แม่ว่าของที่พระองค์ประทานให้เราจะเป็นของเล็กน้อย แต่ ถ้าเรารู้จักนำไปใช้ด้วยความซื่อสัตย์เราก็สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ๆ พระเจ้าทรงมอบหมายให้เราได้ คนยากจนที่อาศัยอยู่ในกระท่อม เล็กๆอาจจะช่วยทำงานเกี่ยวกับการสอนพระคัมภีร์ตามบ้าน แล้ว สามารถจะชักจูงจิตวิญญาณมามอบถวายพระเจ้าได้ เมื่อมนุษย์ใช้อำนาจของเขาตามที่พระเจ้าทรงมุ่งหมาย เขา ก็จะมีความสามารถในการทำงานมากขึ้น และพระเจ้าจะประทาน สติปัญญาให้เขาสามารถจักจูงคนทั้งหลายมาสู่ความรอด แต่เมื่อ สมาชิกของโบสถ์เพิกเฉยละเลยไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่ๆ พระเจ้า ทรงมอบหมายให้ เขาจะหวังที่จะได้รับทรัพย์สมบัติจากสวรรค์ได้ อย่างไร? เมื่อคนทั้งหลายที่แสดงตนว่าเป็นคริสเตียนรู้สึกว่าเขา ไม่มีหน้าที่ๆจะชักจูงคนอื่นๆที่อยู่ในความมืดให้หันมาหาพระเจ้า เมื่อเขาไม่ยอมประกาศพระคำของพระเจ้าแก่คนอื่นๆที่ยังไม่รู้จัก พระองค์เขาก็จะไม่ได้รับประทานจากพระเจ้า เมื่อเขาเห็นว่า ของเหล่านั้นไม่มีค่า เขาก็คิดว่าเขาไม่จำเป็นที่จะแบ่งปันสิ่งเหล่า นั้นให้แก่คนอื่น เราได้เห็นโบสถ์ใหญ่ๆตั้งอยู่ในสถานที่หลายแห่ง สมาชิก ของโบสถ์เหล่านั้นได้เรียนรู้ถึงความจริงของพระเจ้า และหลาย คนพอใจที่จะรับเอาพระคำของพระเจ้าแต่เขาไม่ได้ประกาศ พระคำนั้นแก่ผู้อื่น เขาไม่มีความรับผิดชอบในการที่จะช่วยให้กิจ การของพระเจ้าเจริญก้าวหน้า เขามีความสนใจในการที่จะช่วยจิต วิญญาณให้ได้รับความรอดเพียงเล็กน้อย เขามีความสนใจในสิ่ง ต่างๆที่อยู่ฝ่ายโลก และในเวลาที่เขาทำกิจธุรการงานของเขาๆ มิได้คิดถึงเรื่องเกี่ยวกับศาสนา เขาพูดว่า “ศาสนาก็อยู่ส่วน ศาสนา งานก็อยู่ส่วนงาน” เขามิได้สนใจในเรื่องที่เกี่ยวกับ ศาสนาเลย เพราะเขามัวแต่หมกมุ่นในเรื่องการงาน เพราะเหตุที่สมาชิกของโบสถ์เหล่านี้ละทิ้งโอกาสที่เขา สามารถจะชักจูงผู้อื่นมาหาพระเจ้า เขาจึงไม่ “เจริญขึ้นในพระ คุณ และในความรู้ของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้ช่วยให้รอดของ เรา” (เปโตรฉบับสองบท ๓ ข้อ ๑๘) เพราะเหตุฉะนั้นเขาจึง เป็นผู้ที่มีความเชื่อน้อย ขาดความรู้และไม่มีความเจนจัดต่อชีวิต เขาไม่ได้มีรากฐานที่ตั้งมั่นคงอยู่ในความจริงของพระเจ้า ถ้าเขา ปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เรื่อยไป ซาตานก็จะชักจูงเขา ให้กระทำผิดในวาระที่สุดปลาย เพราะว่าเขาไม่มีดวงตาฝ่ายวิญ- ญาณจิตที่จะช่วยให้เขามองเห็นได้ว่าสิ่งที่ดีกับสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นแตก ต่างกันอย่างไร CCh1 148.1