บทที่ 30 - ลัทธิทรงวิญญาณนิยม

ข้าพเจ้าได้เห็นการชักนำให้หลงที่กำลังเคาะดังอยู่ตลอดเวลา ซาตานมีอำนาจในการนำรูปร่างต่าง ๆ มาปรากฏต่อหน้าเรา โดยอ้างให้เข้าใจว่าเป็นญาติพี่น้องและเพื่อนของเราที่ขณะนี้กำลังนอนหลับอยู่ในพระเยซู มันจะถูกทำให้ปรากฏราวกับว่าพวกเขาได้กำลังอยู่ที่นั่น ถ้อยคำทั้งหลายที่เคยกล่าวออกมาในขณะที่มีชีวิตอยู่ซึ่งพวกเราคุ้นเคยนั้น จะถูกกล่าวออกมา และน้ำเสียงเดียวกันเหมือนตอนที่พวกเขาเคยมีชีวิตอยู่นั้นจะดังกระทบหู ทั้งหมดนี้กำลังจะหลอกลวงโลกและทำให้พวกเขาตกหลุมกับดักไปสู่ความเชื่อในการชักนำให้หลงนี้GCTh 75.1

ข้าพเจ้าได้เห็นว่าเหล่าวิสุทธิชนจะต้องมีความเข้าใจความจริงสำหรับปัจจุบันอย่างถ่องแท้ ซึ่งเขาทั้งหลายจะต้องยืนกรานจากพระคัมภีร์ เขาทั้งหลายจะต้องเข้าใจสภาพของความตาย เพราะวิญญาณของพวกผีปีศาจจะปรากฏตัวให้เขาทั้งหลายได้เห็น อ้างว่าเป็นเพื่อนและญาติอันเป็นที่รัก ผู้ที่จะประกาศหลักคำสอนที่ไม่ตรงกับพระคัมภีร์ พวกมันจะใช้พลังทั้งหมดในการกระตุ้นความรู้สึกสงสารและกระทำการอัศจรรย์ต่าง ๆ ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เพื่อยืนยันสิ่งที่มันประกาศนั้นว่าเป็นความจริง พลไพร่ของพระเจ้าจะต้องได้รับการเตรียมตัวเพื่อต้านทานวิญญาณเหล่านี้ ด้วยความจริงจากพระคัมภีร์ว่า คนที่ตายแล้วนั้นไม่รับรู้สิ่งใดและพวกมันคือวิญญาณของพวกผีปีศาจGCTh 75.2

ข้าพเจ้าได้เห็นว่าเราจะต้องตรวจสอบรากฐานความหวังของพวกเราให้ดี เนื่องจากเราจะต้องให้เหตุผลจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ และเนื่องจากเราจะได้เห็นการชักนำให้หลงนี้แพร่กระจายออกไป และเราจะต้องเผชิญหน้าสู้กับมันชนิดตัวต่อตัวอีกด้วย และถ้าพวกเราไม่ได้รับการเตรียมตัวสำหรับมันล่ะก็ เราก็จะติดกับดักและพ่ายแพ้ได้ แต่ถ้าเราทำในส่วนที่เราสามารถทำได้ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมต่อการปะทะที่จะอยู่ต่อหน้าเราในไม่ช้านี้ พระเจ้าก็จะทรงกระทำการในส่วนของพระองค์ และพระหัตถ์อันทรงฤทธานุภาพสูงสุดของพระองค์ก็จะปกป้องเรา พระองค์ทรงปรารถนาที่จะทรงส่งทูตสวรรค์ทุกองค์ออกไปด้วยสง่าราศี เพื่อเป็นกำแพงป้องกันบรรดาผู้ซื่อสัตย์ มากกว่าที่จะปล่อยให้พวกเขาถูกล่อลวงและนำพาไปโดยการมหัศจรรย์แห่งความเท็จของซาตานGCTh 75.3

