิตใจของคนอื่น ๆ เมื่อมีคำกล่าว ร้ายเกี่ยวกับสมาชิกคนหนึ่งสมาชิกของโบสถ์อี่น ๆ ก็นำเรื่องนั้นไป บอกกันต่อ ๆ ไป จนทุก ๆ คนในคริสตจักรทราบว่าสมาชิกผู้นั้นทำ ผิด และบางคนก็ไม่มีความเห็นอกเห็นในคนที่ทำผิด ในกรณีย์เช่น นี้ย่อมมีการกระทำที่ผิดพลาดและไม่ยุติธรรม เพราะสมาชิกของ โบสถ์บางคนไม่ยอมทำตามคำสอนของพระเยซู CCh1 300.3
พระคริสต์ตรัสว่า “หากว่าพี่น้องของท่านผู้หนึ่ง ทำผิดต่อ ท่าน จงไปแจ้งความผิดนั้นแก่เขาสองต่อสองเท่านั้น” ( มัดธาย บท ๑๘ ข้อ ๑๕ ) อย่าเอาความผิดของผู้นั้นไปบอกให้คนอื่นทราบ ต่อ ๆ กันไปอีก ถ้าท่านบอกคนหนึ่ง แล้วคนนั้นก็จะบอกต่อ ๆ กันไป ในไม่ชาข่าวนั้ก็ลือไปและยิ่งพูดก็ความผิดนั้นก็ดูเหมือน จะร้ายแรงยิ่งขึ้น จนกระทั่งทุก ๆ คนใน คริสตจักร รู้สึกเป็นทุกข์ เพราะการกระทำผิดของผู้นั้น จง พยายามพูดจาปรองดองกัน ระหว่างท่านกับเขาสองต่อสอง พระเจ้าทรงมีแผนการเช่นนี้ เหตุการณ์ใด ๆ ที่ตาของเจ้าได้เห็นแล้วนั้น อย่าด่วนออกไปถก เถียงกับใคร ๆ เกรงว่าเมื่อสุดปลายเจ้าจะจนแต้มแก่เพื่อนบ้าน และได้รับความอับอายขายหน้า ถ้ามีเรื่องราวอะไรกับเพื่อนบ้าน จงไปถกเถียงกับเขาเป็นส่วนตัว และอย่านำเอาเรื่องภายในของเขา ไปประจาน (สุภาษิตบท ๒๕ ข้อ ๘,๙) อย่าปล่อยให้พี่น้องของ ท่านผิดบาป แต่อย่านำเอาความผิดของเขาไปประจาน อย่านำเอา ความผิดของเขาไปบอกให้คนอื่น ๆ ทราบ จนดูเหมือนว่าท่านได้ แก้แค้นเขาโดนการทำเช่นนั้น จงช่วยตักเตือนสั่งสอนเขาให้กลับ ประพฤติดีตามที่พระเยซูทรงแนะนำไว้ CCh1 301.1
อย่าปล่อยให้ความเกลียดชังกลับกลายเป็นความอิจฉาริษยา เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดทำให้ท่านเจ็บช้ำใจอย่าพูดเหน็บแหนมเขาด้วยถ้อย คำอันเผ็ดร้อน การกระทำเช่นนั้นจะทำให้ผู้ที่ได้ฟังถ้อยคำของ ท่านรู้สึกขุ่นหมองใจ อย่าปล่อยให้ความคิดที่ขมขื่นมีอยู่ในใจของ ท่านและพี่น้องของท่าน จงไปหาพี่น้องของท่านแล้วจงพูดจาปรอง ดองกับเขาสองต่อสอง CCh1 302.1
ไม่ว่าท่านจะมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจ อย่างไรกับพี่น้องของ ท่าน ท่านก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเยซูคริสต์ในการที่จะ พูดจาปรองดองกันเพื่อให้ท่านกับเขาได้คืนดีกัน จงพูดกับผู้ที่ทำ ผิดแต่ลำพัง และตักเตือนเขาให้รู้สึกผิดการกระทำเช่นนี้จะช่วยให้ เขากลับทำดีได้ จงไปหาผู้ที่ทำผิดด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความรัก และความเห็นอกเห็นใจของพระคริสต์ แล้วพยายามพูดจาตกลงกับ ผู้นั้นให้เป็นที่เรียบร้อย จงพูดชี้แจงเหตุผลกับเขาอย่างเงียบ ๆ อย่า กล่าวถ้อยคำใด ๆ ที่แสดงความโกรธเคือง จงพูดตักเตือนเขาแต่ โดยดีเพื่อให้เขารู้สำนึกผิด จงระลึกถึงถ้อยคำที่ว่า ผู้ที่ช่วยคน บาปผู้หนึ่งให้กลับจากทางผิดของตนนั้นก็ได้ช่วยจิตวิญญาณดวง หนึ่งให้รอดพ้นจากความตายและได้ปกปิดการบาปเป็นอันมากไว้ (ยาโกโบ บท ๕ ข้อ ๒๐) CCh1 302.2
