ข้าพเจ้าได้เห็นว่าพระเจ้าได้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาดลใจชาวนาผู้หนึ่งผู้ซึ่งไม่ได้เชื่อในพระคัมภีร์ และนำพาให้เขาได้ค้นหาคำพยากรณ์ ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้มาเยี่ยมผู้ที่ได้รับเลือกสรรผู้นี้ครั้งแล้วครั้งเล่า และได้นำสติปัญญาของท่านและเปิดความเข้าใจของท่านเกี่ยวกับคำพยากรณ์ซึ่งเคยมืดมนสำหรับพลไพร่ของพระเจ้า การเริ่มต้นของลูกโซ่แห่งความจริงได้ถูกมอบให้แก่ท่าน และท่านได้ถูกนำให้ไปค้นหาการเชื่อมต่อข้อนี้และข้อนั้น จนท่านได้มองพระวจนะของพระเจ้าด้วยความอัศจรรย์ใจและความเลื่อมใส ในนั้นท่านได้เห็นลูกโซ่แห่งความจริงอันสมบูรณ์ พระวจนะนั้นซึ่งท่านได้มองว่าไม่ได้รับการดลใจแต่อย่างใด บัดนี้ได้ถูกเปิดต่อสายตาของท่านแล้วด้วยความสวยงามและสง่าราศี ท่านได้เห็นพระคัมภีร์ตอนหนึ่งได้อธิบายอีกตอนหนึ่ง และเมื่อตอนหนึ่งได้ปิดความเข้าใจของท่าน ท่านก็ได้พบพระวจนะอีกตอนหนึ่งที่ได้อธิบายเกี่ยวกับสิ่งนั้น ท่านได้ถือพระวจนะอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดีและด้วยความเคารพและเกรงขามอย่างที่สุด GCTh 55.1
ในขณะที่ท่านได้ติดตามคำพยากรณ์เหล่านั้นไป ท่านก็ได้เห็นว่าประชากรโลกกำลังมีชีวิตอยู่ในฉากของประวัติศาสตร์โลกที่กำลังจะปิดลง และพวกเขาต่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย ท่านได้มองไปที่การเสื่อมถอยของคริสตจักร และได้เห็นว่าความรักของพวกเขาได้ถูกนำออกไปจากพระเยซูและถูกวางไว้ที่โลก และได้เห็นว่าพวกเขากำลังแสวงหาเกียรติยศทางโลกแทนเกียรติยศที่มาจากเบื้องบน กำลังทะเยอะทะยานสู่ความร่ำรวยทางโลกแทนที่จะสะสมทรัพย์สมบัติของพวกเขาในฟ้าสวรรค์ ท่านสามารถมองเห็นความหน้าซื่อใจคด ความมืด และความตายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง จิตวิญญาณของท่านถูกรบเร้าอยู่ภายใน พระเจ้าได้ทรงเรียกให้ท่านละทิ้งไร่นาของท่าน ดังเช่นที่เอลีชาได้ถูกเรียกให้ละทิ้งวัวและไร่นาที่ท่านได้ทำงานเพื่อติดตามเอลียาห์ ด้วยใจที่สั่นกลัววิลเลียม มิลเลอร์ ได้เริ่มตีแผ่ความลึกลับของอาณาจักรของพระเจ้าสู่ประชาชน ด้วยความพยายามทุกประการ (ในการตีแผ่ความลึกลับ) ท่านก็ได้รับแรงกำลัง ท่านได้นำพาประชาชนผ่านคำพยากรณ์ไปยังการเสด็จกลับมาครั้งสองของพระเยซู ดังที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้ประกาศการเสด็จมาครั้งแรกของพระเยซูและเตรียมมรรคาสำหรับการเสด็จมาของพระองค์นั้น เช่นเดียวกันวิลเลียม มิลเลอร์ และผู้ที่เข้าร่วมกับท่านก็ได้ประกาศการเสด็จมาครั้งที่สองของพระบุตรของพระเจ้า GCTh 55.2
