เมื่อเซาโลเดินทางไปยังเมืองดามัสกัสพร้อมกับหนังสือมอบสิทธิอำนาจในการจับกุมไม่ว่าชายหรือหญิงที่กำลังประกาศออกนามของพระเยซู และมัดพวกเขาพามายังกรุงเยรูซาเล็ม ทูตสวรรค์ชั่วร้ายต่างปรีดาปราโมทย์อยู่รอบตัวท่าน แต่เมื่อท่านเดินทางอยู่ ในทันใดนั้นได้มีแสงสว่างส่องมาจากฟ้าสวรรค์ล้อมตัวท่านไว้รอบ ซึ่งทำให้ทูตสวรรค์ชั่วร้ายหนีกระเจิงไป และทำให้เซาโลล้มลงถึงดินอย่างรวดเร็ว ท่านได้ยินพระสุรเสียงตรัสแก่ท่านว่า “เซาโล เซาโลเอ๋ย เจ้าข่มเหงเราทำไม” เซาโลจึงทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด” และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราคือเยซู ที่เจ้าข่มเหง ซึ่งเจ้าถีบประดักก็ยากนัก” แล้วเซาโลก็ตัวสั่นและรู้สึกประหลาดใจจึงพูดว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ประสงค์จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เจ้าจงลุกขึ้นเข้าไปในเมือง และเจ้าจะต้องทำประการใดจะมีคนบอกให้รู้” GCTh 40.1
คนทั้งหลายที่อยู่กับท่านก็ยืนนิ่งพูดไม่ออก ได้ยินพระสุรเสียงนั้นแต่ไม่เห็นใคร เมื่อแสงสว่างผ่านพ้นไปและเซาโลได้ลุกขึ้นจากพื้นดิน และเมื่อลืมตาแล้วก็มองไม่เห็นใคร แสงสง่าราศีจากฟ้าสวรรค์ได้ทำให้ท่านตาบอด พวกเขาจึงจูงมือและนำท่านไปยังเมืองดามัสกัส ตาของท่านก็มืดมัวไปถึงสามวัน และท่านไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย แล้วพระผู้เป็นเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์ไปยังชายผู้หนึ่งผู้ที่เซาโลหมายจะไปจับมาขังไว้ และทรงเปิดเผยแก่ท่านโดยนิมิตว่าท่านจะต้องไปที่ถนนที่เรียกว่าถนนตรง ถามหาชายคนหนึ่งชื่อเซาโลชาวเมืองทาร์ซัสอยู่ในบ้านของยูดาส เพราะดูเถิด เขากำลังอธิษฐานอยู่ และในนิมิตเขาได้เห็นคนหนึ่งชื่ออานาเนียเข้ามาวางบนมือเขา เพื่อเขาจะได้เห็นอีก” GCTh 40.2
อานาเนียกลัวว่ามีเรื่องผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเริ่มทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงสิ่งที่เขาได้ยินมาเกี่ยวกับเซาโล ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับอานาเนียว่า “จงไปเถิด เพราะว่าคนนั้นเป็นภาชนะที่เราได้เลือกสรรไว้ สำหรับจะนำนามของเราไปยังประชาชาติ กษัตริย์และชนชาติอิสราเอล เพราะว่าเราจะสำแดงให้เขาเห็นว่า เขาจะต้องทนทุกข์ลำบากมากเท่าใดเพราะนามของเรา” แล้วอานาเนียก็ทำตามคำสั่งขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเข้าไปในบ้านวางมือบนเซาโลกล่าวว่า “พี่เซาโลเอ๋ย องค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระเยซู ได้ทรงปรากฏแก่ท่านกลางทางที่ท่านมานั้น ได้ทรงใช้ข้าพเจ้ามาเพื่อท่านจะได้เห็นอีก และเพื่อท่านจะประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” GCTh 40.3
ในทันใดนั้นเซาโลก็ได้เห็นอีก และลุกขึ้นรับบัพติศมา แล้วท่านก็ได้ประกาศสอนออกพระนามพระคริสต์ตามธรรมศาลาว่า พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า คนทั้งหลายที่ได้ยินท่านก็พากันประหลาดใจแล้วถามว่า “คนนี้มิใช่หรือที่ได้ทำลายคนในกรุงเยรูซาเล็มที่ร้องออกพระนามนี้ และเขามาที่นี่หวังจะผูกมัดพวกนั้นส่งให้พวกปุโรหิตใหญ่” แต่เซาโลยิ่งมีกำลังทวีขึ้นและทำให้พวกยิวตะลึงอึ้งอยู่ พวกเขาถูกกวนใจอีกครั้งหนึ่งแล้ว เซาโลได้เล่าถึงประสบการณ์ในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ คนเหล่านั้นต่างคุ้นเคยแต่ข้อเท็จจริงเรื่องการเป็นปรปักษ์กับพระเยซูของเซาโล และความกระตือรือร้นของท่านในการไล่ล่าและส่งผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ทุกคนไปสู่ความตาย การหันกลับใจใหม่อันน่าอัศจรรย์ของท่านได้ทำให้หลายคนเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า เซาโลได้เล่าเรื่องประสบการณ์ของท่าน ขณะเมื่อท่านได้กำลังข่มเหงทั้งชายและหญิงให้ถึงแก่ความตาย และจับมัดและส่งพวกเขาไปยังที่กักขัง ขณะเมื่อท่านเดินทางไปยังเมือดามัสกัส ในทันใดนั้นได้มีแสงสว่างเจิดจ้าส่งมาจากฟ้าสวรรค์ล้อมตัวท่านไว้รอบ และพระเยซูได้ทรงเผยพระองค์เองแก่ท่านและสอนท่านว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า เมื่อเซาโลได้ประกาศออกพระนามพระเยซูด้วยใจกล้าหาญ ท่านได้แบกอำนาจบารมีไปกับท่านด้วย ท่านมีความรู้เกี่ยวกับพระคัมภีร์และหลังจากที่ท่านได้หันกลับใจใหม่แล้ว แสงสว่างที่มาจากพระเจ้าได้ส่องลงบนคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูซึ่งทำให้ท่านได้ประกาศความจริงอย่างชัดแจ้งและด้วยใจกล้าหาญ และแก้ไขการบิดเบือนพระคัมภีร์ พระวิญญาณของพระเจ้าได้ประทับอยู่กับท่าน ท่านจึงได้ทำให้ผู้ฟังของท่านเข้าใจโดยชัดเจนและหนักแน่นตลอดเรื่องคำพยากรณ์จนถึงเวลาแห่งการเสด็จมาครั้งแรกของพระคริสต์ และแสดงให้พวกเขาเห็นว่าพระคัมภีร์ที่ได้กล่าวถึงการทุกข์ทรมานของพระคริสต์ การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ได้สำเร็จแล้ว GCTh 40.4
โปรดดู กิจการของอัครทูต บทที่ 9 GCTh 40.5