อ้างอิงจากมัทธิว 22:1-14
อุปมาเรื่องการสวมเสื้อเข้าร่วมงานพิธีอภิเษกสมรสเปิดเผยเพื่อให้เรารับบทเรียนสำคัญของผลการกระทำที่ติดตามมา พิธีสมรสนี้ทำให้เราเห็นถึงความผูกพันระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า เสื้อสำหรับงานแต่งงานหมายถึงอุปนิสัยที่ทุกคนจะต้องมีเพื่อให้เหมาะสมที่จะเป็นแขกสำหรับพิธีอภิเษกสมรส {COL 307.1} COLTh 273.1
อุปมานี้ มีความคล้ายคลึงกับอุปมาเรื่องงานเลี้ยงใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงคำเชื้อเชิญของข่าวประเสริฐ การปฏิเสธข่าวประเสริฐของชาวยิวและการทรงเรียกคนต่างชาติด้วยความเมตตา แต่ในส่วนของผู้ที่ปฏิเสธคำเชื้อเชิญ อุปมานี้เปิดเผยให้เห็นถึงการหมิ่นประมาทที่ร้ายแรงและการลงโทษน่าสะพรึงกลัวที่รุนแรงยิ่งขึ้น คำเชื้อเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงเป็นคำเชิญของกษัตริย์ เป็นคำเชิญที่ประกาศจากผู้ที่มีอำนาจสั่งการ เป็นการให้เกียรติอย่างสูง แต่กระนั้นเกียรตินี้ไม่ได้รับการสนองด้วยสำนึกในพระคุณ พวกเขาหมิ่นราชอำนาจของกษัตริย์ ในขณะที่คำเชิญของเจ้าบ้านถูกเพิกเฉย พระบัญชาเชิญของกษัตริย์ต้องพบกับการลบหลู่และการเข่นฆ่า พวกเขาปฏิบัติกับคนรับใช้ของพระองค์ด้วยความเหยียดหยามและใช้พวกเขาอย่างอาฆาตแค้นและสังหารพวกเขาเสีย {COL 307.2} COLTh 273.2
เมื่อเจ้าบ้านเห็นว่าคำเชิญถูกดูแคลน จึงประกาศห้ามทุกคนที่ปฏิเสธคำเชิญลิ้มรสอาหารในงานเลี้ยงของท่าน แต่สำหรับผู้ที่กระทำการดูหมิ่นกษัตริย์นั้น พวกเขาไม่เพียงถูกตัดขาดจากเบื้องพระพักตร์และโต๊ะเสวยของพระองค์ แต่ยังได้รับพระบัญชาว่า “ให้กองทหารไปฆ่าฆาตกรเหล่านั้น และเผาเมืองของพวกเขา” มัทธิว 22:7 {COL 307.3} COLTh 274.1
ในอุปมาทั้งสองนี้ งานเลี้ยงมีแขกรับเชิญ แต่อุปมาเรื่องที่สองแสดงให้เห็นว่าคนที่ประสงค์เข้าร่วมงานเลี้ยงจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ผู้ที่ละเลยในการเตรียมตัวจะถูกโยนออกไปข้างนอก “ กษัตริย์องค์นั้นเสด็จไปทอดพระเนตรแขกทั้งหลาย ก็ทอดพระเนตรเห็นคนหนึ่งไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส จึงตรัสถามว่า เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส คนนั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงมีรับสั่งกับพวกคนรับใช้ว่า จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้งบริเวณที่มืดข้างนอก ซึ่งเป็นที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน” มัทธิว 22:11-13 {COL 308.1} COLTh 274.2
สาวกของพระคริสต์เป็นผู้นำคำเชิญชวนเข้าร่วมงานเลี้ยงไปประกาศ พระเป็นเจ้าของเราทรงบัญชาสาวกสิบสองคนออกไป และต่อมาทรงส่งไปอีกเจ็ดสิบคน เพื่อประกาศว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นเข้ามาใกล้แล้ว และทรงเรียกให้มนุษย์กลับใจและเชื่อข่าวประเสริฐ แต่การทรงเรียกนั้นไม่ได้รับการตอบสนอง ผู้ที่ได้รับการเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงนั้นไม่ได้มา ต่อมาจึงทรงบัญชาให้ข้าราชการอื่นออกไปอีกครั้งประกาศว่า “นี่แนะ เราเตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทั้งวัวและลูกวัวอ้วนของเราก็ฆ่าไว้แล้ว ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมแล้ว เชิญมาในงานเลี้ยงอภิเษกสมรสนี้เถิด ” มัทธิว 22:4 นี่คือข่าวที่มอบไว้ให้กับชาวยิวหลังจากที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขน แต่ชนชาติที่อ้างตนว่าเป็นประชากรพิเศษของพระเจ้ากลับปฏิเสธข่าวประเสริฐที่มายังเขาทั้งหลายด้วยฤทธิ์อำนาจพระวิญญาณบริสุทธิ์ คนมากมายปฏิบัติต่อข่าวนี้ด้วยความหมิ่นประมาท คนอื่นๆ ฉุนเฉียวเมื่อได้รับข้อเสนอคำเชิญแห่งความรอด ข้อเสนอการอภัยที่ปฏิเสธพระเจ้าแห่งสง่าราศีจนพวกเขาหันหลังให้กับผู้นำข่าว เวลานั้น “เกิดการข่มเหงคริสตจักรครั้งใหญ่” กิจการ 8:1 ชายและหญิงจำนวนมากถูกจับเข้าคุกและผู้สื่อข่าวบางคนของพระเจ้าอย่างเช่น สเทเฟนและยากอบถูกฆ่า {COL 308.2} COLTh 274.3
