ข้าพเจ้าได้เห็นบางคนที่มีความเชื่อเข้มแข็ง ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทูลอ้อนวอนต่อพระเจ้า สีหน้าของพวกเขาซีดขาวและปรากฏให้เห็นความวิตกกังวลอย่างสุดซึ้งที่แสดงถึงการต่อสู้ภายในจิตใจของพวกเขา ความมั่นคงแน่วแน่และความตั้งใจจริงอย่างยิ่งปรากฏฉายบนสีหน้าของพวกเขา ในขณะที่เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผากของพวกเขาและหยดลงมา บางทีใบหน้าของพวกเขาก็ฉายสว่างขึ้นด้วยเครื่องหมายแห่งการเห็นพ้องของพระเจ้า และอีกครั้งหนึ่งที่พวกเขากลับดูมีสายตาที่ถมึงทึง แน่วแน่ และเป็นกังวลเหมือนเช่นเดิม GCTh 80.1
ทูตสวรรค์ชั่วร้ายมุงล้อมพวกเขา กดดันความมืดของพวกมันลงบนพวกเขา และเพื่อที่ปิดบังไม่ให้พวกเขาได้เห็นพระเยซู และให้สายตาของพวกเขานั้นถูกดึงลงมาสู่ความมืดที่อยู่ล้อมรอบพวกเขา และพวกเขาไม่เชื่อมั่นในพระเจ้าและต่อไปก็ได้บานว่าพระองค์ ทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาปลอดภัยได้ก็คือการที่เฝ้ามองไปที่เบื้องบน เหล่าทูตสวรรค์ได้เฝ้าระวังป้องกันพลไพร่ของพระเจ้า และในขณะที่บรรยากาศอันเป็นพิษจากทูตสมุนอันชั่วร้ายเหล่านี้ได้กดดันบรรดาผู้วิตกกังวล เหล่าทูตสวรรค์ที่คอยปกป้องเขาทั้งหลายก็ได้กระพือปีกของพวกท่านอย่างต่อเนื่องเหนือพวกเขาเพื่อไล่ความมืดทึบที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่ให้กระจัดกระจายไป GCTh 80.2
ข้าพเจ้าได้เห็นว่าบางคนไม่ได้เข้าร่วมในภารกิจแห่งการร้องอ้อนวอนและความทุกข์ลำเค็ญนี้ พวกเขาดูเหมือนไม่แยแสและไม่ใส่ใจ พวกเขาไม่ได้ต้านทานความมืดที่อยู่รอบตัวเขา และมันได้บดบังพวกเขาไว้เหมือนดังเมฆาที่หนาทึบ ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ละทิ้งพวกเขา และไปช่วยเหลือบรรดาผู้ที่เฝ้าอธิษฐานด้วยใจที่ร้อนรน ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์ของพระเจ้ารีบเร่งเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คนเหล่านั้นทุกคน ที่กำลังดิ้นรนด้วยกำลังทั้งหมดที่พวกเขามี เพื่อต้านทานทูตสวรรค์ชั่วร้ายเหล่านั้น และพยายามจะช่วยตัวเองโดยการร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าด้วยความมานะบากบั่น แต่เหล่าทูตสวรรค์ได้ละทิ้งคนเหล่านั้นผู้ที่ไม่พยายามช่วยเหลือตัวเอง และข้าพเจ้าก็มองไม่เห็นพวกเขาอีกเลย GCTh 80.3
ในขณะที่บรรดาผู้เฝ้าอธิษฐานเหล่านี้ยังคงประกาศเสียงร้องต่อไปด้วยความร้อนรน ครั้งแล้วครั้งเล่ารังสีแห่งแสงสว่างที่มาจากพระเยซูได้มาสู่เขาทั้งหลาย และเสริมกำลังให้แก่จิตใจของเขาทั้งหลายและทำให้สีหน้าของเขาทั้งหลายสว่างไสว GCTh 80.4
