Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

แพทย์ผู้ประเสริฐ

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    การรักษาวิญญาณจิต

    หลายคนที่มาหาพระคริสต์เพื่อขอให้พระองค์ช่วย รักษาให้หายจากโรคได้ก่อโรคนั้นให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง แม้ กระนั้นพระองค์ก็มิได้ปฏิเสธที่จะรักษาคนเหล่านั้น และ เมื่อความดีจากพระองค์ได้เข้าไปในจิตวิญญาณของคน เหล่านั้น เขาก็มองเห็นว่าเขาได้ทำบาป และหลายคนได้ รับการรักษาให้หายจากโรคทางวิญญาณจิต เช่นเดียวกับ โรคทางร่างกายMHTH 92.1

    ในบรรดาคนเหล่านี้มีคนง่อยที่เมือง กัปเรนาอูม เช่นเดียวกับคนโรคเรื้อนคนง่อยผู้นี้หมดหวังที่จะได้หายจาก โรค เพราะเหตุที่เขาได้ดำเนินชีวิตในทางแห่งความผิดบาป เขาจึงต้องป่วยเจ็บ นอกจากจะต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดแล้วเขายังมีความเศร้าเสียใจอีกด้วย เขา ได้ขอร้องให้พวกฟาริซายและพวกแพทย์ช่วยเหลือเขา แต่ ก็ปราศจากผล พวกเหล่านั้นกล่าวว่าโรคของเขารักษาไม่ หาย และประณามเขาว่าเป็นคนบาป ซึ่งจะต้องตายด้วย ความพิโรธของพระเจ้าMHTH 92.2

    คนง่อยนั้นรู้สึกเป็นทุกข์ยิ่งนัก แล้วเขาก็ได้ยินถึง กิจการของพระเยซู คนอื่นๆ ที่มีบาปและป่วยเจ็บเช่นเดียว กับเขาก็ได้รับการรักษาให้หาย เขาจึงเชื่อว่าเขาก็อาจจะ หายได้ถ้ามีใครพาเขาไปหาพระผู้ช่วยให้รอด แต่ความ หวังของเขาสูญสิ้นไปเมื่อเขาระลึกได้ว่าเหตุใดเขาจึงป่วย เป็นโรคนั้น แต่อย่างไรก็ดีเขาก็ไม่ยอมละทิ้งโอกาสที่จะ ได้หายจากโรคเสียทีเดียวMHTH 93.1

    ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเขา คือการได้หลุด พ้นจากภาระแห่งบาป เขาปรารถนาที่จะได้พบพระเยซู และได้รับความมั่นใจว่าพระเจ้าทรงยกโทษให้เขา แล้ว เขาก็จะมีความพอใจที่จะมีชีวิตหรือจะตายตามน้ำของ พระเจ้าMHTH 93.2

    เขาจะรอช้าให้เสียเวลาอีกไม่ได้ เนื้อหนังอันเหี่ยว แห้งของเขาเป็นเครื่องหมายแสดงว่าเขาจะต้องตาย เขา จึงขอร้องมิตรสหายให้หามเขาไปหาพระเยซู มิตรสหาย ของเขาก็ยินดีช่วยเหลือแต่ฝูงชนเบียดเสียดเยียดยัดกันภาย ในและรอบ ๆ บ้านที่พระผู้ช่วยให้รอดประทับอยู่ คนง่อย กับเพื่อนจึงเข้าไปถึงพระองค์ไม่ได้ ทั้งไม่สามารถจะเข้า ไปให้ใกล้พอที่จะได้ฟังพระสุรเสียงของพระองค์ พระเยซู กำลังเทศนาสั่งสอนในบ้านของเปโตร ตามธรรมเนียม ของเขาพวกสาวกนั่งอยู่ใกล้ชิดรอบพระองค์ “มีพวก ฟาริซายและพวกบาเรียนนั่งอยู่ด้วย เขามาจากทุกหมู่บ้าน ในมณฑลฆาลิลาย มณฑลยูดาย และจากกรุงยะรูซาเล็ม หลายคนในพวกเหล่านี้ได้มาจับผิดพระเยซู ในหมู่ชนที่ติด ตามพระเยซูไปนั้นมีผู้คนหลายชะนิดปะปนกัน มีทั้งพวกที่มี ใจร้อนรน, พวกที่นับถือ, อยากรู้อยากเห็น และพวกที่ไม่ เชื่อ มีชาติต่างๆ และคนหลายชั้นปะปนกัน “ฤทธิ์เดชของ พระเจ้าก็สถิตอยู่ในพระองค์เพื่อจะรักษาเขาให้หายโรค” พวกที่มาชุมนุมกันอยู่นั้น รู้ว่าพระเยซูสามารถจะรักษาคน ป่วยเจ็บให้หายจากโรคได้ แต่พวกฟาริซายและพวก บาเรียนไม่รู้สึกว่าเขาต้องการความช่วยเหลือของพระองค์ “พระองค์ทรงโปรดให้คนอดอยากอิ่มด้วยของดี และทรง บันดาลให้คนมั่งมีไปมือเปล่า”MHTH 93.3

    ผู้ที่หามคนง่อยพยายามจะแหวกฝูงชนเข้าไปให้ถึง พระเยซู แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ คนป่วยนั้นเหลียวมอง รอบ ๆ ด้วยความเป็นทุกข์ยิ่ง เขาจะละทิ้งความหวังเสีย ได้อย่างไรในเมื่อความช่วยเหลือที่เขาปรารถนานั้นอยู่ใกล้? เขาจึงแนะนำเพื่อนให้หามเขาขึ้นไปบนหลังคาบ้าน และรื้อ หลังคาออกเป็นช่อง แล้วหย่อนเขาลงไปที่พระบาทขนอง พระเยซูMHTH 95.1

    การเทศนาสั่งสอนของพระเยซูก็ต้องชะงักลง พระผู้ช่วยให้รอดทรงมองดูดวงหน้าอันเศร้าสลดของชายผู้ นั้น และได้เห็นเขามองพระองค์ด้วยสายตาอันวิงวอน พระองค์ทรงทราบดีว่าชายผู้นั้นต้องการอะไร เมื่อเขายัง อยู่ที่บ้านพระคริสต์ได้ทรงบันดาลให้เขารู้สึกผิดและกลับ ใจเสียใหม่ เมื่อเขากลับใจใหม่ เขาก็หันจากความ ผิดบาปและเชื่อว่าพระเยซูทรงฤทธิ์อำนาจสามารถจะรักษา เขาให้หายจากโรคได้ ความเมตตากรุณาของพระผู้ช่วย ให้รอดได้ทำให้จิตใจเขาเป็นสุข พระเยซูทรงเฝ้าดูความ เชื่อเล็กน้อยของเขากลับกลายเป็นความเชื่อมั่นว่าพระองค์ เป็นผู้ช่วยของคนบาปแต่ผู้เดียว และพระองค์ได้เห็นความ เชื่อของเขาเพิ่มพูนมากขึ้น ในการที่เขาพากเพียร พยายาม มาให้พบพระองค์ พระคริสต์เป็นผู้ชักจูงคนป่วยผู้ทนทุกข์ ทรมานผู้นั้นมาหาพระองค์ ด้วยถ้อยคำที่ฟังไพเราะดุจ เสียงดนตรี พระผู้ช่วยให้รอดได้ตร้สว่า “ลูกเอ๋ย จงชื่น ใจเถิด ความผิดบาปของเจ้าโปรดยกเสียแล้วMHTH 95.2