ด้วยเหตุนี้ ชาวยิวประทับตราปฏิเสธพระคุณของพระเจ้า พระคริสต์ทรงทำนายผลที่เกิดขึ้นไว้ในอุปมา กษัตริย์จึง “รับสั่งให้กองทหารไปฆ่าฆาตกรเหล่านั้นและเผาเมืองของพวกเขา” มัทธิว 22:7 คำพิพากษาที่ตกมายังชาวยิวมาถึงพวกเขาเมื่อกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายและประชาชาติก็กระจัดกระจายไป {COL 308.3} COLTh 275.1
การออกไปเชิญครั้งที่สามหมายถึงการนำข่าวประเสริฐไปให้แก่คนต่างชาติ กษัตริย์ตรัสว่า “ งามอภิเษกสมรสเตรียมพร้อมแล้ว แต่พวกที่ได้รับเชิญนั้นไม่คู่ควร เพราะฉะนั้นจงออกไปตามถนนสำคัญๆ ต่างๆ เชิญทุกคนที่พวกเจ้าพบมาร่วมงานอภิเษกสมรสนี้” มัทธิว 22:8, 9 {COL 309.1} COLTh 275.2
ข้าราชการที่ออกไปตามถนนได้รวบรวม “ ทุกคนที่พบ ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลว ” มัทธิว 22:10 แขกในงานเป็นกลุ่มคนที่หลากหลาย บางคนไม่มีความเคารพจริงใจให้กับเจ้าภาพของงานเลี้ยงมากไปกว่าคนกลุ่มแรกที่ปฏิเสธคำเชิญ คนกลุ่มแรกที่ได้รับเชิญคิดว่าพวกเขาไม่อาจยอมสูญเสียผลประโยชน์ต่างๆ ในโลกเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงของกษัตริย์ และสำหรับผู้ที่รับคำเชิญนั้น มีบางคนรับไปก็เพื่อผลประโยชน์สำหรับตนเอง คนเหล่านี้มาเพื่อร่วมกินดื่มในงานเลี้ยงแต่ไม่ได้ต้องการถวายเกียรติกษัตริย์ {COL 309.2} COLTh 275.3
เมื่อกษัตริย์เสด็จทอดพระเนตรบรรดาแขก อุปนิสัยที่แท้จริงของทุกคนก็ถูกเปิดเผย เพราะแขกทุกคนที่มางานเลี้ยงจะได้รับเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส เสื้อตัวนี้เป็นของขวัญจากกษัตริย์ เมื่อสวมเสื้อนี้เข้าร่วมงานก็แสดงถึงความเคารพของแขกที่มีต่อผู้จัดงานเลี้ยง แต่มีแขกคนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาของตน เขาปฏิเสธการเตรียมพร้อมเพื่อทำตามพระประสงค์ของกษัตริย์ เสื้อราคาแพงที่เตรียมมาให้นั้นเขากลับรังเกียจที่จะสวมใส่ ด้วยการทำเช่นนี้ เขาหมิ่นประมาทเจ้านายของตนเอง กษัตริย์รับสั่งว่า “เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส” เขาตอบไม่ได้และกษัตริย์ตรัสว่า “ จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้งบริเวณที่มืดข้างนอก” มัทธิว 22:12, 13 {COL 309.3} COLTh 275.4
การตรวจสอบแขกในงานเลี้ยงขอกษัตริย์หมายถึงพระราชกิจแห่งการพิพากษา แขกในงานเลี้ยงแห่งข่าวประเสริฐเป็นผู้ที่แสดงตนว่ารับใช้พระเจ้า เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในหนังสือแห่งชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่แสดงตนว่าเป็นคริสเตียนเป็นสาวกแท้ ก่อนการประทานบำเหน็จรางวัลครั้งสุดท้าย จะต้องตัดสินว่าผู้ใดเหมาะที่จะเข้าร่วมรับมรดกแห่งความชอบธรรม การตัดสินนี้จะทำก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ในเมฆแห่งสวรรค์ เพราะเมื่อพระองค์เสด็จมา พระองค์จะทรงนำบำเหน็จรางวัลมาด้วย “เพื่อตอบแทนตามการกระทำของแต่ละคน” วิวรณ์ 22:12 ดังนั้นก่อนพระองค์เสด็จมา อุปนิสัยของทุกคนจะผ่านการตัดสินและผู้ติดตามพระคริสต์ทุกคนจะได้รับรางวัลตามสัดส่วนของการกระทำของเขา {COL 310.1} COLTh 276.1