ข้าพเจ้าได้ถามถึงความหมายของการฝัดร่อนที่ข้าพเจ้าได้เห็น ข้าพเจ้าได้รับการสำแดงให้เห็นว่ามันเกิดมาจากคำพยานที่ตรงไปตรงมา ที่ได้ถูกเรียกออกมาจากคำแนะนำของพยานที่สัตย์จริงที่มีไปหาชาวเมืองเลาดีเซีย มันจะเกิดผลกับหัวใจของผู้ที่ได้ตอบรับคำพยานนี้ และจะนำพาเขาให้ยกมาตรฐานและหลั่งเทความจริงที่ตรงไปตรงมานี้ออกมา คำพยานที่ตรงไปตรงมานี้บางคนจะไม่ยอมแบกรับ พวกเขาจะลุกขึ้นต่อต้านมัน และนี่จะเป็นสาเหตุให้เกิดการฝัดร่อนท่ามกลางพลไพร่ของพระเจ้า GCTh 80.5
ข้าพเจ้าได้เห็นว่าคำพยานของพยานที่สัตย์จริงนั้นมิได้ถูกเอาใจใส่แม้แต่ครึ่งเดียว คำพยานอันน่าคร้ามกลัวที่โชคชะตาของคริสตจักรแขวนอยู่นี้ ได้ถูกนับถือเพียงเล็กน้อยหรือไม่ก็เกือบจะไม่ได้รับการเอาใจใส่เลยแม้แต่นิดเดียว คำพยานนี้จะต้องนำการกลับใจอย่างลึกซึ้งมาให้ และทุกคนที่ได้ตอบรับอย่างแท้จริงก็จะเชื่อฟังคำพยานนี้และได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ GCTh 80.6
ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวว่า “จงฟังเถิด!” ในไม่ช้าข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงที่ฟังดูเหมือนเครื่องดนตรีมากมาย ทั้งหมดมีท่วงทำนองเพลงที่เลอเลิศ หวานซึ้งและประสานกลมกลืน มันไพเราะเลิศล้ำกว่าดนตรีใด ๆ ที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมา มันดูราวกับว่าเต็มไปด้วยความเมตตาปราณี ความสงสาร และความปีติยินดีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ยกระดับจิตใจ มันทำให้ข้าพเจ้าเสียววาบไปทั่วร่าง ทูตสวรรค์องค์นั้นได้กล่าวว่า “จงดูเถิด!” แล้วความสนใจของข้าพเจ้าก็ได้หันไปสู่กลุ่มคนที่ข้าพเจ้าได้เห็นมาก่อนหน้านี้ผู้ที่ถูกฝัดร่อนอย่างแรง ข้าพเจ้าได้รับการสำแดงให้เห็นคนเหล่านั้นที่ข้าพเจ้าได้เห็นก่อนหน้านี้ ที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญอยู่และเฝ้าอธิษฐานด้วยจิตวิญญาณที่เจ็บปวดรวดร้าว ข้าพเจ้าได้เห็นกลุ่มทูตสวรรค์ที่คอยปกปักรักษาเขาทั้งหลายอยู่รอบ ๆ นั้น ได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและเขาทั้งหลายได้สวมเครื่องแต่งกายด้วยยุทธภัณฑ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาทั้งหลายได้เคลื่อนไปด้วยระเบียบบัญชาที่เที่ยงตรงและคงมั่นดังกองทัพทหาร สีหน้าของเขาทั้งหลายได้สำแดงถึงการต่อสู้อย่างรุนแรง ซึ่งเขาทั้งหลายได้อดทนและการยื้อยุดที่เจ็บปวดรวดร้าวที่เขาทั้งหลายได้ผ่านไปได้ แต่กระนั้นใบหน้าของเขาทั้งหลายซึ่งได้ปรากฏรอยแห่งความปวดร้าวภายในที่รุนแรง ขณะนี้ได้ฉายไปด้วยแสงและสง่าราศีแห่งฟ้าสวรรค์ พวกเขาได้รับชัยชนะและชัยชนะนั้นได้เรียกร้องความรู้สึกขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งจากเขาทั้งหลายและความปีติยินดีอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ GCTh 80.7