ข้าพเจ้าได้ถูกนำกลับไปยังสมัยของอัครสาวก และได้รับการสำแดงให้เห็นท่านยอห์นผู้เป็นที่รัก ซึ่งพระเจ้าได้ทรงประทานภารกิจพิเศษให้ท่านกระทำให้สำเร็จ ซาตานมุ่งมั่นที่จะขัดขวางภารกิจนี้ มันได้ชักชวนให้สมุนผู้รับใช้ของมันทำลายยอห์น แต่พระเจ้าได้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์และพิทักษ์รักษาท่านไว้อย่างอัศจรรย์ใจ ทุกคนที่ได้เห็นฤทธิ์เดชอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ได้สำแดงในการช่วยกู้ยอห์นให้รอดพ้นต่างก็ประหลาดใจ และหลายคนก็ได้เชื่อว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับท่านและคำพยานที่ท่านได้ยึดถือเกี่ยวกับพระเยซูนั้นถูกต้อง คนเหล่านั้นที่พยายามทำลายท่านได้เกิดความกลัวที่จะพยายามเอาชีวิตของท่านอีกครั้ง และท่านได้ถูกยอมให้ทนทุกข์ทรมานต่อไปเพื่อพระเยซู ท่านได้ถูกกล่าวหาอันเป็นเท็จโดยศัตรูทั้งหลายของท่าน และในไม่ช้านั้นก็ได้ถูกเนรเทศไปอยู่บนเกาะร้างอันโดดเดี่ยวที่ซึ่งพระเจ้าได้ทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาเพื่อเปิดเผยให้ท่านได้รับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดบนแผ่นดินโลกนี้ และสภาพของคริสตจักรตลอดจนกระทั่งถึงวาระสุดท้าย การย้อนกลับอยู่ในสภาพเดิมของคริสตจักรและตำแหน่งของคริสตจักรน่าจะได้รับการครอบครอง หากคริสตจักรได้ทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัยและเอาชนะได้ในที่สุด ทูตจากฟ้าสวรรค์ได้มาหายอห์นในความโอ่อ่าตระการ ใบหน้าของท่านส่องประกายเปล่งปลั่งด้วยสง่าราศีอันดีเลิศแห่งฟ้าสวรรค์ ท่านได้ทรงเปิดเผยแก่ยอห์นถึงฉากของสิ่งที่น่าระทึกขวัญและน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับคริสตจักรของพระเจ้า และได้นำการต่อสู้ฟันฝ่าที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายที่พวกเขาจะต้องพาดผ่านมาไว้ต่อหน้าท่าน ยอห์นได้เห็นเขาทั้งหลายผ่านการทดลองใจอันน่าดุเดือดและถูกทำให้ขาวสะอาดและถูกขัดเกลา และในที่สุดจะได้กลายเป็นผู้ผ่านพ้นได้อย่างมีชัยอยู่รอดปลอดภัยอย่างสง่างามในราชอาณาจักรของพระเจ้า ใบหน้าของทูตสวรรค์ส่งรัศมีเจิดจ้าด้วยความชื่นชมยินดีและตระการตาเหลือยิ่ง ในขณะที่ท่านได้มองดูการช่วยกู้ให้รอดในวาระสุดท้ายของคริสตจักร และในขณะที่ท่านได้ตกอยู่ในภวังค์ด้วยสง่าราศีรุ่งโรจน์แห่งฉากนั้นเอง ด้วยความเคารพและยำเกรงอย่างลึกซึ้งท่านได้ทรุดตัวลงแทบเท้าของทูตสวรรค์เพื่อนมัสการท่าน ทูตสวรรค์ได้ยกท่านขึ้นในทันทีและตำหนิท่านอย่างอ่อนโยนว่า “อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เหมือนกับท่าน และพวกพี่น้องของท่านที่ยึดถือคำพยานของพระเยซู จงนมัสการพระเจ้าเถิด เพราะว่าคำพยานของพระเยซูนั้นเป็นหัวใจของการพยากรณ์” แล้วทูตสวรรค์ได้สำแดงให้ยอห์นเห็นเมืองสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความโชติช่วงตระการตาของเมืองนั้นและสง่าราศีอันสุกใส ยอห์นรู้สึกปลาบปลื้มใจและตื้นตันใจเป็นล้นพ้นด้วยสง่าราศีของเมืองนั้น ท่านมิได้จดจำคำตำหนิของทูตสวรรค์ก่อนหน้านี้ GCTh 55.3