ขณะที่มนุษย์ยังอาศัยอยู่ในโลกใบนี้ การพิจารณาพิพากษาในบัลลังก์ศาลสวรรค์จะดำเนินไปด้วย ชีวิตของผู้แสดงตนว่าติดตามพระเจ้าจะผ่านการตรวจสอบอยู่เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ ทุกคนจะผ่านการพิจารณาตามที่บันทึกไว้ในหนังสือแห่งสวรรค์และตามการกระทำของเขา ชะตาของแต่ละคนจะถูกกำหนดตลอดนิรันดร์ {COL 310.2} COLTh 276.2
เสื้องานอภิเษกสมรสในอุปมาหมายถึงอุปนิสัยบริสุทธิ์ปราศจากด่างพร้อยของผู้ติดตามพระคริสต์อย่างซื่อสัตย์ คริสตจักรรับบัญชาให้ “ สวมใส่ผ้าป่านเนื้อละเอียด มันระยับและสะอาด ” “ไม่มีด่างพร้อย ริ้วรอย หรือมลทินใดๆ เลย” วิวรณ์ 19:8 เอเฟซัส 5:27 พระคัมภีร์อธิบายว่าผ้าป่านเนื้อละเอียดคือ “การประพฤติอันชอบธรรมของธรรมิกชน” วิวรณ์ 19:8 เป็นความชอบธรรมของพระคริสต์และพระลักษณะนิสัยที่ปราศจากตำหนิของพระองค์ ที่ทรงโปรดประทานแก่ทุกคนที่รับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดโดยความเชื่อ {COL 310.3} COLTh 276.3
เมื่อพระเจ้าทรงจัดบรรพบุรุษคู่แรกของเราให้อยู่ในสวนเอเดนอันบริสุทธิ์ เขาทั้งสองสวมเสื้อคลุมแห่งความบริสุทธิ์ ทั้งสองดำรงชีวิตสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้า พวกเขาถวายพลังแห่งความรักทั้งหมดให้พระบิดาแห่งสวรรค์ แสงงดงามอันละมุนละไมของพระเจ้าล้อมผู้บริสุทธิ์ทั้งคู่ เสื้อคลุมแห่งแสงสว่างนี้เป็นสัญลักษณ์เสื้อคลุมฝ่ายจิตวิญญาณแห่งความบริสุทธิ์ของสวรรค์ หากเขาทั้งสองยังคงความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า แสงสว่างนี้จะห้อมล้อมเขาตลอดไป แต่เมื่อบาปเข้ามา เขาทั้งสองถูกตัดขาดจากพระเจ้าและแสงที่ห้อมล้อมเขาทั้งสองก็จากไป เขาจึงตกอยู่ในสภาพเปลือยกายและอับอาย จึงนำใบมะเดื่อเย็บเป็นเครื่องปกปิดกายเพื่อทดแทนเสื้อผ้าแห่งสวรรค์ {COL 310.4} COLTh 277.1
ผู้ละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้าพยายามทำอย่างนี้มาตลอด ตั้งแต่สมัยอาดัมและเอวาขัดขืนไม่เชื่อฟังพระเจ้า เขาทั้งสองเย็บใบมะเดื่อเพื่อใช้ปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าอันเกิดจากการล่วงละเมิด พวกเขาสวมเสื้อตามที่ตัวเองคิดค้นขึ้นโดยการกระทำของตนเอง พวกเขาพยายามปกปิดบาปของตนเองและทำตัวให้พระเจ้าทรงยอมรับ {COL 311.1} COLTh 277.2
แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มีทางทำได้ ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ทำขึ้นจะเข้าแทนการสูญเสียเสื้อแห่งความบริสุทธิ์ได้ ผู้ที่จะไปร่วมนั่งกับพระคริสต์และเหล่าทูตสวรรค์ในงานเลี้ยงพิธีอภิเษกสมรสของพระเมษโปดกจะสวมเสื้อที่ทำจากใบมะเดื่อหรือเสื้อประจำชาติไม่ได้ {COL 311.2} COLTh 277.3
เครื่องปกปิดที่พระคริสต์ประทานให้เท่านั้นที่ทำให้เราเป็นผู้เหมาะสมที่จะอยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้าได้ เครื่องปกปิดหรือเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมของพระคริสต์จะทรงโปรดประทานให้กับจิตวิญญาณทุกดวงที่กลับใจและเชื่อ พระองค์ตรัสว่า “ เราแนะนำเจ้าให้ซื้อ….เสื้อผ้าสีขาวเพื่อจะได้สวมให้พ้นจากความอับอายที่เจ้าต้องเปลือยกาย ” วิวรณ์ 3:18 {COL 311.3} COLTh 277.4