เมื่อพี่น้องของท่านทำผิดจงพูดชี้แจงให้เขารู้สึกผิดแล้ว ลับประพฤติดีใหม่ จงปฏิบัติหน้าที่จะช่วยเหลือเขา เพื่อเห็นแก่ ความสงบสุขและความสามัคคีปรองดองกันในคริสตจักรจงรู้สึกว่า ท่านมีหน้าที่ ๆ จะทำสิ่งนี้ ถ้าเขายอบเชื่อฟังท่าน ๆ ท่านก็ได้กลับ เป็นเพื่อนกับเขาอีก CCh1 303.1
บรรดาชาวสวรรค์มีความสนใจในการพูดจาปรองดองกัน ระหว่างผู้ที่ถูกกล่าวร้ายกับผู้ที่ทำผิดและยอมรับคำตักเตือนสั่งสอน ของพี่น้องของเขา แล้วขอให้พระเจ้าและพี่น้องของเขายกโทษให้ เขา จิตใจของเขาจะเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี ความขุ่นข้อง หมองใจจะสูญหายไปจากจิตใจของเขา เขาจะกลับคืนดีกับท่านกับ ท่านและมีความไว้วางใจในท่านอีก ความรักช่วยให้ความเข้าใจผิด ต่อกันสูญหายไป พระวิญญาณของพระเจ้าผูกมัดจิตใจท่านไว้กับ จิตใจพี่น้องของท่านและบรรดาชาวสวรรค์พากัน ร้องเพลงแสดง ความชื่นชมยินดีที่ท่านได้กลับคืนดีกับพี่น้องของท่าน CCh1 303.2
เมื่อคนทั้งหลายที่เป็นคริสเตียนร่วมใจกันอธิษฐานและปฏิ ญาณต่อพระเจ้าว่า เขาจะปฏิบัติต่อกันอย่างยุตติธรรม เขาจะรัก ความเมตตากรุณา และดำเนินกับพระเจ้าด้วยใจถ่อมลง เขาจะได้ รับพรมากมายจากพระเจ้า ถ้าหากเขาได้ทำผิดต่อผู้อื่น เขาจะกลับ ใจเสียใหม่ และสารภาพความผิดบาปแล้วกลับคืนดีกับพี่น้องของ เขาและตั้งใจว่าจะทำดีต่อที่น้องของเขา การกระทำเช่นนี้เป็นการ ทำตามบทบัญญัติของพระคริสต์ CCh1 304.1
แต่ถ้าเขาไม่ฟังท่าน จงนำคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย ให้เป็นพยานสองสามปาก เพื่อทุกคำจะเป็นหลักฐานได้ (มัด ธายบท ๑๘ ข้อ ๑๖) จงนำผู้ที่มีความชอบธรรมไปกับท่านด้วย และพูดกับผู้ที่ได้ทำผิดต่อท่าน เขาอาจจะยอมฟังคำขอร้องของ พี่น้องของเขา CCh1 304.2
ถ้าเขาไม่ยอมฟัง ท่านจะทำอย่างไร ? ควรจะให้สองสาม คนเป็นกรรมการตัดสินการกระทำผิดของผู้นั้น และให้เขาออกจาก การเป็นสมาชิกของโบสถ์หรือ ? ถ้าเขาไม่ฟังคนเหล่านั้นจงไป แจ้งความแก่โบสถ์ (ข้อ ๑๗) จงมอบให้เจ้าหน้าที่ในโบสถ์เป็น เป็นผู้จัดการเกี่ยวกับการกระทำของสมาชิกของโบสถ์ CCh1 305.1
ถ้าเขายังไม่ฟังโบสถ์อีก ก็ให้ถือเสียว่าเขาเป็นเหมือนคน ต่างประเทศหรือคนเก็บภาษี (ข้อ ๑๗) ถ้าเขาไม่ยอมฟังโบสถ์ และไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในโบสถ์ที่จะชักนำ ให้เขาประพฤติดี โบสถ์มีหน้าที่รับผิดชอบในการที่จะตัดเขาออก จากการเป็นสมาชิกของโบสถ์ ชื่อของเขาจะถูกคัดออกจากสมุด รายชื่อสมาชิกของโบสถ์ CCh1 305.2