ข้าพเจ้าได้เห็นการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของการชักนำให้หลงนี้ ข้าพเจ้าได้เห็นรถไฟที่เคลื่อนไปด้วยความเร็วดังสายฟ้าแลบ ทูตสวรรค์ได้สั่งข้าพเจ้าให้ตั้งใจมอง ข้าพเจ้าได้จดจ้องสายตาอยู่ที่ขบวนรถไฟ ดูเหมือนกับว่าคนทั้งโลกอยู่บนนั้น แล้วทูตสวรรค์ได้สำแดงคนขับรถไฟให้ข้าพเจ้าเห็น เป็นบุคคลผู้ซึ่งมีลักษณะที่สง่างามภูมิฐาน ผู้ซึ่งเหล่าผู้โดยสารยกย่องนับถือและให้ความเคารพยำเกรง ข้าพเจ้ารู้สึกงงงวย จึงได้ถามทูตสวรรค์ที่อยู่กับข้าพเจ้าว่า ผู้นั้นเป็นใคร ทูตสวรรค์กล่าวว่ามันคือซาตาน มันเป็นคนขับที่อยู่ในรูปของทูตแห่งความสว่าง มันได้จับคนทั้งพิภพไป เขาทั้งหลายถูกทำให้ความลุ่มหลงเข้ามาครอบงำให้เชื่อสิ่งที่เท็จที่ทำให้พวกเขาถูกสาปแช่ง ผู้แทนของมันผู้อยู่สูงที่สุดต่อจากมันนั้นเป็นนายช่างวิศวกร และตัวแทนอื่น ๆ ของมันก็ได้ทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ ที่มันต้องการให้พวกมันทำ และพวกมันทุกคนได้เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็วดังสายฟ้าแลบสู่นรก ข้าพเจ้าได้ถามทูตสวรรค์ว่ายังมีคนเหลืออยู่บ้างไหม ท่านสั่งให้ข้าพเจ้าหันไปดูทิศที่ตรงข้ามกัน และข้าพเจ้าก็ได้เห็นกลุ่มคนเล็กน้อยกลุ่มหนึ่งเดินทางไปตามหนทางคับแคบ ทุกคนดูเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่วแน่และถูกผูกไว้ด้วยกันด้วยความจริงGCTh 76.1

กลุ่มคนเล็กน้อยกลุ่มนี้ดูท่าทางอิดโรย ราวกับว่าเขาทั้งหลายได้ผ่านการทดลองใจและการปะทะมาอย่างหนัก และดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์เพิ่งจะเริ่มปรากฏขึ้นหลังเมฆและฉายมากระทบใบหน้าของเขาทั้งหลาย และทำให้เขาทั้งหลายดูมีชัยชนะราวกับว่าชัยชนะนั้นใกล้เข้ามาแล้วGCTh 76.2

ข้าพเจ้าได้เห็นว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงประทานโอกาสให้โลกได้ค้นพบกับดักนี้ ยังมีสิ่งหนึ่งที่เป็นหลักฐานที่เพียงพอสำหรับเหล่าคริสตชน ถ้าหากไม่มีหลักฐานอื่นใดอีก นั่นก็คือ มันไม่ได้มีความแตกต่างที่ถูกแยกออกระหว่างบรรดาคนที่มีค่าและคนที่น่าอัปยศเลยGCTh 76.3

โธมัส เพน ผู้ซึ่งร่างกายได้เปื่อยเน่าไปเป็นผงคลีดินแล้ว และจะถูกเรียกขึ้นมาในการฟื้นคืนชีพครั้งที่สองเมื่อระยะเวลา 1000 ปีได้สิ้นสุดลง เพื่อมารับรางวัลของเขาและทนทุกข์ในความตายครั้งที่สอง ซาตานได้กล่าวอ้างทำให้เข้าใจว่าเขาได้กำลังอยู่บนฟ้าสวรรค์และได้รับการเชิดชูอย่างสูงส่งที่นั่น ซาตานได้ใช้เขาเป็นเครื่องมือบนแผ่นดินโลกตราบนานเท่าที่มันจะสามารถทำได้ และขณะนี้มันก็ยังคงทำงานเช่นเดียวกันนี้ต่อไป โดยอวดอ้างว่าโธมัส เพน ได้ถูกยกย่องสรรเสริญและได้รับเกียรติอย่างมากมาย และในขณะที่เขาได้สอนอยุ่บนแผ่นดินโลกนั้น ซาตานได้กำลังทำให้มันดูเหมือนว่า ขณะที่เขากำลังสั่งสอนอยู่ในฟ้าสวรรค์ด้วย และบางคนบนโลกนี้ที่ได้มองดูความเป็นความตายของเขาด้วยความหวาดกลัวและการสอนที่เสื่อมเสียในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ขณะนี้ได้ยอมให้ตัวเองอยู่ภายใต้การสั่งสอนของเขา ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในผู้ที่น่าอัปยศที่สุดและเลวทรามที่สุด และเป็นหนึ่งในผู้ที่รังเกียจพระเจ้าและพระราชบัญญัติของพระองค์GCTh 76.4