เสื้อคลุมที่ทำจากเครื่องทอแห่งสวรรค์ไม่มีด้ายแม้สักเส้นที่มนุษย์ทำขึ้น สภาพความเป็นมนุษย์ของพระคริสต์ทออุปนิสัยที่สมบูรณ์แบบ และอุปนิสัยนี้พระองค์ทรงเสนอที่จะประทานให้แก่เรา “ความชอบธรรมทั้งหมดของพวกข้าพระองค์เหมือนเสื้อผ้าสกปรก” อิสยาห์ 64:6 ทุกสิ่งที่เราทำแปดเปื้อนด้วยบาป แต่พระบุตรของพระเจ้า “ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไปและไม่มีบาปในพระองค์เลย” บาปนี้หมายถึงการ “ประพฤติผิดธรรมบัญญัติ” 1 ยอห์น 3:5, 4 แต่พระคริสต์ทรงปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อของพระบัญญัติ พระองค์ตรัสถึงตนเองว่า “ข้าพระองค์ยินดีทำตามพระทัยพระองค์ ธรรมบัญญัติของพระองค์อยู่ในจิตใจของข้าพระองค์” สดุดี 40:8 ขณะประทับอยู่ในโลกนี้ พระองค์ตรัสกับสาวกว่า “ เราประพฤติตามบัญญัติของพระบิดา” ยอห์น 15:10 โดยการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์แบบนี้ พระองค์ทรงเตรียมทางที่เป็นไปได้เพื่อให้มนุษย์ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า เมื่อเรามอบถวายตัวเราให้กับพระคริสต์ จิตใจของเราเข้าร่วมกับพระทัยของพระองค์ ความตั้งใจของเราจะเข้าสมานกับพระทัยของพระองค์ ความคิดของเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับความคิดของพระองค์ เราดำเนินชีวิตของพระองค์ นี่คือความหมายของการสวมเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงทอดพระเนตรเรา พระองค์จะไม่เห็นเสื้อที่ทำจากใบมะเดื่อ ไม่เห็นความเปลือยเปล่าและความน่าเกลียดของบาป แต่จะทรงเห็นเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมของพระองค์เอง ซึ่งเป็นการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ต่อพระบัญญัติของพระยาห์เวห์ {COL 311.4} COLTh 277.5
กษัตริย์ทรงตรวจสอบแขกที่มาในงานเลี้ยงอภิเษกสมรส ผู้ที่รับการยอมรับคือผู้ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและสวมเสื้ออภิเษกสมรสเท่านั้น แขกที่ได้รับเชิญในงานเลี้ยงแห่งข่าวประเสริฐจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน ทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบของจอมราชาผู้ยิ่งใหญ่ และผู้ที่สวมเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมของพระคริสต์เท่านั้นจะได้รับการยอมรับ {COL 312.1} COLTh 278.1
ความชอบธรรมคือการกระทำที่ถูกต้อง และทุกคนจะถูกพิพากษาตามความประพฤติของเรา อุปนิสัยของเราจะแสดงออกมาให้เห็นจากสิ่งที่เราทำ ผลจะแสดงให้เห็นว่าความเชื่อนั้นเป็นความเชื่อที่แท้จริงหรือไม่ {COL 312.2} COLTh 278.2
การเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ไม่ใช่ผู้หลอกลวงนั้นไม่เพียงพอ และศาสนาของพระคัมภีร์ไม่ใช่นิยายที่ปรุงแต่งขึ้นอย่างไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เราอาจเป็นผู้ที่เชื่อว่าพระนามของพระเยซูเป็นพระนามเดียวภายใต้ฟ้าสวรรค์ที่จะทำให้มนุษย์ได้รับความรอด แต่ถึงกระนั้น เราอาจไม่ได้รับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัวของเราเอง การเชื่อในทฤษฏีของสัจธรรมยังไม่เพียงพอ การรับความเชื่อในพระคริสต์ และมีชื่อบันทึกอยู่ในทะเบียนของคริสตจักรยังไม่เพียงพอ “ทุกคนที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์และพระองค์สถิตอยู่ในคนนั้น เช่นนี้แหละพวกเราจึงรู้ว่าพระองค์สถิตอยู่ในเราคือโดยพระวิญญาณซึ่งพระองค์ประทานแก่เรา” “ถ้าเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ เราจะมั่นใจได้ว่าเรารู้จักพระองค์” 1 ยอห์น 3:24 , 2:3 นี่คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการกลับใจใหม่ที่แท้จริง ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะใดก็ไม่มีค่าอะไรเลย นอกเสียจากจะสำแดงพระคริสต์ออกมาจากการกระทำแห่งความชอบธรรมเท่านั้น {COL 312.3} COLTh 278.3