    ภาระอันหนักแห่งความผิดบาปได้หลุดพ้นไปจาก จิตวิญญาณของคนป่วยนั้น เขาไม่สงสัยอะไรอีก คำตรัสของพระคริสต์แสดงว่าพระองค์มีอำนาจที่จะอ่าน จิตใจของเขาได้ ใครเล่าจะสามารถปฏิเสธฤทธิ์อำนาจ ของพระองค์ที่ทรงโปรดยกความผิดบาป? ความหวังเกิด ขึ้นแทนความท้อถอย และความชื่นชมยินดีแทนความ เศร้าหมอง ความเจ็บปวดทางร่างกายของชายนั้นสูญหาย ไป และชีวิตของเขาทั้งชีวิตเปลี่ยนแปลงไป เขามิได้ขอ ร้องอะไรต่อไปอีก เป็นแต่นอนนิ่งเงียบ รู้สึกเป็นสุขอย่าง เหลือล้น จนไม่สามารถจะกล่าวถ้อยคำอะไรได้MHTH 96.1

    คนเป็นอันมากเฝ้าดูเหตุการณ์อันแปลกประหลาด นี้ด้วยความสนใจยิ่ง หลายคนรู้สึกว่าถ้อยคำที่พระคริสต์ ทรงตรัสนั้นเป็นคำเชิญสำหรับเขาด้วย ความผิดบาปมิได้ ทำให้เขาเจ็บป่วยทางจิตต์วิญญาณหรือ ? เขาไม่มีใจ ร้อนรนที่จะได้หลุดพ้นจากภาระอันหนักนี้หรือ ?MHTH 97.1

    แต่พวกฟาริซายกลัวว่าเขาจะไม่มีอิทธิพลเหนือ ฝูงชนเหล่านั้นอีกต่อไป เขาจึงคิดในใจว่า “ คนนี้พูด หยาบช้าเช่นนี้ทำไมเล่า ใครจะยกความผิดได้เว้นแต่ พระเจ้าองค์เดียว ?”๗MHTH 97.2

    พระเยซูทรงจ้องดูพวกฟาริซาย เขาก็ถอยหนีไป ด้วยความหวาดกลัว พระเยซูทรงทราบความคิดของเขา จึงตรัสว่า “เหตุไฉนท่านคิดว่าความชั่วในใจเล่า ?” ซึ่ง จะว่า “ความผิดของเจ้ายกเสียแล้ว” หรือจะว่า “จง ลุกขึ้นเดินไปเถิด” ข้างไหนจะง่ายกว่ากัน ที่กล่าวดังนี้ ก็เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รู้ว่าบุตรมนุษย์มีอำนาจจะยกความ ผิดในโลกได้ พระองค์จึงตรัสแก่คนง่อยว่า “จงลุกขึ้น ยกที่นอนไปบ้านเถิด”MHTH 98.1

    แล้วคนง่อยที่เขาหามมาให้พระเยซูรักษาก็ลุกขึ้น ยืน รู้สึกสดชื่นและมีกำลังวังชาเหมือนคนหนุ่ม ในบัด เดี๋ยวนั้น คนง่อยได้ลุกขึ้น ยกที่นอนของตนเดินออกไปต่อ หน้าคนทั้งปวง คนเหล่านั้นก็ประหลาดใจนักจึงสรรเสริญ พระเจ้าว่า “เราไม่เคยเห็นเช่นนี้เลย”MHTH 98.2

    สิ่งที่จะช่วยรักษาชายง่อยให้กลับแข็งแรงอีกนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าอำนาจที่พระเจ้าทรงใช้ในการสร้าง สรรพสิ่งทั้งปวง เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นจากผง คลี่ดิน พระองค์ทรงตรัสให้มนุษย์นั้นมีลมหายใจ พระเจ้า องค์เดียวที่ได้ตรัสสร้างมนุษย์ขึ้นได้ ตรัสให้ชายง่อยที่ กำลังจะตายนั้นให้กลับมีชีวิต และอำนาจอันเดียวกันกับ อำนาจที่ได้ประทานชีวิตแก่ร่างกายได้เปลี่ยนแปลงจิตใจ ใหม่ด้วย พระองค์ผู้ทรงตรัสแล้วก็เป็นไปตามคำตรัสนั้น พระองค์ทรงสั่งแล้วก็ยั่งยืนมั่นคงอยู่” ได้ตรัสประทาน ชีวิตแก่จิตต์วิญญาณที่ตายเพราะความผิดบาปและการล่วง ละเมิดบทบัญญัติ การรักษาร่างกายให้หายป่วยเป็น หลักฐานแสดงให้เห็นอำนาจที่เปลี่ยนแปลงจิตใจใหม่ พระคริสต์ตรัสสั่งชายง่อยให้ลุกขึ้นเดิน “เพื่อท่านทั้งหลาย จะได้รู้ว่า บุตรมนุษย์มีอำนาจจะยกความผิดบาปในแผ่นดิน โลกได้”MHTH 98.3

    ชายง่อยได้รับการรักษาให้หายโรคทั้งทางร่างกาย และวิญญาณจิตจากพระคริสต์ ก่อนที่เราจะมีสุขภาพอัน สมบูรณ์แห่งร่างกาย เขาจำเป็นที่จะต้องได้รับสุขภาพอันดี ทางจิตต์วิญญาณด้วย ก่อนที่พระคริสต์จะทรงรักษาชาย ง่อยให้หายจากโรคทางกาย พระองค์จำเป็นที่จะปลด เปลื้องความทุกข์ของเขา และชำระจิตต์วิญญาณของเขา ใหสอาด เราไม่ควรจะมองข้ามบทเรียนนี้ไปเสีย ในทุก วันนี้ยังมีอีกหลายพันคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยโรคภัย ไข้เจ็บ และปรารถนาที่จะได้ยินคำตรัสอขงพระเยซูว่า “ความผิดบาปของเจ้าโปรดยกเสียแล้ว” เช่นเดียวกับที่ ชายง่อยได้ยิน ภาระอันหนักแห่งความบาปและจิตใจอัน ไม่สงบเป็นบ่อเกิดแห่งโรคภัยไข้เจ็บของเขา เขาจะไม่ได้ รับความบรรเทาใจจนกว่าเขาจะได้มาหา พระองค์ผู้ทรง รักษาจิตต์วิญญาณ ความสงบสุขซึ่งพระองค์สามารถ ประทานให้ได้แต่ผู้เดียวจะช่วยให้จิตต์ใจเข้มแข็งยิ่งขึ้น และทำให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์MHTH 99.1

    การที่พระคริสต์ทรงรักษาคนง่อยให้หายจากโรค ได้ยังผลอันน่ามหัศจรรย์ให้บังเกิดแก่ประชาชนประหนึ่งว่า ฟ้าสวรรค์ได้เปิดออกเผยให้เห็นรัศมีภาพแห่งแผ่นดินสวรรค์ ขณะที่ชายง่อยซึ่งหายจากโรคแบกที่นอนของเขาเดินฝ่า ฝูงชนกลับบ้าน คนเหล่านั้นได้หลีกทางให้เขา และจ้อง มองดูชายนั้นด้วยความกลัวพร้อมกับกระซิบกันเบา ๆ ว่า “วันนี้เราได้เห็นสิ่งแปลกประหลาด”MHTH 100.1