จำนวนของคนกลุ่มนี้ได้ลดน้อยลง บางคนได้ถูกฝัดร่อนออก และจากไปตามหนทาง ผู้ที่ประมาทและไม่แยแสผู้ซึ่งไม่ยอมเข้าร่วมกับคนเหล่านั้นที่มิได้เห็นคุณค่าของชัยชนะและความรอดมากพอที่จะยอมเจ็บปวดปวดร้าว ที่จะยอมพากเพียรบากบั่น และที่จะยอมอ้อนวอนร้องขอมัน กลับไม่ได้รับสิ่งนั้นมา และพวกเขาก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังในความมืด และจำนวนของพวกเขาได้ถูกเสริมเข้าไปในทันทีโดยคนอื่นที่ได้ยอมรับเอาความจริง และได้เข้ามาอยู่ในแถวนั้นแทน ทูตสวรรค์ชั่วร้ายก็ยังคงผลักดันอยู่ล้อมรอบพวกเขา แต่พวกมันไม่สามารถมีอำนาจเหนือพวกเขาได้ GCTh 80.8
ข้าพเจ้าได้ยินคนเหล่านั้นที่ทรงเครื่องยุทธภัณฑ์ ได้ประกาศความจริงออกมาด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ มันได้เกิดผล ข้าพเจ้าได้เห็นคนเหล่านั้นผู้ที่ได้ถูกผูกมัด ภรรยาบางคนได้ถูกมัดโดยสามีของพวกเธอ และลูกบางคนได้ถูกมัดโดยพ่อแม่ ผู้ซื่อสัตย์ที่ได้ถูกยึดไว้หรือถูกกีดกันจากการได้ยินความจริง ขณะนี้ได้ฉวยความจริงที่ได้ประกาศออกมานี้อย่างกระตือรือร้น ความกลัวทั้งหมดที่มีต่อญาติพี่น้องของพวกเขาได้มลายหายไป มีเพียงความจริงเท่านั้นที่มีความสำคัญสำหรับพวกเขา มันเป็นสิ่งที่น่าหวงแหนและมีค่ามากยิ่งกว่าชีวิต พวกเขาได้หิวและกระหายความจริง ข้าพเจ้าได้ถามว่าอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้ ทูตสวรรค์องค์หนึ่งตอบว่า มันคือฝนปลายฤดู ความชื่นใจยินดีที่มาจากพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเสียงร้องอันดังของทูตสวรรค์องค์ที่สาม GCTh 80.9
ฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่ได้อยู่กับบรรดาผู้ที่ได้รับการเลือกสรรเหล่านี้ ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวว่า “จงดูเถิด!” แล้วความสนใจของข้าพเจ้าก็ได้หันไปสู่คนชั่วหรือผู้ที่ไม่เชื่อ พวกเขาถูกปั่นป่วนโดยทั่ว ความกระตือรือร้นและฤทธิ์เดชที่อยู่กับพลไพร่ของพระเจ้าได้ถูกปลุกเร้าและทำให้พวกเขารู้สึกเดือดดาล ทุกหนทุกแห่งมีแต่ความสับสนกับความสับสน ข้าพเจ้าได้เห็นมาตรการทั้งหลายได้ถูกกำหนดขึ้นต่อต้านกลุ่มคนผู้ที่กำลังครอบครองฤทธิ์เดชและแสงสว่างจากพระเจ้า ความมืดได้หนาแน่นขึ้นรอบพวกเขา แต่พวกเขาก็ได้ยืนอยู่ที่นั่น ได้รับการยอมรับจากพระเจ้าและวางใจในพระองค์ ข้าพเจ้าได้เห็นพวกเขางุนงงสับสน ต่อไปข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงพวกเขาร้องทูลต่อพระเจ้าอย่างร้อนรน ตลอดคืนและวันการร้องของพวกเขาก็ไม่หยุดหย่อน ข้าพเจ้าได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ที่ว่า “พระองค์เจ้าข้า ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เถิด ถ้ามันจะเป็นการถวายเกียรติแด่พระนามของพระองค์ ขอทรงกระทำหนทางหนีรอดให้แก่พลไพร่ของพระองค์ ขอทรงช่วยปลดปล่อยพวกเราจากคนนอกรีตที่อยู่รอบตัวเรา พวกเขาได้กำหนดความตายให้แก่พวกเรา