เราจะต้องปลูกความจริงไว้ในจิตใจ ความจริงจะต้องควบคุมความคิดและวางระเบียบให้แก่อารมณ์ความรักใคร่ อุปนิสัยทั้งหมดจะต้องผ่านการประทับตราด้วยพระบัญชาของพระเจ้า อักษรเล็กที่สุดและขีดขีดหนึ่งของพระวจนะของพระเจ้าจะต้องถูกนำเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน {COL 314.1} COLTh 279.1
ผู้ที่มีส่วนร่วมในธรรมชาติของพระเจ้าจะมีชีวิตสอดคล้องกับมาตรฐานยิ่งใหญ่แห่งความชอบธรรมของพระเจ้า คือบัญญัติอันบริสุทธิ์ของพระองค์ นี่คือกฎเกณฑ์ที่พระเจ้าทรงใช้วัดการกระทำของมนุษย์ เป็นวิธีทดสอบอุปนิสัยในการพิพากษา {COL 314.2} COLTh 279.2
มีคนจำนวนมากอ้างว่าความตายของพระคริสต์ยกเลิกบัญญัติของพระเจ้าไปแล้ว เป็นการกล่าวที่ขัดแย้งกับพระดำรัสของพระคริสต์เอง “อย่าคิดว่าเรามาเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ…จนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรที่เล็กที่สุดหรือขีด ขีดหนึ่งก็จะไม่มีวันสูญไปจากธรรมบัญญัติ” มัทธิว 5:17, 18 พระคริสต์ทรงยอมสละชีวิตของพระองค์ก็เพื่อไถ่ความผิดของมนุษย์ที่ละเมิดพระบัญญัติ หากพระบัญญัติเปลี่ยนแปลงได้ หรือละทิ้งไปเสียแล้วพระคริสต์ก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นพระชนม์ ในขณะที่พระองค์ดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงถวายเกียรติพระบัญญัติของพระเจ้า ด้วยการมรณาของพระองค์ พระองค์ทรงสถาปนาพระบัญญัติไว้ พระองค์ทรงสละชีวิตเป็นเครื่องถวายบูชาไม่ใช่เพื่อทำลายบัญญัติของพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อจัดตั้งมาตรฐานที่ต่ำกว่า แต่ทรงดำรงรักษาความยุติธรรมไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าบัญญัตินั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้และจะยั่งยืนไปตลอดกาล {COL 314.3} COLTh 279.3
ซาตานอ้างว่ามนุษย์ปฏิบัติพระบัญญัติของพระเจ้าไม่ได้ จริงอยู่ตามกำลังของเราเองเราปฏิบัติไม่ได้ แต่พระคริสต์เสด็จมาในสภาพกายของมนุษย์ และโดยการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์แบบ พระองค์ทรงพิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อมนุษย์ร่วมกับพระเจ้าแล้ว เขาจะปฏิบัติตามกฎของพระเจ้าได้ {COL 314.4} COLTh 280.1
“ ทุกคนที่ยอมรับพระองค์คือคนที่เชื่อในพระนามของพระองค์นั้น พระองค์ก็ประทานสิทธิให้เป็นลูกของพระเจ้า ” ยอห์น 1:12 อำนาจนี้ไม่มีในตัวมนุษย์ เป็นอำนาจของพระเจ้า เมื่อจิตวิญญาณใดรับพระคริสต์ เขาจะรับอำนาจที่จะดำรงชีวิตของพระคริสต์ {COL 314.5} COLTh 280.2
พระเจ้าทรงประสงค์ให้บุตรของพระองค์สมบูรณ์ครบถ้วน พระบัญญัติของพระองค์เป็นรูปแบบของพระลักษณะนิสัยของพระองค์ และเป็นมาตรฐานของอุปนิสัยทั้งปวง มาตรฐานของพระเจ้านี้จะประทานให้กับทุกคนเพื่อที่จะไม่มีผู้ใดเข้าใจผิดในลักษณะของคนที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้มีส่วนเข้าร่วมในอาณาจักรของพระองค์ ชีวิตของพระคริสต์ในโลกนี้แสดงออกถึงความสมบูรณ์แบบของพระบัญญัติของพระเจ้า และเพื่อผู้ที่ประกาศว่าเป็นบุตรของพระเจ้ามีอุปนิสัยเหมือนพระคริสต์แล้วเขาจะปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้าและแล้วพระเจ้าก็จะทรงวางพระทัยได้ว่าคนเหล่านี้คือผู้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแห่งสวรรค์ เมื่อคนเหล่านี้สวมเสื้อสง่าราศีแห่งความชอบธรรมของพระคริสต์แล้ว เขาก็จะมีส่วนในงานเลี้ยงของกษัตริย์และมีสิทธิที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มชนที่ผ่านการชำระด้วยพระโลหิต {COL 315.1} COLTh 280.3