    พวกที่อยู่ในครอบครัวของชายง่อยมีความชื่นชม ยินดีเป็นอันมาก เมื่อเห็นเขาแบกที่นอนกลับมาบ้านอย่าง สบาย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้พวกเพื่อนบ้านได้ช่วยกันหามเขา ไปจากบ้าน คนเหล่านั้นได้พากันมาห้อมล้อมชายที่หาย ป่วย น้ำตาของเขาไหลด้วยความยินดี และแทบจะไม่เชื่อ สายตาตัวเองว่าชายนั้นได้หายป่วยจริง เขายืนอยู่ต่อหน้า ครอบครัวด้วยร่างกายอันล่ำสันแข็งแรง ลำแขนซึ่งเมื่อ ครั้งก่อนเหี่ยวแห้งและลีบ กลับเคลื่อนไหวไปมาได้อย่าง สดวก เนื้อหนังที่เหี่ยวย่นและมีสีคล้ำ กลับมีเลือฝาด เปล่งปลั่ง เขาสามารถก้าวเท้าเดินไปมาได้อย่างสดวก ความชื่นชมยินดีและความหวัง ปรากฎอยู่ในดวงหน้าของ เขา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และความสงบ แทนที่จะมีริ้วรอยแห่งความผิดบาป และความทุกข์ทรมาน ครอบครัวของชายง่อยได้อธษฐานขอบพระคุณพระเจ้า ด้วยใจชื่นชมยินดี และพระเจ้าก็ได้รับเกียรติยศโดย พระบุตรของพระองค์ผู้ได้ทรงนำความหวังกลับคืนมาให้ผู้ ที่หมดหวัง และนำกำลังมาสู่คนป่วยเจ็บ ชายผู้นี้กลับ ครอบครัวของเขาพร้อมที่จะสละชีวิตของเขาเพื่อพระเยซู ไม่มีความสงสัยอะไรอีกแล้วที่จะทำให้ความเชื่อของเขา มืดมัวไป เขามีความเชื่อและความจงรักภักดีต่อพระผู้ ทรงนำแสงสว่างมาสู่บ้านอันมืดมนธ์ของเขาMHTH 101.1

    “จิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญ
    พระยะโฮวา
    และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมข้าพเจ้าเ จงสรรเสริญพระ
    นามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    จิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย จงสรรเสริญ
    พระยะโฮวา
    และอย่าลืมบรรดาพระคุณของพระองค์
    ผู้ทรงโปรดยกความผิดทั้งหมดของเจ้า
    MHTH 102.1

    ผู้ทรงรักษาบรรดาโรคของเจ้าให้หาย
    ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเจ้าให้พ้นจากหลุมฝังศพ.........
    จนวัยหนุ่มของเจ้ากลับคืนมาใหม่ ดุจนกอินทรีย์
    พระยะโฮวาทรงกระทำสัตย์ธรรม
    และทรงพิพากษาแก้แค้นแทนคนที่ถูกข่มเหง
    พระองค์ไม่ได้ ทรงกระทำแก่พวกข้าพเจ้าตาม
    การผิด
    และมิได้ทรงปรับโทษตามความอสัตย์อธรรมของ
    พวกข้าพเจ้านั้น
    บิดาเมตตาบุตรของคนมากฉันใด
    พระยะโฮวาทรงพระเมตตาคนที่ยำเกรงพระองค์
    มากฉันนั้น
    เพราะพระองค์ทรงทราบร่างกายของพวก —
    ข้าพเจ้าแล้ว
    พระองค์ทรงระลึกอยู่ว่าพวกข้าพเจ้าเป็นแต่ผง
    คลี่ดิน”
    MHTH 103.1

    “เจ้าปรารถนาจะหายโรคเป็นปกติหรือ ?”
    “จงลุกขึ้นเดินไปเถิด”
    MHTH 104.1

    “ในกรุงยะรูซาเล็มนั้นมีริมประตูแกะมีสระ ๆ หนึ่ง ในภาษาเฮ็บรายสระนั้นมีชื่อว่าเบทิสดา มีศาลาห้า หลัง ในศาลาเหล่านั้นมีคนป่วยเป็นอันมาก คือ ตาบอด, เขยก, และผอมแห้ง นอนรอจะให้น้ำในสระนั้นกระเพื่อม”MHTH 104.2

    บางเวลาน้ำในสระนั้นก็กระเพื่อม และประชาชน ทั่ว ๆ ไป เชื่อกันว่า มีฑูตสวรรค์องค์หนึ่งลงไปทำให้น้ำ กะเพื่อม ถ้าผู้ใดก้าวลงไปในสระเป็นคนแรกในขณะที่น้ำ กำลังกะเพื่อมอยู่นั้นก็จะได้หายจากโรค คนป่วยเจ็บ หลายร้อยคนได้พากันมาที่สระเบธิสดา แต่ฝูงชนที่มานั้น มากมายจนเต็มศาลาไปหมด เมื่อน้ำกะเพื่อมพวกคนเจ็บ ที่รออยู่ก็วิ่งแย่งกันจะลงในสระและเหยียบย่ำ พวกผู้ชาย, ผู้หญิง และเด็ก ๆ ที่มีกำลังน้อย หลายคนไม่สามารถจะ เข้าไปใกล้สระได้ หลายคนได้ถึงแก่ความตายเมื่อไปถึง ริมสระนั้น เขาได้จัดสร้างศาลาไว้ที่ริมสระสำหรับพวก คนป่วยพักอาศัยในเวลากลางวันและกลางคืน มีบางคน มาค้างคืนในศาลาเหล่านี้ เขาค่อย ๆ คลานไปที่ริมสระ วันแล้ววันเล่าโดยหวังที่จะได้หายจากโรคMHTH 104.3

    พระเยซูอยู่ที่กรุงยะรูซาเล็ม ขณะที่พระองค์กำลัง เดินไปลำพังพระองค์เดียว ด้วยการอธิษฐานและสำรวม จิตใจ พระองค์ได้เสด็จมาถึงสระเบธิสดา พระองค์ทอด พระเนตรเห็นคนป่วยที่ต้องทนทุกข์ทรมานคอยเฝ้าดูสิ่งที่ เขาคิดว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยรักษาเขาให้หายจากโรค พระองค์ปรารถนาจะใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์และรักษา คนป่วยทุกคนให้หาย แต่วันนั้นเป็นวันซะบาโด คนเป็น อันมากกำลังไปนมัสการพระเจ้าที่วิหาร และพระองค์ทรง ทราบว่าการรักษาคนป่วยของพระองค์ในวัซะบาโดย่อม จะก่อให้เกิดอคติขึ้นในบรรดาพวกยิว จนถึงกับจะขัดขวาง มิให้พระองค์ทำงานต่อไปMHTH 105.1

