Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 1

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    ความสามัคคีปรองดองกันเป็นพะยานที่เข้มแข็งของเรา

    การที่ชาวโลกพยายามขัดขวางเรามิใช่สิ่งที่จะทำอันตรายให้ เรามากที่สุด แต่ความชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจของคนทั้งหลายที่ แสดงตนว่าเป็นผู้เชื่อถือ นั่นแหละได้นำสิ่งที่ชั่วร้ายต่างๆมาสู่ ชีวิตของเรา และทำให้กิจการของพระเจ้าดำเนินไปอย่างล่าช้า ความเจริญฝ่ายวิญญาณจิตของเราจะเสื่อมลงถ้าเรามีใจอิจฉาริษยา มีความระแวงสงสัยซึ่งกันและกัน คอยหาเหตุจับผิดและคิดร้าย ซึ่งกันและกัน “ปัญญาอย่างนี้ไม่ได้ลงมาจากเบื้องบน แต่เป็น ตามธรรมดาโลก และเป็นเดียรัจฉานตัณหา และเป็นเช่นอย่าง ปีศาจ เพราะว่ามีความอิจฉาและการแก่งแย่งกันที่ไหน ก็มีการ CCh1 213.2

    วุ่นวายและการลามกต่างๆที่นั่น แต่สติปัญญาที่มาจากเบื้องบน นั้นบริสุทธิ์เป็นที่หนึ่งแล้วเป็นที่เกิดสันติสุข และอ่อนสุภาพ และ ว่าง่าย เต็มไปด้วยความเมตตา และผลอันดี ไม่เลือกหน้าผู้ใด ไม่หน้าซื่อใจคด และผลแห่งความชอบธรรมก็หว่านลงในสันติสุข สำหรับคนเหล่านั้นที่กระทำให้เกิดสันติสุข” (ยาโกโบ บท ๓ ข้อ ๑๕ ถึง ๑๘)CCh1 214.1

    ความเห็นที่สอดคล้องต้องกันและความสามัคคีปรองดอง กันในท่ามกลางคนทั้งหลายที่มีความเป็นอยู่แตกต่างกัน เป็น พะยานที่สำคัญยิ่งที่จะแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าได้ส่งพระบุตรของ พระองค์มาในโลกเพื่อจะช่วยคนผิดบาปให้รอด เราย่อมจะได้รับ สิทธิพิเศษในการที่เราจะเป็นพะยานเช่นนี้ แต่ในการที่เราจะทำ สิ่งนี้ให้สำเร็จได้นั้นจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระคริสต์ เราจะ ต้องฝึกฝนอบรมตัวเราเองให้มีอุปนิสัยละม้ายคล้ายคลึงกับอุปนิสัย ของพระองค์ เราต้องปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระองค์ แล้ว เราก็จะทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันCCh1 214.2

    ความคิดเห็นที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยจะชักนำให้เกิด การแตกร้าวในบรรดาพวกที่เป็นคริสเตียน เราต้องไม่ยอมให้สัตรู ของเราได้ชัยชะนะเหนือเรา ขอให้เราเข้าสนิทกับพระเจ้าและมี ความสามัคคีปรองดองกันมากยิ่งขึ้น แล้วเราก็จะเป็นเหมือนต้น ไม้แห่งความชอบธรรมซึ่งพระเจ้าเป็นผู้ทรงปลูก และทรงใช้น้ำ ในแม่น้ำแห่งชีวิตรดต้นไม้เหล่านั้น และเราจะบังเกิดผลมากมาย สักเพียงไร พระคริสต์ได้ตรัสว่า “พระบิดาของเราได้รับเกียรติยศ เพราะสิ่งนี้ คือเมื่อท่านเกิดผลมาก ท่านทั้งหลายจึงเป็นสาวก ของเรา” (โยฮัน บท ๑๕ ข้อ ๘)CCh1 215.1

