Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

สงครามครั้งยิ่งใหญ่

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    บทที่ 16 - เปาโลเข้าเยี่ยมกรุงเยรูซาเล็ม

    หลังจากที่เปาโลได้หันกลับใจใหม่ได้ไม่นาน ท่านได้ไปเยี่ยมกรุงเยรูซาเล็มและประกาศออกพระนามพระเยซูและการอัศจรรย์แห่งพระคุณของพระองค์ ท่านได้เล่าเรื่องการหันกลับใจใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างปาฏิหาริย์ของท่าน ซึ่งทำให้พวกปุโรหิตและพวกผู้ปกครองบ้านเมืองต่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและหาทางเอาชีวิตท่าน แต่เพื่อท่านจะได้รอดชีวิต พระเยซูทรงปรากฏแก่ท่านอีกครั้งในนิมิตขณะที่ท่านกำลังอธิษฐาน ทรงตรัสแก่ท่านว่า “จงรีบออกไปจากกรุงเยรูซาเล็มโดยเร็ว ด้วยว่าเขาจะไม่รับคำของเจ้าซึ่งอ้างพยานถึงเรา” เปาโลอ้อนวอนพระเยซูด้วยใจร้อนรนว่า “พระองค์เจ้าข้า คนเหล่านั้นทราบอยู่ว่า ข้าพระองค์ได้จับคนทั้งหลายที่เชื่อในพระองค์ไปใส่คุกและเฆี่ยนตีตามธรรมศาลาทุกแห่ง และเมื่อเขาทำให้โลหิตของสเทเฟนพยานผู้ยอมตายเพื่อพระองค์ตกนั้น ข้าพระองค์ได้ยืนอยู่ใกล้และเห็นชอบในการประหารเขาเสียนั้นด้วย และข้าพระองค์เป็นคนเฝ้าเสื้อผ้าของคนที่ฆ่าสเทเฟนนั้น” เปาโลคิดว่าพวกยิวที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มนั้นคงไม่สามารถต้านทานคำพยานของท่านได้ พวกเขาจะต้องใคร่ครวญถึงการหันกลับใจใหม่อันยิ่งใหญ่ในตัวท่านซึ่งเป็นไปได้โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้าเท่านั้น แต่พระเยซูทรงตรัสแก่ท่านว่า “จงไปเถิด เราจะใช้ให้เจ้าไปไกล ไปหาคนต่างชาติ”GCTh 43.1

    ในการที่เปาโลไม่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มนั้น ท่านได้เขียนจดหมายหลายฉบับไปยังสถานที่ต่าง ๆ เล่าเรื่องประสบการณ์ของท่านและเป็นพยานอันทรงฤทธิ์เดช แต่บางคนได้พยายามทำลายอิทธิพลของจดหมายเหล่านั้น พวกเขาจำต้องยอมรับว่าจดหมายของท่านมีน้ำหนักและทรงพลานุภาพ แต่ได้ประกาศว่าการสำแดงตัวของท่านนั้นด้อยและคำพูดของท่านเป็นที่น่าชังGCTh 43.2

    ข้าพเจ้าได้เห็นว่าเปาโลเป็นผู้ที่มีความรู้อันเป็นเลิศ และสติปัญญาและกิริยามารยาทของท่านก็ทำให้ผู้ฟังของท่านหลงใหล บรรดานักปราชญ์ต่างชื่นชอบความรอบรู้ของท่าน และหลายคนในพวกท่านก็ได้วางใจเชื่อในพระเยซูเมื่อต้องอยู่ต่อหน้ากษัตริย์หรือที่ประชุมใหญ่ต่าง ๆ ท่านก็ได้หลั่งรินวาทศิลป์อย่างลึกซึ้งราวกับตีคนเหล่านั้นแตกยับเยินต่อหน้าท่าน การนี้ทำให้เหล่าปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่เดือดดาลอย่างมหันต์ เปาโลสามารถเข้าสู่การชี้แจงเหตุผลอย่างลึกซึ้งได้โดยง่ายดาย และทะยานขึ้นและหอบพาประชาชนให้เข้าสู่ขบวนความคิดอันสูงสุดในศีลธรรมพร้อมกับท่าน และนำพาให้เห็นภาพพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าอันอุดมเปี่ยมล้น และพรรณนาความรักอันประเสริฐของพระคริสต์ต่อหน้าคนเหล่านั้น และด้วยอาการเรียบง่ายอย่างตรงไปตรงมาท่านได้ลงมาถึงความเข้าใจมนุษย์ปุถุชน และได้เล่าเรื่องประสบการณ์ของท่านด้วยอาการอันทรงพลานุภาพสูงสุด ซึ่งเรียกร้องความปรารถนาอันแรงกล้าจากคนเหล่านั้นให้เป็นสาวกของพระคริสต์GCTh 43.3

    องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเปิดเผยแก่เปาโลว่า ท่านจะต้องขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง ที่นั่นท่านจะต้องถูกล่ามและทนทุกข์เพื่อพระนามของพระองค์ และถึงแม้ว่าท่านได้ถูกคุมขังอยู่เป็นเวลานานก็ตาม องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ยังทรงกระทำพระราชกิจอันพิเศษของพระองค์ผ่านทางตัวท่านต่อไป การถูกจองจำของเปาโลจะเป็นวิธีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระคริสต์ และดังนั้นจะเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เมื่อท่านได้ถูกส่งจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่งเพื่อชำระคดีของท่านนั้น คำพยานเกี่ยวกับพระเยซูและเหตุการณ์อันน่าสนใจในการหันกลับใจใหม่ของท่านก็ได้ถูกเล่าต่อพระพักตร์กษัตริย์และต่อหน้าเจ้าเมือง ซึ่งพวกเขาไม่ควรถูกละทิ้งโดยไม่รู้เรื่องคำพยานเกี่ยวกับพระเยซู นับพันคนได้วางใจเชื่อในพระองค์และปีติยินดีในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าได้เห็นว่าพระประสงค์อันพิเศษของพระเจ้าได้สำเร็จในการเดินทางทางน้ำของเปาโล ที่ลูกเรือจะได้เห็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าผ่านทางเปาโล และที่พวกนอกรีตจะได้ยินพระนามของพระเยซูอีกด้วย และหลายคนได้รับหันกลับใจใหม่ผ่านการสอนของท่าน และผ่านการได้เห็นการอัศจรรย์ซึ่งท่านได้กระทำ บรรดากษัตริย์และเจ้าเมืองต่างหลงใหลในการซักเหตุผลของท่าน และเมื่อท่านประกาศออกพระนามของพระเยซูและเล่าเรื่องประสบการณ์อันน่าสนใจที่เกิดขึ้นของท่านด้วยความกระตือรือร้นและฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ คนเหล่านั้นก็ได้สำนึกยึดแน่นว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า และในขณะที่บางคนได้กำลังฟังเปาโลอยู่ด้วยความประหลาดใจนั้น คนหนึ่งได้ร้องขึ้นว่า “เราเกือบจะเป็นคริสตชนโดยคำชักชวนของเจ้า” แต่พวกเขากลับคิดว่าเวลาหนึ่งในอนาคตพวกเขาอาจจะคิดพิจารณาถึงสิ่งที่พวกเขาได้ยิน ซาตานฉวยโอกาสของการหน่วงเหนี่ยวล่าช้านี้ และเมื่อพวกเขาเพิกเฉยต่อโอกาสในขณะที่หัวใจของพวกเขากำลังอ่อนโยนนี้ มันก็ได้สูญไปชั่วนิรันดร์กาล หัวใจของพวกเขาได้กลับกลายเป็นแข็งกระด้างไปเสียแล้วGCTh 43.4

    ข้าพเจ้าได้รับการสำแดงให้เห็นการงานของซาตานอันดับแรกในการทำให้ชาวยิวตาบอด เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา และต่อไปก็คือ ในการนำพาให้พวกเขาปรารถนาเอาชีวิตของพระองค์ เนื่องจากความอิจฉาเนื่องจากการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซาตานได้เข้าสิงผู้ติดตามคนหนึ่งของพระเยซูเอง และนำพาให้เขาทรยศต่อพระองค์นำไปสู่มือของคนเหล่านั้น และเขาทั้งหลายได้ตรึงกางเขนองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งชีวิตและสง่าราศี หลังจากที่พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว พวกชาวยิวก็ได้เพิ่มบาปซ้อนบาป เมื่อพวกเขาพยายามจะปิดบังข้อเท็จจริงเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ โดยการจ้างวานทหารโรมันเฝ้ายามให้เป็นพยานยืนยันอันเป็นเท็จ แต่การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูก็ได้ถูกทำให้แน่ใจเป็นสองเท่าโดยการฟื้นคืนชีพของเหล่าพยานจำนวนมากผู้เป็นขึ้นมาพร้อมกับพระองค์ พระเยซูทรงปรากฏแก่พวกสาวกของพระองค์และประชาชนมากกว่าห้าร้อยคนในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ผู้ที่พระองค์ทรงปลุกให้เป็นขึ้นมากับพระองค์นั้นได้ปรากฏต่อหลายคนประกาศด้วยว่าพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้วGCTh 43.5