    แต่พระผู้ช่วยให้รอดเห็นคนป่วยคนหนึ่งที่เฝ้าคอย อยู่ด้วยความทุกข์ทรมานยิ่ง ชายผู้นั้นป่วยเป็นง่อยมา ๓๗ ปีแล้ว ความป่วยเจ็บของชายผู้นี้เป็นผลอันเนื่องมา จากอุปนิสสัยชั่วร้ายของเขาเอง และใคร ๆ คิดว่าพระเจ้า ทรงลงโทษเขา คนป่วยนั้นต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายปี เขาถูกทอดทิ้งอยู่คนเดียวโดยปราศจากเพื่อนฝูง และเขา รู้สึกว่าพระเจ้ามิได้ทรงพระเมตตากรุณาเขา เมื่อถึงคราว ที่ใคร ๆ คิดว่าน้ำในสระจะกะเพื่อม พวกที่สงสารชายผู้นี้ ก็ช่วยกันหามเขาไปที่ศาลา แต่เมื่อถึงเวลาน้ำกะเพื่อม จริง ๆ ก็หามีผู้ใดจะช่วยอุ้มเขาลงในสระไม่ เขาได้เห็น น้ำในสระกระเพื่อมเป็นละลอก แต่เขาไม่สามารถจะเขยิบ ไปให้เกินขอบสระ เพราะคนอื่นที่แข็งแรงกว่าได้แย่งกัน ลงในน้ำเสียก่อนที่เขาจะไปถึง คนป่วยผู้อ่อนกำลังมิ สามารถจะเบียดเสียดเยียดยัดกับฝูงชนที่เห็นแก่ตัวเหล่านั้น ได้ ความพากเพียรพยายามที่จะได้สิ่งที่มุ่งหวัง, ความ กังวลใจและความท้อถอยที่ได้รับอยู่เสมอได้ทำลายกำลัง ที่ยังเหลืออยู่ของเขาให้หมดสิ้นไปโดยเร็วMHTH 105.2

    ขณะที่คนป่วยผู้นั้นกำลังนอนอยู่บนเสื่อ และค่อยๆ ผงกศีร์ษะขึ้นมองดูน้ำในสระบ้างเป็นครั้งเป็นคราว เขาเห็น ดวงหน้าอันอ่อนโยนเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาก้มอยู่ เหนือเขา และได้ยินเสียงถามว่า “เจ้าอยากจะหายจาก โรคเป็นปกติหรือ ?” ความหวังเกิดขึ้นในใจของเขา. ชายนั้นรู้สึกว่าเขาคงจะได้รับความช่วยเหลือโดยวิธีใดวิธี หนึ่ง แต่ในไม่ช้าความหวังของเขาก็สูญสิ้นไป เขาระลึก ขึ้นได้ว่าเขาเคยพยายามตะเกียกตะกายจะไปให้ถึงสระนั้น บ่อย ๆ และเขามีความหวังน้อยเหลือเกินว่าจะได้มีชีวิต อยู่จนถึงเวลาที่น้ำจะกะเพื่อมอีก เขาหันกลับไปพลางตอบ อย่างเหนื่อยอ่อนว่า “นายเจ้าข้า เมื่อน้ำกำลังกระเพื่อมอยู่ ไม่มีผู้ใดจะช่วยพยุงข้าพเจ้าลงในสระ และขณะที่ข้าพเจ้า กำลังตะเกียกตะกายจะไปให้ถึงขอบสระ ผู้อื่นก็ชิงกันลง เสียก่อนข้าพเจ้า”MHTH 106.1

    พระเยซูตรัสสั่งชายนั้นว่า “จงลุกขึ้นยกที่นอน ของตัวเดินไปเถิด” คนป่วยนั้นมองดูพระเยซูด้วยความ หวังใหม่ สีหน้าและน้ำเสียงของพระองค์ไม่เหมือนกับผู้ อื่น ความรักและฤทธิ์อำนาจดูเหมือนจะปรากฎอยู่ใน สถานที่ ๆ พระองค์ประทับอยู่นั้น ชายง่อยมีความเชื่อใน ถ้อยคำของพระเยซู เขายอมเชื่อฟังพระองค์โดยมิได้ไต่ ถามอะไรเลย และเมื่อเขาทำเช่นนี้ร่างกายของเขาก็ยอม ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์MHTH 107.1

    เส้นประสาททุก ๆ เส้นและกล้ามเนื้อทุก ๆกล้าม สั่นสะเทือนไปด้วยชีวิตใหม่ แข้งขาอันง่อยเปลี้ยของเขา กลับเคลื่อนไหวได้อย่างแข็งแรง ชายนั้นนั้นกระโดดลุก ขึ้นยืนแล้วเดินไปตามถนน เขาได้สรรเสริญพระเจ้าเพราะ รู้สึกชื่นชมยินดีที่เขาได้รับกำลังใหม่MHTH 108.1

    พระเยซูมิได้โปรดใช้ชายนั้นมีความมั่นใจว่าเขา จะได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ชายนั้นอาจจะกล่าว ว่า “พระองค์เจ้าข้า ถ้าพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าหายจาก โรค ข้าพเจ้าจะเชื่อฟังถ้อยคำของพระองค์ เขาอาจจะ หยุดคิดสงสัย และต้องสูญเสียโอกาสที่จะได้หายจากโรค เพียงครั้งเดียว แต่เขามิได้ทำเช่นนั้น เขาเชื่อถ้อยคำของ พระคริสต์ เขาเชื่อว่าพระองค์จะรักษาเขาให้หายจากโรค ฉะนั้นเมื่อเขาพยายามลุกขึ้นยืน พระเจ้าก็ประทานกำลัง ให้เขา เขาตั้งใจจะเดิน และเขาก็เดินได้จริง ๆ โดยการ ปฏิบัติตามถ้อยคำของพระคริสต์ ชายง่อยจึงหายจากโรค ได้.MHTH 108.2

    โดยความบาปเราได้ถูกแยกให้อยู่ห่างจากชีวิต ของพระเจ้า จิตต์วิญญาณของเราเป็นง่อยเปลี้ย ลำพัง ตัวเราเองแล้วเราก็คงไม่สามารถจะดำเนินชีวิตอันบริสุทธิ์ ได้มากยิ่งไปกว่าที่ชายง่อยจะสามารถเดินเองได้ หลายคน รู้สึกว่าเขาอ่อนกำลัง เขาปรารถนาที่จะได้ชีวิตทาง วิญญาณจิตต์ซึ่งจะนำเขาให้ได้อยู่ร่วมกับพระเจ้า และ พยายามที่จะได้ชีวิตตน แต่เขาไม่สามารถจะทำได้ เขาจึง ร้องด้วยความทุกข์ว่า “โอ้ข้าพเจ้าเป็นคนเข็ญใจจริง ! ใครหนอจะช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากกายแห่งความตายนี้ได้” ขอให้คนทั้งหลายที่มีความท้อถอยและพยายามต่อสู้ดิ้นรน เหล่านี้เงยหน้าขึ้นดู พระผู้ช่วยให้รอดทรงโน้มพระกาย ลงเหนือคนทั้งหลายที่พระองค์ไถ่ไว้แล้วด้วยพระโลหิต ของพระองค์ และตรัสอย่างอ่อนโยนและเมตตากรุณาว่า “เจ้าปรารถนาจะหายจากโรคหรือ ?” พระองค์ตรัสสั่ง ให้ท่านลุกขึ้นยืน โปรดให้ท่านมีร่างกายสุขสมบูรณ์และ มีความสงบสุข อย่ารอที่จะรู้สึกว่าพระเยซูได้รักษาท่าน ให้หายจากโรคแล้ว จงเชื่อถ้อยคำของพระผู้ช่วยให้รอด จงปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเจ้า จงตั้งใจมั่นว่าท่านจะ ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ และเมื่อท่านกระทำตามถ้อยคำ ของพระองค์ท่านจะได้รับกำลัง แม้ว่าการกระทำของท่าน จะชั่วร้ายสักเพียงใด แม้ว่าท่านจะปล่อยให้ความรู้สึก และอารมณ์ของท่านเป็นนายเหนือตัวเอง พระคริสต์ก็ สามารถและปรารถนาที่จะช่วยท่านให้รอด พระองค์จะ ประทานชีวิตแก่จิตต์วิญญาณที่ “ตายในความบาป” พระองค์จะทรงปลดปล่อยคนทั้งหลายที่ตกเป็นทาสของ ความอ่อนแอและความผิดบาปให้เป็นอิสระMHTH 109.1

