Go to full page →

บทท 16 - การอธิษจานเพื่อคนป่วย MHTh 244

พระคัมภีร์กล่าวว่า “คนทั้งหลายควรอธิษฐานอยู่เสมอไม่อ่อนระอา ใจ’, (ลูกา 18:1) และหากจะมีเวลาใดที่เขารูสึกว่าพวกเขาต่างต้องการ คำอธิษฐานมากที่สุด เวลานั้นก็คือ เวลาที่รู้สึกอ่อนกำลังและดูเสมือนว่า ชีวิตของเขานั้นกำลังจะหลุดพรากจากไป ผู้ที่มืสุขภาพดีไม่ป่วยไข้ มักจะ ลืมถึงพระเมตตาคุณอันประเสริฐที่พระเจ้าประทานอย่างต่อเนื่องแก่พวก เขาในทุกคืนวัน ตลอดปีแล้วปีเล่าเสมอมา แต่พวกเขากลับมิไต้ถวายคำ สรรเสริญแด่พระเจ้าในพระคุณของพระองค์ แต่เมื่อความเจ็บไข้ใต้ป่วยได้ เข้ามาเยือน พวกเขาจะระลึกถึงพระเจ้าขึ้นมาในทันที เมื่อมนุษย์ตกอยู่ใน สภาพที่อ่อนกำลัง พวกเขาก็จะรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องไต้รับความช่วย เหลือจากพระเจ้า และพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระเมตตาคุณของเรา มิ เคยทรงเบือนพระพักตร์ไปจากจิตวิญญาณที่แสวงหาความช่วยเหลือจาก พระองค์อย่างจริงใจ พระองค์ทรงเป็นเป็นที่ลี้ภ้ยของเราทั้งในในยามเจ็บ ไข้เช่นเดียวกับในเวลาที่ เราสุขสบา ย MHTh 244.1

“บิดาสงสารบุตรของตนฉันใด
พระเจ้าทรงสงสารบรรดาคนที่ยำเกรงพระองค์ฉันนั้น
เพราะพระองค์ทรงทราบโครงร่างของเรา
พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี” MHTh 245.1

สดุดี 103:13, 14

“เพราะการละเมิดของเขา
และเพราะความชั่วช้าของเขา เขาต้องทนความทุกข์ยาก
จิตใจเขารังเกียจอาหารทุกชนิด
และเช้าไปใกล้ประตูความตาย” MHTh 245.2

สดุดี 107:17, 18 (KJTV)

“แล้วในความยากลำบากของเขา เมื่อเขาร้องทูลพระเจ้า
พระองค์ทรงให้เขารอดจากความทุกข์ใจของเขา
พระองค์ทรงใช้พระวจนะของพระองค์ไปรักษาเขา
และทรงช่วยกู้เขาจากหลุมของเขา” MHTh 245.3

สดุดี 107: 19, 20 {MH 225.1}

ในยุคนี้ พระเจ้าทรงเต็มพระทัยที่จะช่วยรักษาคนป่วยให้หายเช่น เดียวกับในเวลาที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจให้ผู้ประพันธ์สดุดีกล่าวถึง ถ้อยคำเหล่านี้ และในยุคนี้พระคริสต์ยังทรงดำรงเป็นแพทย์พระองค์เดิม ผู้ทรงกอปรด้วยพระทัยกรุณาเฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้นที่พระองค์ทรง ประกอบพระราชกิจของพระองค์ในโลก ในพระองค์นั้น ทรงมีพระโอสถที่ สามารถรักษาโรคภัยได้ทุกชนิดและทรงมีฤทธิ์อำนาจในการฟื้นฟูผู้ที่อ่อน ระอา ในยุคนี้เหล่าสาวกของพระองค์จะอธิษฐานเผื่อคนที่เจ็บป่วยด้วย ความจริงจังเหมือนดังเช่นเหล่าสาวกในยุคก่อนได้อธิษฐาน และคนป่วย ย่อมจะหายโรค เพราะ “การอธิษฐานด้วยความเชื่อจะช่วยให้ผู้ป่วยรอด ชีวิต” (ยากอบ 5:15) เรามีฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์และเรามี ความมั่นใจในความเชื่อด้วยความชื่นชมยินดีที่เราสามารถทูลขอต่อ พระเจ้าถึงพระสัญญาของพระองค์ พระสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ กล่าวว่า “เขาจะวางมือบนคนไข้ คนป่วยแล้ว คนเหล่านั้นจะหายโรค” (มาระโก 16:18) ในยุคนี้เราสามารถไว้วางใจในพระสัญญานี้ได้เท่าๆ กับ ในยุคของเหล่าอัครสาวก พระสัญญานี้ท่าให้เหล่าบุตรของพระเจ้าได้รับ สิทธิพิเศษจากพระองค์และเราควรที่จะมีความเชื่อและยึดมั่นในทุกๆ สิ่ง ที่มีอยู่ในพระสัญญานั้น ผู้รับใช้ของพระคริสต์จะเป็นผู้แทนในพระราชกิจ ของพระองค์ และพระองค์ทรงมีพระประสงค์ที่จะได้สำแดงฤทธิ์อำนาจใน การรักษาของพระองค์โดยอาศัยพวกเขา โดยกำสังในความเชื่อของเรา เรามีหน้าที่ต้องนำคนป่วยเจ็บและผู้ที่ด้องทนทุกๆโทรมานมาหาพระเจ้า และควรสอนคนเหล่านั้นให้มีความเชื่อในพระองค์ผู้ทรงเป็นแพทย์ผู้ ประเสริฐ {MH 226.1} MHTh 245.4