ชายที่เข้ามายังงานเลี้ยงโดยไม่ได้สวมเสื้องานอภิเษกสมรส เปรียบได้กับสภาพของคนจำนวนมากในโลกนี้ พวกเขาอ้างตนว่าเป็นคริสเตียนและอ้างสิทธิแห่งพระพรและสิทธิต่างๆ ของข่าวประเสริฐ แต่กระนั้น พวกเขาไม่รู้สึกว่าต้องการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัย พวกเขาไม่เคยรู้สึกว่าต้องกลับใจจากบาป พวกเขาไม่รู้สึกถึงความต้องการพระคริสต์หรือการแสดงออกถึงความเชื่อในพระองค์ พวกเขาไม่ได้เอาชนะความรู้สึกอยากทำผิดที่สืบเนื่องจากทางสายเลือด หรือความโน้มเอียงในทางผิด ถึงกระนั้นพวกเขาก็คิดว่าตนเองดีพอแล้วและพึ่งในความดีของตนเองแทนที่จะวางใจในพระเจ้า พวกเขาเป็นเพียงผู้ฟังพระธรรมและเข้ามาร่วมงานเลี้ยง แต่ไม่ได้สวมเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมของพระองค์ {COL 315.2} COLTh 280.4
คนจำนวนมากที่อ้างตนว่าเป็นคริสเตียนนั้น เป็นแต่เพียงนักสอนศีลธรรมเท่านั้น พวกเขาปฏิเสธของประทานซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้เขาถวายเกียรติยศแด่พระคริสต์ด้วยการเป็นตัวแทนของพระองค์ให้กับโลก พระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสิ่งแปลกสำหรับพวกเขา คนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติตามพระธรรม หลักการของสวรรค์ที่ใช้แบ่งผู้ที่อยู่ฝ่ายพระคริสต์ออกจากผู้ที่อยู่ฝ่ายโลก แทบจะแยกออกจากกันไม่ได้ ผู้ที่อ้างตนว่าติดตามพระคริสต์ไม่ได้แยกตัวออกและเป็นประชากรพิเศษอีกต่อไป เส้นแบ่งแนวไม่มีความชัดเจน คนทั้งหลายกำลังยอมมอบตัวให้อยู่ภายใต้การควบคุมของโลกในการปฏิบัติตัว ทำตามสิ่งที่ยึดถือสืบต่อกันมา และยอมทำตามความเห็นแก่ตัว คริสตจักรข้ามไปยังฝั่งของทางโลกในการละเมิดพระบัญญัติ แทนที่โลกจะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาคริสตจักรเพื่อปฏิบัติตามพระบัญญัติ คริสตจักรกำลังเปลี่ยนความเชื่อไปทางโลกทุกวัน {COL 315.3} COLTh 281.1
คนทั้งหมดนี้หวังที่จะได้รับความรอดโดยความตายของพระคริสต์ แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะดำรงชีวิตอย่างเสียสละของพระองค์ พวกเขายกย่องความมั่งคั่งของพระคุณที่ให้มาเปล่าและใช้ความพยายามที่จะห่อหุ้มตัวเองให้ดูเหมือนว่ามีความชอบธรรม ด้วยหวังที่จะปกปิดอุปนิสัยที่บกพร่องของตนเอง แต่ความพยายามของพวกเขาจะใช้ไม่ได้ในวันขององค์พระผู้พระเจ้า {COL 316.1} COLTh 281.2
ความชอบธรรมของพระคริสต์จะไม่ปกปิดบาปที่เก็บซ่อนไว้ คนหนึ่งอาจจะเป็นผู้ละเมิดพระบัญญัติในจิตใจ แต่หากเขาไม่แสดงออกมาภายนอก ชาวโลกอาจจะยอมรับว่าเขาเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ยิ่งกว่าผู้ใด แต่พระบัญญัติของพระเจ้ามองเข้าไปยังส่วนลับของจิตใจ การกระทำทุกอย่างจะถูกพิพากษาตามความตั้งใจที่อยู่เบื้องหลัง สิ่งที่สอดคล้องกับหลักการของบัญญัติของพระเจ้าเท่านั้นที่จะยั่งยืนในวันพิพากษา {COL 316.2} COLTh 281.3
พระเจ้าทรงเป็นความรัก พระองค์ทรงสำแดงความรักด้วยการประทานพระคริสต์ให้แก่เรา เมื่อพระองค์ “ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร์” พระองค์ไม่ทรงหวงสิ่งใดเพื่อการไถ่สมบัติของพระองค์ (ยอห์น 3:16) พระองค์ประทานสวรรค์ทั้งหมด ซึ่งเรารับกำลังและมีประสิทธิภาพความสามารถเพื่อว่าศัตรูใหญ่ไม่อาจจู่โจมหรือเอาชนะเราได้ แต่ความรักของพระเจ้าไม่ทำให้พระองค์ให้ข้อยกเว้นแก่บาป พระองค์ไม่ทรงยกเว้นให้ซาตาน พระองค์ไม่ทรงยกเว้นให้อาดัมหรือคาอิน หรือยกเว้นให้กับบุตรคนใดคนหนึ่งของมนุษย์ พระองค์จะไม่ทรงยินยอมอย่างลับๆ กับบาปหรือมองข้ามความบกพร่องในอุปนิสัยของเรา พระองค์ทรงหวังที่จะให้เราเอาชนะการต่อสู้นี้โดยพระนามของพระองค์ {COL 316.3} COLTh 282.1