    ซาตานได้ทำให้ชาวยิวดื้อรั้นต่อพระเจ้า โดยการปฏิเสธไม่ยอมรับพระบุตรของพระองค์ และในการทำให้มือของพวกเขาเปื้อนพระโลหิตอันมีค่าสูงสุดในการตรึงพระองค์ที่กางเขน ไม่ว่าหลักฐานในการเป็นพระบุตรของพระเจ้าและพระผู้ไถ่ของโลกที่พระเยซูทรงสำแดงจะยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม พวกเขาก็ได้ฆ่าพระองค์และไม่สามารถได้รับหลักฐานอันใดในการเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ ความหวังและการปลอบใจเดียวของพวกเขา เช่นเดียวกับที่ซาตานมีหลังจากการล้มลงของมัน ก็คือการพยายามที่จะเอาชนะพระบุตรของพระเจ้า พวกเขายังคงดื้อรั้นต่อไปโดยการข่มเหงเหล่าสาวกของพระคริสต์และฆ่าพวกท่านให้ตาย ไม่มีอะไรที่บาดหูของพวกเขามากเท่าพระนามของพระเยซูผู้ซึ่งพวกเขาได้ตรึงเสียที่กางเขน และพวกเขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ฟังหลักฐานอันใดในการเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ ดังเช่นในกรณีของสเทเฟน เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้แสดงหลักฐานอันทรงฤทธิ์ยิ่งใหญ่ในการเป็นพระบุตรของพระเจ้าโดยผ่านท่าน พวกเขาได้อุดหูไม่ฟัง มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกทำให้เชื่อ และในขณะที่สเทเฟนถูกห้อมล้อมอยู่ในพระสง่าราศีของพระเจ้า พวกเขาก็ได้ขว้างหินใส่ท่านจนตาย ซาตานได้จับฆาตกรของพระเยซูแน่นอยู่ในกำมือของมัน โดยการงานอันชั่วช้าพวกเขาได้ยอมมอบตัวของพวกเขาเองให้เป็นพลเมืองที่สมัครใจของมัน และมันได้ทำให้เหล่าผู้เชื่อของพระคริสต์ทนทุกข์ยากและไม่สงบสุขโดยผ่านทางพวกเขา มันทำงานผ่านพวกชาวยิวให้ยุแหย่พวกต่างชาติให้ต่อต้านพระนามของพระเยซู และต่อต้านบรรดาผู้ติดตามพระองค์และวางใจในพระนามของพระองค์ แต่พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ของพระองค์เสริมกำลังเหล่าสาวกในภารกิจของพวกท่าน เพื่อที่พวกท่านจะเป็นพยานยืนยันถึงสิ่งที่พวกท่านได้เห็นและได้ยิน และในที่สุดจะประทับตราเครื่องหมายการเป็นพยานของพวกท่านอย่างมั่นคงด้วยโลหิตของพวกเขาเองGCTh 44.1

    ซาตานรู้สึกดีใจที่ชาวยิวอยู่อย่างปลอดภัยในบ่วงแร้วของมัน พวกเขายังคงปฏิบัติตามแบบแผนของพวกเขา ถวายเครื่องเผาบูชาและพิธีการต่าง ๆ อันเปล่าประโยชน์ของพวกเขาเช่นเคย เมื่อพระเยซูทรงถูกแขวนอยู่บนกางเขนและทรงร้องว่า “สำเร็จแล้ว” นั้น ม่านของพระวิหารก็ขาดออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง เพื่อเป็นหมายสำคัญว่าพระเจ้าจะไม่ทรงเสด็จมาพบกับบรรดาปุโรหิตในพระวิหาร เพื่อมารับเอาเครื่องเผาบูชาและพิธีการต่าง ๆ ของพวกเขาอีกต่อไป และเพื่อสำแดงอีกด้วยว่า กำแพงแบ่งกั้นระหว่างชาวยิวและชาวต่างชาตินั้นได้ถูกพังลงแล้ว พระเยซูทรงถวายเครื่องถวายบูชาคือชีวิตของพระองค์เองสำหรับทั้งสองฝ่าย และถ้าในท้ายสุดได้รับความรอดนั้น ทั้งสองฝ่ายจะต้องเชื่อในพระเยซูว่าเป็นเครื่องถวายบูชาเดียวสำหรับความบาปและเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลกGCTh 44.2

    ในขณะที่พระเยซูทรงถูกแขวนอยู่บนกางเขนนั้น เมื่อทหารได้เอาทวนแทงที่สีข้างของพระองค์ ได้มีโลหิตและน้ำไหลออกมาแยกเป็นสองสายอย่างแจ่มชัด สายหนึ่งเป็นโลหิตและอีกสายหนึ่งเป็นน้ำใสสะอาด โลหิตก็เพื่อลบล้างบาปของผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์ และน้ำเป็นตัวแทนแห่งน้ำธำรงชีวิตซึ่งได้มาจากพระเยซูเพื่อประทานชีวิตแด่ผู้ที่เชื่อGCTh 44.3

    โปรดดู มัทธิว 27:52; ยอห์น 19:34; กิจการของอัครทูต บทที่ 24 และ 26GCTh 44.4