    เมื่อเราเชื่อถือในคำอธิษฐานของพระคริสต์ด้วยสิ้นสุดใจ เมื่อพลไพร่ของพระองค์ประพฤติตามคำสั่งสอนของพระองค์ใน ชีวิตประจำวันของเขา เราก็จะได้เห็นพวกเหล่านั้นกระทำสิ่ง ต่างๆด้วยใจพร้อมเพียงและมีความสามัคคีปรองดองกัน ความ รักของพระคริสต์จะช่วยให้เรามีความรักใคร่กันอย่างแน่นแฟ้นยิ่ง ขึ้น พระวิญญาณของพระเจ้าอย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถจะทำให้ เรามีน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวกัน พระองค์ผู้ทรงชำระจิตใจของพระองค์ เองให้สะอาดบริสุทธิ์ย่อมสามารถจะชำระเหล่าสาวกของพระองค์ ให้สะอาดบริสุทธิ์ได้ จงเข้าสนิทกับพระองค์ แล้วเราทุกๆคน ก็จะมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยความเชื่ออันบริสุทธิ์ เมื่อเราพยายาม ที่จะมีความสามัคคีปรองดองกันอย่างที่พระเจ้าปรารถนาจะให้เรา กระทำ ความสามัคคีปรองดองกันนี้ก็จะเกิดขึ้นในหมู่คณะของเราCCh1 215.2

    พระเจ้ามิได้มีพระประสงค์จะให้เราสร้างสถานที่ทำงาน ของเราขึ้นมากมายหลายแห่ง และพระองค์ไม่ปรารถนาที่จะให้เรา สร้างตึกรามที่ใหญ่โตหรือทำอะไรๆที่แสดงให้เห็นความโอ่โถง ภาคภูมิภายนอก แต่พระองค์ปรารถนาจะให้เรามีความสามัคคี ปรองดองกัน ...เราเป็นพลไพร่ที่พระเจ้าทรงเลือกไว้ เป็นพลไพร่ ของพระเจ้าที่ต้องแยกออกจากชาวโลก....เราต้องมีความสามัคคี ปรองดองกัน และชีวิตของเราซ่อนอยู่ในพระคริสต์ ทุกๆคน จะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน และใช้อิทธิพลอย่างถูกต้องในการคิด พูดและการกระทำสิ่งต่างๆ เมื่อผู้ร่วมงานของพระเจ้าทุกๆคน สามารถทำสิ่งนี้ได้ กิจการของพระองค์ก็จะเป็นผลสำเร็จCCh1 216.1

    พระเจ้าทรงเรียกผู้ที่มีความเชื่ออย่างแท้จริงและมีความคิด รอบคอบ ผู้ที่สามารถจะมองเห็นความแตกต่างกันระหว่างสิ่งที่แท้ กับสิ่งที่ไม่แท้ ทุกๆคนควรจะระมัดระวังให้ดี และหมั่นศึกษา เล่าเรียนบทเรียนที่มีกล่าวไว้ในหนังสือโยฮันบทที่ ๑๗ และต้อง ยึดมั่นในความเชื่อที่มีอยู่ตลอดสมัยที่สุดปลายนี้ และเราจะต้อง เชื่อในความจริงในสมัยที่สุดปลายนี้ เราจำเป็นที่จะต้องมีความ บังคับตัวเอง เพราะการที่เรารู้จักบังคับตัวเอง จะช่วยอบรมบ่ม นิสัยของเราให้เป็นไปตามคำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์CCh1 216.2

    พระผู้ช่วยให้รอดปรารถนาจะให้ผู้ที่ติดตามพระองค์ปฏิบัติ ตามความมุ่งหมายของพระเจ้าโดยครบถ้วนทุกประการ เขาจะต้อง เป็นหนึ่งอันเดียวกับพระองค์ แม้ว่าเขาจะต้องแยกย้ายกันไปอยู่ใน สถานที่ต่างๆทั่วโลก แต่พระเจ้าไม่สามารถจะทำให้เขาเข้าสนิท อยู่ในพระคริสต์ นอกเสียจากเขาจะเต็มใจสละละทิ้งการปฏิบัติ ตามความพอใจของเขาเอง แล้วหันกลับมาปฏิบัติตามน้ำพระทัย ของพระองค์CCh1 217.1