พระผู้ช่วยให้รอดทรงปรารถนาให้เราช่วยหนุนใจผู้เจ็บป่วย ผู้สิ้น หวัง และผู้ยากไรให้ไดยึดมั่นในฤทธานภาพของพระองค์ โดยอาศัยความ เชื่อและการอธิษฐาน ห้องของผู้ป่วยจะถูกเปลี่ยนเป็นเบธเอลอันเป็นที่ตั้ง แท่นบูชาพระเจ้าได้ โดยคำพูดและการกระทำ แพทย์และพยาบาลทั้ง หลายย่อมสามารถกล่าวได้อย่างชัดเจนจนไม่มีทางที่จะเข้าใจผิดได้ว่า “พระเจ้าทรงอยู่ในสถานที่แห่งนี้” เพื่อทรงช่วยให้รอด มิใช่เพื่อทำลาย พระคริสต์ทรงปรารถนาที่จะสำแดงให้เราทั้งหลายได้เห็นการสถิตของ พระองค์อยู่ในห้องผู้ป่วย เพื่อทรงดลจิตใจของแพทย์และพยาบาลทั้ง หลายให้เต็มเปียมด้วยความรักอันประเสริฐของพระองค์ หากชีวิตของผู้ ดูแลรักษาผู้ป่วยดำเนินไปตามทางที่พระคริสต์ทรงสามารถดำเนินร่วมไป กับพวกเขาที่ข้างเตียงของผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยจะเกิดความเชื่อมั่นขึ้นในจิตใจ ว่าพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงกอปรด้วยพระทัยกรุณานั้นได้สถิตอยู่ใกล้ๆ และการที่เขาได้มีความเชื่อมั่นเช่นนี้เอง จึงส่งผลอย่างใหญ่หลวงในการ รักษาเยียวยาทั้งต่อร่างกายและจิตใจของเขา {MH 226.2} และพระเจ้าจะทรงสดับฟังคำอธิษฐาน พระคริสต์ใต้’ตรัสว่า “สิ่งใด ที่ท่านขอในนามของเรา เราจะกระทำสิ่งนั้น” พระองค์ตรัสอีกว่า “ถ้าผู้ใด รับใช้เรา พระบิดาก็จะประทานเกียรติแก่ผู้นั้น” ยอห์น 14:14;12:26 หากเราดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระองค์ พระสัญญาอันประเสริฐทุก ประการที่พระองค์ประทานให้แก่เราก็จะสำเร็จสมบูรณ์ ที่จริงเราไม่สมควร ได้รับพระเมตตาคุณของพระองค์แม้แต่น้อย แต่เมื่อเราได้มอบถวายตัว เราเองแด่พระองค์ พระองค์ทรงรับเราไว้ พระองค์จะทรงกระทำเพื่อและ ผ่านคนทั้งหลายที่ติดตามพระองค์ {MH 226.3} MHTh 246.1