    การรู้สึกตัวว่าเรามีบาปได้ทำลายบ่อเกิดแห่งชีวิต ของเรา แต่พระคริสต์ตรัสว่า “เราจะรับบาปของเจ้าไว้ เราจะให้ความสงบสุขแก่เจ้า เราได้ซื้อเจ้าไว้แล้วด้วย โลหิตของเรา เจ้าเป็นของเรา พระคุณของเราจะทำให้ เจ้ามีกำลังใจเข้มแข็ง เราจะปลดเปลื้องความเศร้าเสียใจ ในการที่เจ้าได้ทำบาปให้หมดสิ้นไป” เมื่อท่านประสพการ ทดลอง เมื่อท่านมีความฉงนใจและกังวลใจ เมื่อท่าน มีความทุกข์โศกและท้อถอย จงพึ่งในพระเยซู แล้วแสง สว่างที่มาจากพระเยซู ก็จะช่วยขับไล่ความมืดที่ห้อมล้อม ท่านไว้ให้กระจัดกระจายไป เมื่อความผิดบาปต่อสู้เพื่อ จะเอาชะนะเหนือจิตต์วิญญาณของท่าน และความรู้สึก ผิดชอบของท่านถูกปิดบังไว้ จงพึ่งในพระผู้ช่วยให้รอด พระคุณของท่านมีเพียงพอที่จะให้ความผิดบาปของท่านเบา บางลง ขอให้ท่านผู้มีความไม่แน่นอนใจหันไปหาพระองค์ จงยึดมั่นในความหวังที่พระองค์วางไว้ต่อหน้าท่าน พระคริสต์ทรงรอรับท่านไว้ในครอบครัวของพระองค์ กำลังของพระองค์จะช่วยให้ท่านพ้นจากความอ่อนแอ พระองค์จะทรงนำท่านไปทุกก้าว จงวางมือของท่านไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ และยอมให้พระองค์ท่านMHTH 110.1

    อย่ารู้สึกว่าพระคริสต์อยู่ห่างไกล พระองค์สถิต อยู่ใกล้เสมอ ความรักและพระเมตตากรุณาของพระองค์ ห้อมล้อมท่านไว้ จะแสวงหาพระองค์เพราะพระองค์ ปรารถนาจะให้ท่านได้พบ พระองค์มิใช่ปรารถนาแต่เพียง จะให้ท่านแตะต้องฉลองพระองค์ของพระองค์เท่านั้น แต่ ให้ท่านเดินกับพระองค์ และติดต่อกับพระองค์อยู่เสมอMHTH 112.1

    การเลี้ยงเทศกาลตั้งทับอาศัยพึ่งจะสิ้นเสร็จลง เมื่อ พวกปุโรหิตและอาจารย์ที่กรุงยะรูซาเล็มไม่สามารถจะหา เหตุจับผิดพระเยซูได้แล้วเขาก็พากันกลับบ้านในเวลาเย็นพระเยซูได้เสด็จไปที่ภูเขามะกอกเทศMHTH 112.2

    พระเยซูทรงปลีกพระองค์ไปให้พ้นจากความตื่น เต้นและความชุลมุนวุ่นวายในเมือง, จากฝูงชนที่มีใจกะตือ รือร้น และพวกอาจารย์ที่คดโกง แล้วเสด็จไปหาที่อันสงบ เงียบภายใต้ซุ้มมะกอกเทศ ซึ่งพระองค์สามารถจะอยู่ตาม ลำพังกับพระเจ้าได้ แต่ในเวลาเช้าตรู่พระองค์ได้เสด็จ กลับมาที่วิหาร และเมื่อฝูงชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ ๆ ก็ทรงนั่งลงสั่งสอนเขาMHTH 112.3

    ในไม่ช้าพระองค์ก็ถูกขัดขวาง พวกอาลักษณ์และ ฟาริซายได้ฉุดหญิงผู้หนึ่งมาหาพระองค์ โดยกล่าวหาว่า นางได้ล่วงละเมิดพระบัญญัติข้อที่เจ็ด เขาได้ผลักนางไป ต่อหน้าพระเยซู และทูลพระองค์ว่า “อาจารย์เจ้าข้า หญิง คนนี้เขาจับได้กำลังล่วงประเวณี โมเซได้สั่งเราไว้ใน พระบัญญัติว่าให้เอาหินขว้างคนเช่นนั้น ส่วนท่านจะว่า อย่างไร ?”MHTH 113.1

    พวกอาลักษณ์และพวกฟาริซายแสร้งทำเป็นนับ ถือพระองค์แต่แท้ที่จริงนั้นเขาตั้งใจจะหาเหตุจับผิดพระองค์ ถ้าพระเยซูจะยอมรับว่าหญิงนั้นไม่ได้ผิด พวกอาลักษณ์และ พวกฟาริซายก็จะกล่าวหาว่าพระองค์ไม่เคารพกฎหมาย ของโมเซ แต่ถ้าพระองค์จะประกาศว่าหญิงนั้นมีความผิด สมควรที่จะได้รับโทษถึงตาย พวกโรมันก็จะกล่าวโทษ พระเยซูได้ว่าพระองค์บังอาจถือสิทธิ์ในการตัดสินลงโทษ ผู้ทำผิด ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของพวกโรมันพวกเดียวเท่านั้นMHTH 113.2

    พระเยซูทอดพระเนตรดูภาพที่อยู่ฉะเพาะพระพักตร ของพระองค์-ภาพหญิงที่น่าสมเพชเวทนายืนตัวสั่นเทาด้วย ความหวาดกลัวและความอับอาย-ภาพพวกอาลักษณ์ และ พวกฟาริซายผู้มีใจแข็งกระด้าง ปราศจากความเมตตาต่อ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พระเยซูทรงรู้สึกเศร้าพระทัยยิ่งนักMHTH 114.1

    เมื่อได้เห็นภาพอันน่าสลดใจเหล่านี้ พระองค์มิได้ตอบคำ ถามของพวกฟาริซาย แต่ได้โน้มพระกายลงใช้นิ้ว พระหัตถ์เขียนลงบนพื้นดินMHTH 114.2