ผู้ที่ปฏิเสธของประทานแห่งความชอบธรรมของพระคริสต์ กำลังปฏิเสธคุณสมบัติของอุปนิสัยที่จะนำเขาไปสู่การเป็นบุตรชายหญิงของพระเจ้า พวกเขากำลังปฏิเสธของประทานที่จะทำให้เขามีความเหมาะสมสำหรับงานเลี้ยงอภิเษกสมรส {COL 316.4} COLTh 282.2
ในอุปมานี้ เมื่อกษัตริย์รับสั่งว่า “ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส” ชายนั้นนิ่งเงียบ ในวันพิพากษายิ่งใหญ่ก็จะเป็นเช่นนี้ ขณะนี้มนุษย์อาจจะแก้ตัวเรื่องความบกพร่องในอุปนิสัยของตนเอง แต่ในวันนั้นเขาจะให้คำแก้ตัวใดไม่ได้ {COL 317.1} COLTh 282.3
คริสตจักรทั้งหลายของพระคริสต์ในยุคนี้ ได้รับสิทธิพิเศษอันสูงส่งที่สุด พระเจ้าทรงเปิดเผยแสงสว่างอันไม่มีที่สิ้นสุดแก่เรา โอกาสของเรามีมากกว่าประชากรของพระองค์ในสมัยก่อน เราไม่เพียงแต่มีความสว่างอันยิ่งใหญ่ที่ประทานผ่านชาวอิสราเอลเท่านั้น แต่เรายังมีหลักฐานแสดงถึงความรอดอันยิ่งใหญ่ที่ประทานผ่านทางพระคริสต์ สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์และเงาในสมัยของชาวยิวเกิดขึ้นจริงให้เราเห็น พวกเขาเหล่านั้นมีประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์เดิม เรามีทั้งพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ เรามีหลักประกันของพระผู้ช่วยให้รอดที่เสด็จมาแล้ว พระองค์ทรงถูกตรึงบนกางเขน ทรงเป็นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงประกาศอยู่เหนือหลุมฝังศพของโยเซฟว่า “เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย” ยอห์น 11:25 ด้วยความรู้ในเรื่องพระคริสต์และความรักของพระองค์ทำให้แผ่นดินของพระเจ้ามาอยู่ท่ามกลางพวกเรา พระคริสต์ทรงเปิดเผยให้กับเราในคำเทศนาและจากบทเพลงที่เราร้อง งานลี้ยงฝ่ายจิตวิญญาณถูกจัดมาให้เราอย่างอุดมสมบูรณ์ เสื้ออภิเษกสมรสซึ่งจัดเตรียมมาด้วยราคาที่ประเมินค่าไม่ได้ ถูกนำมาเสนอให้แก่จิตวิญญาณทุกดวงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ความชอบธรรมของพระคริสต์ การเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ พระสัญญาประเสริฐอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีสิ้นสุด การมีสิทธิเข้าหาพระบิดาอย่างอิสระผ่านทางพระคริสต์ การเล้าโลมใจโดยพระวิญญาณ ความมั่นใจที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์ในอาณาจักรของพระเจ้าล้วนเป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวของพระเจ้านำเสนอให้แก่เรา ยังมีอะไรอีกไหมที่พระเจ้ายังไม่ได้กระทำในการตระเตรียมงานเลี้ยงรับรองอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์ {COL 317.2} COLTh 282.4
ทูตสวรรค์ผู้รับใช้กล่าวในสวรรค์ว่า หน้าที่ที่ได้ทรงโปรดมอบให้นั้น ก็สำเร็จลุล่วงหมดแล้ว ข้าพระองค์ทั้งหลายผลักกองทัพทูตสวรรค์ชั่วให้ถอยออกไปแล้ว ข้าพระองค์ทั้งหลายนำความสว่างและแสงสว่างไปให้แก่จิตวิญญาณของบรรดามนุษย์ เพื่อช่วยให้พวกเขาทบทวนความจำในเรื่องความรักของพระเจ้าที่สำแดงผ่านพระเยซู ข้าพระองค์ทั้งหลายดึงดูดดวงตาของพวกเขาให้หันไปยังกางเขนของพระคริสต์ จิตใจของพวกเขารู้สึกถึงบาปที่เป็นเหตุให้ตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนกางเขน พวกเขาต่างก็ยอมรับผิด พวกเขาเรียนรู้ขั้นตอนของการกลับใจใหม่ พวกเขาสัมผัสพลังอำนาจของข่าวประเสริฐ จิตใจของพวกเขาอ่อนโยนลงขณะที่มองเห็นความอ่อนหวานของความรักของพระเจ้า พวกเขาเห็นความงดงามของพระลักษณะนิสัยของพระคริสต์ แต่สำหรับคนอีกจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่ยอมละทิ้งความประพฤติและอุปนิสัยของตนเอง พวกเขาไม่ยอมถอดเสื้อคลุมของโลกนี้ทิ้งไปเพื่อแลกกับการสวมเสื้อคลุมของสวรรค์ จิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว พวกเขารักที่จะมีความสัมพันธ์กับฝ่ายโลกมากกว่าที่จะรักพระเจ้า {COL 318.1} COLTh 283.1