หากแต่พระหัตถ์ของพระองค์สามารถนำความรอดมาให้” ทั้งหมดนี้คือถ้อยคำที่ข้าพเจ้าจำได้ พวกเขาดูเหมือนจะมีความรู้สึกอย่างลึกซึ้งถึงความเป็นคนไร้ค่าของพวกเขา และได้สำแดงออกถึงการมอบถวายทั้งปวงให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แต่ทุกคนก็ยังเฝ้าร้องทูลขออย่างร้อนรน และปล้ำสู้เพื่อการปลดปล่อย ประหนึ่งเดียวกับยาโคบโดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ หลังจากที่พวกเขาได้เริ่มต้นร้องทูลขออย่างร้อนรนไม่นานนัก เหล่าทูตสวรรค์ก็คงจะไปช่วยปลดปล่อยพวกเขาด้วยความสงสารเห็นใจแล้ว หากแต่ทูตสวรรค์บัญชาการร่างสูงใหญ่กลับไม่อนุญาตพวกท่าน ท่านได้กล่าวว่า “น้ำพระทัยของพระเจ้ายังไม่สำเร็จลง พวกเขาจะต้องดื่มจากถ้วยนั้น พวกเขาจะต้องรับบัพติศมาด้วยบัพติศมานั้น” GCTh 81.1
ในไม่ช้าข้าพเจ้าก็ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าที่ได้เขย่าท้องฟ้าและแผ่นดินโลก มันได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ ตึกอาคารสั่นสะเทือนและล้มครืนลงมาทุกหนทุกแห่ง แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงโห่ร้องแห่งความมีชัยดังก้องกังวานราวกับเสียงดนตรีและชัดเจน ข้าพเจ้าได้มองไปที่คนกลุ่มนี้ผู้ที่ไม่นานก่อนหน้านี้ได้อยู่ในความระทมทุกข์และตกเป็นทาสผูกมัด การถูกคุมขังของพวกเขาได้เปลี่ยนเป็นการปลดปล่อย แสงสว่างและสง่าราศีได้ฉายลงบนพวกเขา แล้วพวกเขาก็ช่างดูสวยงามเหลือเกิน ความเหนื่อยอ่อนทั้งปวงและรอยแห่งความกังวลทั้งหลายได้หายไป ความผ่องใสและความสวยงามได้ถูกพินิจบนใบหน้าทุกใบ ศัตรูของพวกเขาคือพวกนอกรีตที่อยู่รอบตัวของพวกเขานั้น ล้มลงดังคนที่ตายแล้ว พวกเขาไม่สามารถทนต่อแสงสว่างที่ฉายมาบนบรรดาผู้ที่บริสุทธิ์ที่ได้รับการปลดปล่อยเหล่านี้ แสงสว่างและสง่าราศีนี้ยังคงอยู่กับพวกเขา จนกระทั่งพวกเขาได้เห็นพระเยซูในหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์ และกลุ่มคนที่สัตย์ซื่อและได้รับการทดลองใจได้ถูกเปลี่ยนไปในชั่วพริบตาเดียวจากสง่าราศีสู่สง่าราศี และหลุมฝังศพก็ได้ถูกเปิดขึ้นและเหล่าวิสุทธิชนซึ่งสวมเสื้อผ้าแห่งความเป็นอมตะได้ออกมร้องประกาศชัยชนะเหนือความตายและหลุมฝังศพ และพร้อมกับเหล่าวิสุทธิชนที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น พวกเขาได้ถูกรับขึ้นไปพบกับพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาที่ในอากาศ ในขณะที่เสียงโห่ก้องราวกับเสียงดนตรีอันน่าฟังแห่งสง่าราศีและชัยชนะนั้น ก็ได้ออกมาจากทุกลิ้นอมตะและมาจากทุกริมฝีปากอันบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ GCTh 81.2
โปรดอ่านสดุดีบทที่ 86; โฮเซยา 6:3; ฮักกัย 2:21-23; มัทธิว 10:35-39, 20:23; เอเฟซัส 6:10-18; 1 เธสะโลนิกา 4:14-18; วิวรณ์ 3:14-22 GCTh 81.3