    เมื่อพวกอาลักษณ์และพวกฟาริซายไม่เห็นพระเยซู ตรัสตอบประการใดจึงพากันห้อมล้อมเข้ามาใกล้ แต่เมื่อ เขาเห็นข้อความที่พระองค์ทรงเขียนไว้นั้น เขาก็พากันนิ่ง เงียบ เพราะสิ่งที่เขาเห็นอยู่ฉะเพาะหน้าเขานั้นเป็นความ ผิดที่เขาได้แอบกระทำไว้อยางลับ ๆ ในชีวิตของเขา พระเยซูทรงยืนขึ้นและจ้องมองดูพวกเหล่านั้นที่หา เหตุจับผิดพระองค์แล้วกล่าวว่า “ผู้ใดในพวกท่านที่ไม่ผิด ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างเขาก่อน” แล้วพระองค์ทรงน้อมพระ กายลงเอานิ้วพระหัตถ์เขียนที่ดินอีกMHTH 114.3

    พระองค์มิได้ละทิ้งข้อกฎหมายของโมเซเสีย และ มิได้ล่วงละเมิดสิทธิพิเศษของชาวโรมัน ผู้กล่าวโทษ พระองค์ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ บัดนี้ใคร ๆ ก็เห็นว่า เขาแสร้งทำเป็นผู้ชอบธรรม เขาต้องยื่นอยู่ต่อหน้าพระ เยซูผู้บริสุทธิ์ เขารู้สึกสะดุ้งหวั่นหวาดด้วยเกรงว่าความ ชั่วร้ายที่เขาซ่อนไว้จะถูกเปิดเผยออกต่อหน้าฝูงชน เขาก้ม ศีร์ษะทอดสายตาลงดูพื้นแล้วก็ค่อย ๆ เดินกลับไปเงียบ ๆ ปล่อยหญิงผู้นั้นไว้กับพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงพระเมตตา สงสารMHTH 115.1

    พระเยซูลุกขึ้นยืน พระองค์ทอดพระเนตรดูหญิง นั้นแล้วตรัสว่า “หญิงเอ๋ยคนทั้งหลายที่ฟ้องเจ้าอยู่ที่ไหน? ไม่มีใครปรับโทษเจ้าหรือ ?” หญิงนั้นจึงทูลว่า “ไม่มีMHTH 115.2

    ผู้ใดเจ้าค่ะ” พระเยซูตรัสว่า “เราก็ไม่ปรับโทษเจ้า เหมือนกัน จงไปเถิด อย่าทำผิดอีกเลย”MHTH 116.1

    หญิงนั้นได้ยืนอยู่ฉะเพาะพระพักตรพระเยซู ตัว นางสั่นเทาด้วยความกลัว พระคำของพระองค์ที่ว่า “ผู้ ใดในพวกท่านที่ไม่มีความผิด ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างเขา ก่อน” เป็นเสมือนหนึ่งคำตัดสินประหารนางเอง นางไม่ กล้าเงยขึ้นดูพระผู้ช่วยให้รอด แต่ยืนรอรับโทษของนาง อยู่เงียบ ๆ หญิงนั้นรู้สึกประหลาดใจที่เห็นพวกที่กล่าว โทษนางเดินกลับไปอย่างเงียบ ๆ แล้วนางได้ยินคำตรัส ซึ่งให้ความหวังแก่นางว่า “เราก็ไม่ปรับโทษเจ้าเหมือน กัน จงไปเถิด และอย่าทำผิดอีกเลย” หญิงนั้นรู้สึกใจ ก่อน นางได้ซบกายลงแทบพระบาทของพระเยซูและร้อง ไห้สารภาพความบาปผิดของนางMHTH 116.2

    สำหรับนางสิ่งนี้เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่-ชีวิตที่ บริสุทธิ์เต็มไปด้วยความสงบสุข และมีความเลื่อมใสศรัทธา ในพระเจ้า ในการที่พระเยซูช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ ของหญิงนี้พระเยซูได้กระทำการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เกิน กว่าการรักษาโรคที่ร้ายแรงที่สุดทางกาย พระองค์ทรง ปลดเปลื้องความทุกข์ทรมานแห่งจิตใจของนางนั้น และ โปรดให้นางมีความสงบสุข หญิงผู้รู้สึกผิดนี้ได้เป็นผู้ติด ตามพระองค์ด้วยใจซื่อสัตย์มั่นคง หญิงผู้นี้ได้แสดงความ รู้สึกบุญคุณในการที่พระเยซูโปรดยกความผิดบาปของเขา สำหรับหญิงผู้ทำผิดคนนี้คนทั้งโลกพากันดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่พระผู้ปราศจากความผิดบาปทรงพระเมตตากรุณาที่เขา มีความอ่อนแอ และทรงยื่นพระหัตถ์ออกช่วยเหลือเขา ขณะที่พวกฟาริซายผู้หน้าซื่อใจคดกล่าวประณามหญิงผู้นี้ พระเยซูตรัสสั่งเขาว่า “จงไปเถิด และอย่าทำความผิด อีกเลย” MHTH 116.3

    พระเยซูทรงทราบภาวะของจิตต์วิญญาณทุกดวง ความผิดบาปของเรามีมากเท่าใด เราก็ต้องการพระผู้ช่วย ให้รอดมากเท่านั้น พระทัยของพระเยซูเต็มไปด้วยความ รักอันประเสริฐและความเมตตากรุณา พระองค์ปรารถนา ที่จะช่วยคนทั้งหลายที่ต้องตกอยู่ในบ่วงแร้วของศัตรู ด้วย พระโลหิตของพระองค์เองพระองค์ปลดเปลื้องความทุกข์ ยากของมนุษย์ทั้งโลกMHTH 117.1

    พระเยซูไม่ปรารถนาจะให้คนทั้งหลายที่พระองค์ ทรงซื้อไว้ด้วยราคาอันแพงเช่นนี้ต้องตกไปในการทดลอง ของศัตรู พระองคืไม่ปรารถนาจะให้เราพ่ายแพ้ซาตาน และถึงซึ่งความพินาศ พระผู้ทรงเหนี่ยวรั้งสิงห์โตในถ้ำไว้ และทรงดำเนินกับพยานที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ท่ามกลาง เปลวไฟอันร้อนระอุ ทรงพร้อมที่จะทำประโยชน์เพื่อเราทั้ง หลาย และพยายามทำลายความชั่วร้ายทุกอย่างในธรรม ชาติของเรา ทุกวันนี้พระองค์กำลังยืนอยู่ที่แท่นบูชาแห่ง ความเมตตากรุณา และทรงนำคำอธิษฐานของผู้ที่ ปรารถนาจะให้พระองค์ช่วยเหลือทูลขอต่อพระบิดา พระองค์ไม่ทรงขับไล่ผู้ที่มีความทุกข์โศกไปจากพระองค์ พระองค์ทรงยกโทษให้แก่ทุกคนที่มาหาพระองค์เพื่อให้ พระองค์ยกโทษ และโปรดให้เขากลับมีความสุขใจอีก พระองค์มิได้ทรงบอกทุกสิ่งที่พระองค์สามารถจะเปิดเผยได้ แก่มนุษย์ทุกคน แต่พระองค์ทรงโปรดให้ทุกคนที่สะดุ้ง หวั่นหวาดมีกำลังใจเข้มแข็ง ผู้ใดปรารถนาผู้นั้นจะได้ยึด มั่นในกำลังของพระเจ้า และจะได้อยู่ร่วมกับพระองค์ด้วย ความสงบสุขMHTH 118.1

