อ้างอิงจาก ลูกา 15:1 — 10
ขณะที่ “บรรดาคนเก็บภาษีและพวกคนบาป” ชุมนุมรอบพระคริสต์ พวกธรรมาจารย์แสดงออกถึงความไม่พอใจพูดว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาปและกินด้วยกันกับเขา” ลูกา 15:1, 2 {COL 185.1} COLTh 151.1
ด้วยคำกล่าวหานี้ พวกเขาพูดเป็นเชิงว่าพระคริสต์ทรงชอบคบกับคนบาปและคนชั่วและไม่มีความรู้สึกต่อความชั่วของพวกเขา พวกรับบีต่างรู้สึกผิดหวังในพระเยซู ทำไมพระองค์ผู้ทรงอ้างว่าตนเองเป็นผู้มีอุปนิสัยสูงส่งจึงไม่เข้ามาร่วมกลุ่มกับพวกเขาและปฏิบัติตามวิธีการสั่งสอนของพวกเขา ทำไมพระองค์จึงดำเนินไปอย่างไม่แสแสร้ง ทำงานกับคนทุกชนชั้น พวกเขาพูดว่า หากพระองค์ทรงเป็นผู้เผยพระวจนะที่แท้จริง พระองค์คงจะต้องร่วมมือกับพวกเขาและจะปฏิบัติต่อคนเก็บภาษีและคนบาปด้วยการไม่ให้ความสนใจคนเหล่านี้ เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้พิทักษ์สังคมโกรธเคือง พระองค์ผู้ที่พวกเขามีความขัดแย้งอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงกระนั้นชีวิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ทำให้คนเหล่านี้หวาดหวั่นและเป็นสิ่งที่คอยติเตียนพวกตน พระองค์ยังเข้าหาผู้คนที่สังคมรังเกียจด้วยความเห็นใจ ผู้นำเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพระองค์ พวกเขาถือว่าตัวเองเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาสูง เป็นผู้ดีและเป็นเลิศในการเคร่งศาสนา แต่แบบอย่างของพระคริสต์เปิดโปงความเห็นแก่ตัวของพวกเขา {COL 185.2} COLTh 151.2
พวกเขาโกรธที่เห็นคนทั้งหลายที่ดูหมิ่นรับบีและไม่เคยเห็นไปธรรมศาลาพากันห้อมล้อมพระเยซูและฟังคำสั่งสอนของพระองค์ด้วยใจจดจ่อ พวกธรรมาจารย์และฟาริสีรู้สึกเหมือนถูกกล่าวโทษเมื่ออยู่เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ที่บริสุทธิ์ แล้วทำไมพวกคนเก็บภาษีและคนบาปจึงถูกชักชวนให้เข้าหาพระเยซูได้อย่างไร {COL 186.1} COLTh 152.1
คนเหล่านี้ไม่ทราบเลยว่า คำอธิบายนั้นอยู่ที่คำกล่าวหาที่ดูหมิ่นของพวกเขาที่ว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาป” ลูกา 15:2 จิตวิญญาณที่เข้ามาหาพระเยซูสัมผัสกับพระองค์ได้ว่าแม้สำหรับพวกเขาก็ยังมีทางหนีจากหลุมแห่งบาป พวกฟาริสีมีแต่การดูถูกและกล่าวโทษคนเหล่านั้นแต่พระคริสต์ต้อนรับพวกเขาราวกับว่าเป็นบุตรของพระเจ้าที่ห่างเหินจากปราสาทของพระบิดาไปแล้ว แต่พระทัยของพระบิดายังไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาไป ความทุกข์ยากและบาปของพวกเขายิ่งทำให้เป็นเป้าหมายแห่งความเมตตาของพระองค์ พวกเขายิ่งออกห่างไปไกลจากพระองค์มากเท่าใด พระองค์ก็ยิ่งรอคอยมากขึ้น และยิ่งต้องการเสียสละให้มากขึ้นเพื่อช่วยกู้พวกเขากลับคืนมา {COL 186.2} COLTh 152.2
เรื่องราวทั้งหมดนี้ ครูของชาวอิสราเอลควรต้องเรียนรู้จากพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพวกเขาภาคภูมิใจที่เป็นผู้เก็บรักษาและอธิบายด้วยความหวงแหน กษัตริย์ดาวิดผู้ซึ่งล้มลงต่อบาปที่นำไปสู่ความตายไม่ได้เขียนไว้หรือว่า “ ข้าพระองค์หลงเจิ่นดังแกะที่หายไป ขอทรงเสาะหาผู้รับใช้ของพระองค์” สดุดี 119:176 มีคาห์ไม่ได้แสดงถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อคนบาปไว้หรือ “ใครเล่าจะเป็นพระเจ้าเหมือนพระองค์ผู้ทรงอภัย และทรงมองข้ามการทรยศของคนที่เหลืออยู่อันเป็นมรดกของพระองค์ท่าน พระองค์ท่านมิได้ทรงพระพิโรธเป็นนิตย์ เพราะพระองค์ท่านพอพระทัยในความรักมั่นคง ” มีคาห์ 7:18 {COL 186.3} COLTh 152.3