เราจะอ้างความสำเร็จสมบูรณ์ของพระสัญญาของพระองค์ได้ก็ต่อ เมื่อเราได้ดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟังตามพระวจนะของพระองค์เท่านั้น ผู้ประพันธ์พระธรรมสดุดีได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าข้าพเจ้าได้ปมความชั่วช้าไวใน ใจข้าพเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงสดับ” สดุดี66:18 (TKJV) หาก เรามิได้ยอมเชื่อฟังในพระวจนะของพระองค์อย่างสิ้นสุดใจ พระสัญญาของ พระองค์ที่มีต่อเราก็มีอาจที่จะสำเร็จสมบูรณ์ลงได้ {MH 227.1} MHTh 247.1

ในพระวจนะของพระเจ้า เราได้รับการแนะนำเกี่ยวกับการอธิษฐาน ไว้เป็นพิเศษเพื่อให้คนป่วยได้หายโรค แต่การอธิษฐานเช่นนี้มีความสำคัญ เป็นอย่างยิ่ง จึงไม่ควรอธิษฐานโดยมิได้คิดไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน ในการอธิษฐานเพื่อให้หายโรคนั้นหลายครั้งสิ่งที่เรียกกันว่าการอธิษฐาน ด้วยความเชื่อจึงกลับกลายเป็นเพียงแค่การ “ลองเชื่อดู” เท่านั้น การ อธิษฐานด้วยการฃาดความเชื่อที่แท้จริงเช่นนี้จึงไม่บังเกิดผล {MH 227.2} มีหลายคนนำโรคกัยมาสู่ตนเองด้วยการทำตามใจชอบ พวกเขา มิได้ดำเนินชีวิตตามกฎแห่งธรรมชาติ หรือตามหลักการของความบริสุทธิ์ อย่างเคร่งครัด ส่วนคนอื่นๆ ได้เพิกเฉยละเลยต่อกฎเกณฑ์ในด้านสุขภาพ ด้วยนิสัยของการกิน การดื่ม การแต่งกายหรือการทำงาน บ่อยครั้งที่ ความประพฤติในทางที่ชั่วร้ายบางประการเป็นบ่อเกิดของความอ่อนแอ ของร่างกายหรือจิตใจ หากคนเหล่านี้ได้รับพระพรในด้านสุขภาพที่ดี ก็จะ ยังคงดำเนินชีวิตด้วยการล่วงละเมิดต่อกฎแห่งธรรมชาติและบทบัญญัติใน ฝ่ายจิตวิญญาณของพระเจ้าอย่างไม่ใส่ใจต่อไปเช่นเติม ด้วยการอ้าง เหตุผลว่าหากพระเจ้าทรงโปรดให้พวกเขาหายจากโรคด้วยการตอบคำ อธิษฐานของเขาแล้ว พวกเขาก็ย่อมจะมีเสรีภาพที่จะดำเนินนิสัยที่ไม่ถูก สุขลักษณะเหล่านี้ต่อไปเหมือนเดิมและหมกมุ่นในความอยากเหล่านั้น อย่างไม่ต้องยับยั้งชั่งใจ หากพระเจ้าจะทรงกระทำการอัศจรรย์โดยการ ช่วยเหลือคนเหล่านี้ให้หายจากโรคและมีสุขภาพที่ดี ก็เท่ากับว่าพระองค์ ทรงสนับสนุนการกระทำความผิดบาป {MH 227.3} MHTh 247.2

เป็นการสูญเสียแรงงานอย่างไร้ประโยชนในการสอนให้ผู้คนหันไป พึ่งพาพระเจ้าในฐานะที่ทรงดำรงเป็นแพทย์ที่ทรงเยียวยารักษาโรคภัยไข้ เจ็บได้ โดยไม่ได้สอนพวกเขาให้ละทิ้งการกระทำที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพื่อที่จะได้รับพระพรจากพระองค์ในการตอบคำอธิษฐาน พวกเขาจะต้อง ละเลิกการกระทำในสิ่งที่ชั่วร้ายและเรียนรู้ที่จะประกอบการดี สิ่งที่อยู่รอบ ข้างจะต้องลูกสุขลักษณะและช่วยในการส่งเสริมสุขภาพ อุปนิสัยในชีวิต ต้องลูกต้อง พวกเขาต้องดำเนินชีวิตตามบทบัญญัติของพระเจ้าทั้งทาง ฝ่ายร่างกายและจิตวิญญาณ {MH 227.4} MHTh 248.1