    บุคคลผู้ใดหันมาพึ่งในพระองค์ พระองค์ทรงช่วย บุคคลผู้นั้นให้พ้นจากการกล่าวโทษ และการนิทาว่าร้าย ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรือฑูตสวรรค์ที่ชั่วร้ายองค์ใดสามารถจะ ฟ้องร้องบุคคลเหล่านี้ได้ พระคริสต์ทรงโปรดให้คนเหล่านี้ เข้าอยู่ร่วมในธรรมชาติอันประเสริฐของพระองค์ เขา ยืนอยู่ข้างพระผู้ทรงรับบาปผิดของเราทั้งหลายไว้ในแสง สว่างซึ่งส่องมาจากพระที่นั่งของพระเจ้าMHTH 119.1

    พระโลหิตของพระเยซูคริสต์ได้ทรงชำระเราทั้ง หลาย “ให้ปราศจาบาปทั้งสิ้น”MHTH 119.2

    “ใครผู้ใดจะอาจฟ้องคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรง เลือกไว้ ? พระเจ้าได้ทรงโปรดให้พ้นโทษแล้ว ใครเล่า จะเป็นผู้ปรับโทษอีก ? พระคริสต์ที่ตายแล้ว และยิ่งกว่า นั้นอีกได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ทรงสถิตอยู่เบื้อง ขวาพระหัตถ์พระเจ้า และทรงอธิษฐานขอเพื่อเราทั้งหลาย ด้วยMHTH 119.3

    “พระเจ้าจะทรงช่วยผู้ที่ได้รับภัยอันตรายให้รอด พ้นจากความตาย”MHTH 120.1

    พระคริสต์ทรงแสดงให้เราทั้งหลายเห็นว่าพระองค์ มีฤทธิ์อำนาจเหนือคลื่นลมในทะเล และผู้ที่ถูกผีสิง พระ ผู้ทรงห้ามพายุและคลื่นลมในท้องทะเลอันปั่นป่วนให้สงบ ราบคาบ ย่อมจะนำความสงบมาสู่ผู้ที่มีจิตใจคลุ้มคลั่งและ ตกอยู่ในอำนาจของซาตานMHTH 120.2

    ในศาลาธรรมที่เมืองกัปเรนาอูม พระเยซูทรงตรัส ถึงหน้าที่ของพระองค์ที่จะปลดปล่อยผู้ตกเป็นทาสแห่ง ความบาปให้เป็นอิสสระ พระองค์ต้องหยุดชะงักกลางคัน เพราะได้ยินเสียง ๆ หนึ่งร้องอย่างตกใจกลัว แล้วชาย ผู้หนึ่งซึ่งมีผีโสโครกสิงอยู่ก็วิ่งออกมาจากท่ามกลางฝูงชน และร้องเสียงดังว่า “พระเยซูชาวนาซเร็ธ เรากับท่านมี อะไรเกี่ยวข้องกัน ? ท่านมาทำลายพวกเราหรือ ? เรารู้ ว่าท่านเป็นผู้ใด ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า”MHTH 120.3

    พระเยซูจึงตรัสห้ามมันว่า “จงนิ่งเสียและออกมา จากเขาเถิด” และเมื่อผีโสโครกได้ทำคนนั้นให้กระสับ กระส่าย มันร้องด้วยเสียงอันดังแล้วจึงออกมาจากเขาMHTH 121.1

    สาเหตุแห่งโรคของชายผู้นี้เกิดจากความผิดบาป ในชีวิตของเขาเอง เขาได้ปล่อยตัวให้หลงระเริงไปในการ สนุกเพลิดเพลินที่เป็นบาป และคิดว่าจะใช้ชีวิตของเขา เที่ยวเตร่อย่างสนุกสนาน การดื่มของมึนเมาและการพูด จาตลกคะนองได้ทำให้คุณสมบัติอันดีงามของเขาเสื่อม ทรามลงและซาตานก็มีอำนาจเหนือเขาโดยสิ้นเชิง กว่า เขาจะรู้สึกผิดก็สายเกินไปเสียแล้ว แม้ว่าเขาปรารถนาที่ จะเสียสละทรัพย์สมบัติเพื่อจะรักษาร่างกายและจิตใจของ เขาให้หายเป็นปกติได้ดังเดิม เขาก็ได้ตกเป็นเหยื่อแห่งซาตานผู้ชั่วร้ายอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วMHTH 121.2

    เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าพระผู้ช่วยให้รอดเขาก็ปรารถนา ที่จะได้เป็นอิสสระ แต่ผีร้ายนั้นได้ต่อต้านฤทธิ์อำนาจของ พระคริสต์ เมื่อชายนั้นพยายามวิงวอนขอให้พระเยซูช่วย ผีชั่วร้ายก็บันดาลให้เขาร้องออกมาด้วยความทุกข์และ ความหวาดกลัว ชายที่มีผีสิงพอจะเข้าใจได้บ้างว่าเขาอยู่ ฉะเพาะพระพักตรของพระผู้ทรงสามารถจะช่วยเขาให้พ้น อำนาจผีชั่วร้ายได้ แต่เมื่อเขาพยายามจะมาให้ถึงพระหัตถ์ อันทรงฤทธิ์ อำนาจอีกอย่างหนึ่งก็เหนี่ยวรั้งเขาไว้ มัน บันดาลให้เขากล่าวถ้อยคำอย่างอื่นออกมาMHTH 122.1

    การต่อสู้ระหว่างอำนาจของซาตานกับความ ปรารถนาของเขาเองที่จะได้เป็นอิสสระนั้นเป็นไปอย่างรุน แรง ดูประหนึ่งว่าชายผู้ทนทุกข์ทรมานนั้นจะต้องสูญเสีย ของเขาในการต่อสู้กับศัตรูที่เป็นต้นเหตุแห่งความพินาศ ของเขาในวัยหนุ่ม แต่พระผู้ช่วยให้รอดตรัสอย่างมีอำนาจ และปล่อยให้ชายนั้นหลุดพ้นจากอำนาจของผีชั่วร้าย เมื่อ ผีนั้นออกไปพ้นเขาแล้ว ชายผู้นั้นก็ยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนที่มี ความประหลาดใจ เขามิได้อาละวาดคลุ้มคลั่งอย่างแต่ ก่อนแต่มีกิริยาท่าทางสงบสำรวมเป็นปกติMHTH 122.2

    เขาได้ร้องสรรเสริญพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี ในการที่ได้ทรงช่วยเขาให้พ้นจากอำนาจผีชั่วร้าย ดวงตา ซึ่งเมื่อแต่ก่อนเคยลุกเป็นประกายด้วยความคลุ้มคลั่งกลับ ฉายแสงแห่งความรู้คิด และหล่อเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำตา แห่งความกตัญญูรู้คุณ ฝูงชนเหล่านั้นก็พากันนิ่งอยู่ด้วยความประหลาดใจ ครั้นแล้วเขาก็ถามกันว่า “การนี้เป็น อย่างไรหนอ ? เป็นโอวาทใหม่แน่ ท่านนี้มีอำนาจสั่งผี โสโครกและมันยอมฟัง”MHTH 123.1