แต่อีกครั้งหนึ่งที่ท่านทรุดตัวเพื่อนมัสการที่แทบเท้าของทูตสวรรค์ผู้ซึ่งกล่าวตำหนิท่านอีกครั้งหนึ่งด้วยความอ่อนโยนว่า “อย่าเลย ด้วยว่าข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เช่นเดียวกับท่าน และพวกพี่น้องของท่านคือพวกศาสดาพยากรณ์ และพวกที่ถือรักษาถ้อยคำในหนังสือนี้ จงนมัสการพระเจ้าเถิด” GCTh 56.1
นักเทศน์และประชาชนต่างมองหนังสือวิวรณ์ว่าลึกลับและมีความสำคัญน้อยว่าตอนอื่น ๆ ในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นว่า แท้จริงแล้วหนังสือเล่มนี้เป็นการเปิดเผยที่มีประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ที่มีชีวิตอยู่ในยุคสุดท้าย เพื่อแนะแนวทางให้เขาทั้งหลายค้นคว้าให้รู้แน่ถึงตำแหน่งที่ถูกต้องของเขาทั้งหลายและหน้าที่ของเขาทั้งหลายด้วย พระเจ้าได้ทรงนำหัวใจของวิลเลียม มิลเลอร์ ให้สนใจในคำพยากรณ์และทรงประทานแสงสว่างยิ่งเกี่ยวกับหนังสือวิวรณ์ให้แก่เขา GCTh 56.2
ถ้านิมิตของดาเนียลสามารถถูกทำให้เข้าใจได้ ประชาชนก็น่าจะเข้าใจนิมิตของยอห์นได้มากกว่า แต่ในเวลาที่ถูกต้อง พระเจ้าทรงดลใจผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรผู้ซึ่งด้วยความบริสุทธิ์และในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เปิดคำพยากรณ์ และแสดงความสอดคล้องกันของนิมิตของดาเนียลและของยอห์นและในตอนอื่น ๆ ของพระคัมภีร์ และได้ผลักดันใจของประชาชนอย่างเต็มไปด้วยอำนาจให้ตระหนักถึงคำเตือนอันศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงกลัวของพระวจนะเพื่อที่จะเตรียมตัวสำหรับการเสด็จมาของบุตรมนุษย์ ความปักใจเชื่ออย่างลึกซึ้งและจริงจังได้เกิดขึ้นในใจของผู้ที่ได้ยินเขา และศาสนาจารย์ผู้รับใช้และประชาชน คนบาปและคนนอกศาสนา ได้หันกลับมาหาพระผู้เป็นเจ้าเพื่อแสวงหาการเตรียมตัวในการยืนขึ้นต่อการพิพากษา GCTh 56.3
ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ร่วมทางไปกับวิลเลียม มิลเลอร์ ในภารกิจของเขา เขายืนหยัดมั่นคงและไม่ท้อถอย เขาได้ประกาศข่าวสารที่ได้ถูกมอบเป็นความรับผิดชอบของเขาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด โลกที่ได้วางอยู่บนความชั่วร้ายและคริสตจักรที่เย็นและเป็นไปในทางโลกนี้ก็เพียงพอที่จะเรียกให้เขาได้ใช้พละกำลังของเขาในการทำอะไรสักอย่าง และนำให้เขาอดทนต่อการเหนื่อยยาก ความคับแค้นใจ และความทุกข์ทรมานอย่างเต็มใจ ถึงแม้ว่าจะถูกคัดค้านโดยคริสตชนที่ปฏิญาณตัวและโลก และถูกปะทะรังแกโดยซาตานและพวกทูตสมุนของมันแล้ว เขาก็ไม่ลดละที่จะเทศนาข่าวประเสริฐอันเป็นอมตะให้แก่ชนชาวโลกทั้งปวง ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่ท่านได้รับเชิญไป และประกาศด้วยเสียงอันดังว่า “จงยำเกรงพระเจ้า และถวายสง่าราศีแด่พระองค์ เพราะถึงเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษาแล้ว” GCTh 56.4
โปรดอ่าน 1 พงศ์กษัตริย์ 19:16-21; ดาเนียล บทที่ 7-12; วิวรณ์บทที่ 1, 14:7, 19:8-10, 22:6-10 GCTh 56.5