มารผู้เป็นพ่อแห่งความมุสาได้ล่อลวง และทำให้โลกนี้ตาบอด โดยการส่งสมุนของมันออกไป เพื่อพูดแทนเหล่าอัครทูต และทำให้ดูปรากฏว่าพวกท่านพูดตรงกันข้ามกับสิ่งที่ท่านได้เขียนไปเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่แผ่นดินโลก ซึ่งนั่นเป็นการเขียนตามคำบอกโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เหล่าทูตที่โกหกเหล่านี้ทำให้เหล่าอัครทูตนั้นทำลายคำสั่งสอนต่าง ๆ ของพวกเขาเองให้เสื่อมทรามลงและจะได้ประกาศว่ามันได้รับการเจือปน โดยการทำเช่นนั้น มันจะสามารถโยนบรรดาผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นคริสตชน ผู้ได้ชื่อว่ามีชีวิตอยู่แต่ว่าได้ตายเสียแล้ว และคนทั้งโลกให้เข้าไปอยู่ในความไม่แน่ใจเกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า เพราะพระวจนะของพระเจ้านั้นหมายถึงการตัดเส้นทางเดินของมันโดยตรง และมีทีท่าว่าจะสกัดกั้นแผนการต่าง ๆ ของมัน ดังนั้นมันจึงทำให้พวกเขาเกิดความสงสัยในต้นกำเนิดของพระคัมภีร์ที่มาจากพระเจ้า แล้วก็ได้ตั้งคนที่ไม่เชื่อในศาสนาคือ โธมัส เพน ขึ้นมา ให้ดูราวกับว่าเขาได้ถูกนำพาเข้าไปในฟ้าสวรรค์หลังจากที่ตายไปแล้ว และได้เป็นหนึ่งเดียวกับเหล่าอัครทูตผู้บริสุทธิ์ที่เขาได้เกลียดชังในขณะที่อยู่บนแผ่นดินโลก และปรากฏว่ากำลังสั่งสอนเหล่ามวลมนุษย์อยู่ที่นั่นGCTh 76.5