    ในทุกวันนี้ก็มีคนเป็นอันมากที่ตกอยู่ในอำนาจของ ผีชั่วร้ายเช่นเดียวกับชายที่มีผีสิงในเมืองกัปเรนาอูม คน ทั้งหลายที่เจตนาจะหันไปจากพระบัญญัติของพระเจ้าได้ มอบตัวเองให้อยู่ใต้อำนาจของซาตาน หลายคนหมกมุ่น อยู่กับความชั่วร้าย เพราะคิดว่าเขาสามารถจะสลัดความ ชั่วร้ายนั้นให้หลุดไปได้เมื่อเขาต้องการ แต่เขาถูกซาตาน ชักนำให้หลงผิดมายิ่งขึ้นทุกที จนในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวว่า เขาถูกบังคับด้วยอำนาจอย่างหนึ่งที่แข็งแรงมากกว่าตัวเอง เขาไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงให้พ้นจากอำนาจลึกลับนั้นได้ ความบาปอันลี้ลับและความรู้สึกที่มีอำนาจเหนือจิตใจย่อม จะทำให้เขาต้องตกเป็นทาสของผีชั่วร้ายเช่นเดียวกับคนที่มี ผีสิงในเมืองกัปเรนาอูมMHTH 123.2

    แม้กระนั้นเขาก็มิได้ตกอยู่ในสภาพที่หมดหวังเสีย ทีเดียว พระเจ้ามิได้บังคับจิตใจเราโดยที่เรามิได้ยินยอม แต่มนุษย์ทุกคนมีอิสสระที่จะเลือกได้ว่าเขาจะยอมให้อำนาจ ไหนบังคับเขา ไม่มีผู้ใดที่ตกต่ำหรือเลวทราบต่ำช้าเกิน กว่าที่พระเจ้าจะทรงสามารถช่วยเขาให้พ้นจากอำนาจของ ผีชั่วร้ายได้ แทนที่จะอธิษฐาน คนที่มีผีสิงสามารถกล่าว ได้แต่เพียงถ้อยคำของซาตาน แต่พระเยซูทรงได้ยินคำ วิงวอนขอร้องในใจของชายผู้นั้นที่เขามิได้กล่าวออกมา พระเจ้าจะทรงสดับฟังคำร้องทุกข์ของจิตวิญญาณทุกดวง ที่ได้รับความยากลำบาก แม้ว่าผู้ที่มีความทุกข์จะไม่กล่าว ออกมาเป็นถ้อยคำ คนทั้งหลายที่ยอมเข้าร่วมในคำสัญญา ของพระเจ้าจะไม่ถูกทอดทิ้งให้ตกอยู่ในอำนาจของซาตาน หรือตกอยู่ภายใต้ธรรมชาติอันอ่อนแอของเขาเองMHTH 124.1

    “จะชิงทรัพย์ชะเลยจากมือของนักรบ และ แย่งคนชะเลยมาจากมือผู้เสด็จการเหี้ยมหาญได้รึ ? แต่ พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้MHTH 125.1

    “ถึงแม้ว่าชะเลยของผู้เผด็จการเหี้ยมหาญก็ จะถูกแย่งเอาไป และทรัพย์ชะเลยก็จะถูกชิงไปจากมือ ของนักรบเสีย เพราะเราจะประจันบานกับผู้ที่ต่อสู้เจ้า และเราจะช่วยลูกหลานของเจ้าให้พ้นภัย”MHTH 125.2

    ความเปลี่ยนแปลงอันน่ามหัศจรรย์จะบังเกิดขึ้นใน ตัวของบุคคลที่ยอมเปิดประตูหัวใจรับพระผู้ช่วยให้รอด ด้วยความเชื่อMHTH 125.3

    ให้พวกท่านมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่ากำลังศัตรู
    “ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำร้ายเจ้าได้”
    MHTH 126.1

    เช่นเดียวกับอรรคสาวกสิบสองคน สาวกอีกเจ็ดสิบ คนซึ่งพระคริสต์ส่งออกไปภายหลังได้รับฤทธิ์อำนาจพิเศษ ซึ่งเป็นหมายสำคัญแสดงหน้าที่ของเขา เมื่องานของเขา เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาได้กลับมาด้วยความชื่นชมยินดี และ กล่าวว่า “พระองค์เจ้าข้า ถึงผีทั้งหลายก็ได้อยู่ใต้บังคับ ของพวกข้าพเจ้าโดยพระนามพระองค์” พระเยซูตรัส แก่เขาทั้งหลายว่า “เราได้เห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือน ฟ้าแลบ”MHTH 126.2

    นับแต่นี้เป็นต้นไปผู้ติดตามพระคริสต์จะต้องถือว่า ซาตานเป็นศัตรูที่เขาได้ชัยชะนะเหนือแล้ว ที่บนไม้กางเขน พระเยซูจะต้องได้ชัยชะนะเพื่อเขาทั้งหลาย และพระองค์ ปรารถนาที่จะให้เขาทั้งหลายรับชัยชะนะนั้นเป็นของเขาเอง พระองค์ตรัสว่า “นี่แน่ะเราได้ให้พวกท่านมีอำนาจเหยียบ งูร้ายและแมลงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้เลย”MHTH 126.3

    อำนาจทุก ๆ อย่างของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คือ การคุ้มครองป้องกันจิตต์วิญญาณทุกดวงที่ได้รับความ ลำบากเดือดร้อน ทุกคนที่ยอมกลับใจใหม่มาหาพระองค์ ด้วยความเชื่อและยอมให้พระองค์คุ้มครองป้อนกันพระองค์ จะไม่ทรงมอบเขาไว้ไต้อำนาจศัตรู เป็นความจริงที่ว่า ซาตานเป็นผู้มีอำนาจมาก แต่ขอบคุณพระเจ้าที่เรามีพระ ผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงฤทธิ์ผู้ซึ่งขับไล่ซาตานผู้ชั่วร้ายออก จากสวรรค์ ซาตานมีความยินดีเมื่อเราช่วยให้มันมีอำนาจ มากขึ้น เหตุใดจึงไม่กล่าวถึงพระเยซู ? เหตุใดจึงไม่อวด ถึงฤทธิ์อำนาจและความรักของพระองค์ ?MHTH 127.1

    รุ้งแห่งคำสัญญาซึ่งอยู่ล้อมพระที่นั่งเบื้องบน ของพระเจ้าเป็นคำพะยานอันดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ ว่า “พระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียว ของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะมิได้ พินาศ แต่มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์” รุ้งแห่งคำสัญญาเป็น พะยานต่อสากลโลกว่า พระเจ้าจะไม่ทรงละทิ้งพลไพร่ของ พระองค์ในการต่อสู้กับอำนาจชั่วร้าย เป็นสิ่งที่ช่วยให้ เราทั้งหลายมั่นใจได้ว่า ตราบใดที่พระที่นั่งของพระเจ้า ดำรงอยู่ พระองค์จะทรงประทานกำลัง และ ความคุ้มครอง ป้องกันใหแกเราตราบนั้น.MHTH 127.2