วาระสุดท้ายของการตัดสินจะน่ากลัวเพียงใด อัครสาวกยอห์นเห็นในนิมิตที่พยากรณ์ไว้ว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นพระที่นั่งใหญ่สีขาวและเห็นพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น แผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์ก็หายไปจากพระพักตร์ของพระองค์และไม่มีใครพบเห็นที่อยู่ของพวกมันอีกเลย ข้าพเจ้ายังเห็นบรรดาคนตายทั้งคนใหญ่และคนเล็กน้อยยืนอยู่หน้าพระที่นั่งนั้น แล้วหนังสือต่างๆ ก็ถูกเปิดออก และหนังสืออีกเล่มหนึ่งก็ถูกเปิดออกด้วยคือหนังสือแห่งชีวิต คนตายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของเขาทั้งหลายที่เขียนไว้ในหนังสือเหล่านั้น” วิวรณ์ 20:11,12 {COL 318.2} COLTh 284.1
ในวันที่มนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับนิรันดรนั้น เป็นวันแห่งความโศกเศร้า เมื่อพวกเขารำลึกถึงวันในอดีต พวกเขาจะย้อนมองเห็นชีวิตในอดีตตามที่เกิดขึ้นจริง ความสุขของทางโลก ความร่ำรวยและเกียรติยศทางโลกจะหมดความสำคัญไป มนุษย์จะมองเห็นว่าความชอบธรรมที่เขาหมิ่นประมาทนั้นเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่มีคุณค่า พวกเขาจะเห็นว่าเขาตบแต่งอุปนิสัยของตนเองตามการล่อลวงของซาตาน เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เขาเลือกนั้นเป็นเพียงเครื่องประดับที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อการละทิ้งความเชื่อยิ่งใหญ่ครั้งแรก และในตอนนั้น พวกเขาจะเห็นผลของการเลือกของตนเอง พวกเขาจะเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของการล่วงละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้า {COL 318.3} COLTh 284.2
จะไม่มีพระกรุณาในภายภาคหน้าเพื่อเตรียมตัวรับชีวิตนิรันดร์อีกแล้ว เราจะต้องสวมเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรมของพระคริสต์ในชีวิตนี้เท่านั้น นี่คือโอกาสเดียวของเราที่จะปรับปรุงอุปนิสัยเพื่อเข้าไปอยู่ในบ้านที่พระคริสต์ทรงจัดเตรียมไว้แล้วสำหรับบรรดาผู้ที่เชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ {COL 319.1} COLTh 284.3
วันแห่งพระกรุณากำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่ช้านี้ วาระสุดท้ายนั้นใกล้เข้ามาแล้ว คำตักเตือนที่มีไว้สำหรับเราทั้งหลายก็คือ “จงระวังตัวให้ดี เกรงว่าใจของท่านจะเต็มล้นไปด้วยการเสเพล การเมาเหล้าและการห่วงกังวลถึงชีวิต แล้วเวลานั้นจะมาถึงท่านโดยไม่คาดฝัน” ลูกา 21:34 จงระวังเกรงว่าจะพบท่านไม่พร้อม จงเอาใจใส่ เกรงว่าจะพบท่านในงานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยไม่ได้สวมเสื้ออภิเษกสมรส {COL 319.2} COLTh 284.4
“ในเวลาที่ท่านไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา” “คนที่ตื่นอยู่และรักษาเสื้อผ้าของตนไว้ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาไม่ต้องเปลือยกายให้คนทั้งหลายเห็นสภาพอันน่าอับอาย” มัทธิว 24:44 วิวรณ์ 16:15 {COL 319.3} COLTh 285.1
*****