ซาตานได้มอบบทบาทให้ทูตสมุนของมันแต่ละตัวในการแสดง มันสั่งให้พวกมันฉลาดแกมโกง มารยา และเจ้าเล่ห์ มันแนะให้ทูตสมุนบางตัวแสดงบทบาทของเหล่าอัครทูตและให้พูดแทนพวกท่าน ในขณะที่ตัวอื่น ๆ นั้นแสดงเป็นคนชั่วและพวกที่ไม่เชื่อในศาสนา ผู้ที่ได้ตายไปแล้วและสาปแช่งพระเจ้า แต่บัดนี้กลับดูเหมือนว่าเป็นผู้ที่เคร่งศาสนามาก มันไม่มีข้อแตกต่างที่แยกระหว่างเหล่าอัครทูตผู้บริสุทธิ์ที่สุดและพวกที่ไม่เชื่อในศาสนาที่น่าอัปยศที่สุดเลย ทั้งสองฝ่ายถูกสร้างมาให้สอนในสิ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ซาตานสั่งให้พูด ขอเพียงให้เป้าหมายของมันสำเร็จเป็นพอ มันได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดอย่างมากกับเพนในขณะที่เราอยู่บนแผ่นดินโลก และดังนั้นมันได้ช่วยเขา มันจึงเป็นสิ่งที่ง่ายมากสำหรับมันที่จะรู้จักคำพูดนั้น ๆ ที่เขาเคยใช้ และลายมือแบบนั้นของคนสักคนในบรรดาลูกหลานที่อุทิศตัวของมัน ผู้ที่ทำงานให้แก่มันอย่างซื่อสัตย์และทำให้เป้ามายของมันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซาตานบอกให้เขาเขียนตรามคำบอกของมันในงานเขียนของเขาอย่างมากมาย และมันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับมันที่จะบอกให้เขียนตามคำบอกของมันถึงทัศนะต่าง ๆ โดยทูตสมุนของมันในขณะนี้ และทำให้ดูเหมือนกับว่ามันมาจากโธมัส เพน ผู้เป็นผู้รับใช้ที่อุทิศตัวของมันในขณะที่มีชีวิตอยู่ แต่นี้เป็นผลงานชิ้นยอดของซาตานทีเดียว คำสอนทั้งหลายเหล่านี้ที่ชวนให้เข้าใจว่ามาจากเหล่าอัครทูต และเหล่าวิสุทธิชน และคนชั่วผู้ที่ได้ตายไปแล้วนั้น มาจากอำนาจของมันคือซาตานผู้ยิ่งใหญ่โดยตรงGCTh 77.1

สิ่งนี้คงเพียงพอที่จะปลดเปลื้องม่านออกจากจิตใจทุกดวง และเปิดโปงให้ทุกคนได้เห็นการงานอันลึกลับในความมืดของซาตาน คือมันได้ครอบครองผู้หนึ่งซึ่งมันรักมาก และเป็นผู้ที่เกลียดชังพระเจ้าอย่างแท้จริง ได้กำลังอยู่กับเหล่าอัครทูตผู้บริสุทธิ์และทูตสวรรค์ในสง่าราศี เท่ากับว่ากำลังกล่าวแก่โลกและผู้ที่ไม่เชื่อในศาสนาว่า ไม่ว่าท่านจะชั่วร้ายแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าท่านจะศรัทธาในพระเจ้าหรือพระคัมภีร์ หรือไม่เชื่อเลยก็ตาม เพียงท่านใช้ชีวิตตามที่ท่านพอใจ ฟ้าสวรรค์คือบ้านของท่านแล้ว - เพราะทุกคนรู้ว่าถ้าโธมัส เพน อยู่ในฟ้าสวรรค์แล้ว อีกทั้งยังถูกยกให้สูงส่งเช่นนั้น เขาทั้งหลายก็จะได้ไปถึงสวรรค์อย่างแน่นอน มันช่างกระจ่างชัดนัก ชนิดที่ว่าเขาทั้งหลายจะเข้าใจได้ ถ้าเขาทั้งหลายต้องการ ซาตานกำลังทำในสิ่งที่มันได้พยายามทำมาตั้งแต่ที่มันล้มลงโดยผ่านบุคคลแต่ละคนอย่างเช่น โธมัส เพน มันกำลังใช้อำนาจของมันและการมหัศจรรย์แห่งความเท็จ ฉีกทำลายฐานแห่งความหวังของเหล่าคริสตชนให้สูญไป และดับดวงอาทิตย์ของพวกเขาที่ส่องหนทางอันคับแคบสู่ฟ้าสวรรค์ให้แก่พวกเขา มันกำลังทำให้โลกเชื่อว่าพระคัมภีร์เป็นหนังสือที่ไม่ได้ดีไปกว่าเรื่องเล่าธรรมดาเล่มหนึ่ง และไม่ได้ถูกดลบันดาลแต่ประการใด ในขณะที่มันได้เสนอบางสิ่งบางอย่างให้แทนที่พระคัมภีร์ นั่นก็คือ การสำแดงปาฏิหาริย์!GCTh 77.2

นี่เป็นช่องทางที่เปิดให้แก่มันแต่เพียงผู้เดียว ภายใต้การควบคุมของมัน และมันสามารถทำให้โลกเชื่อตามที่มันต้องการ หนังสือที่จะเปิดตัวพิพากษามันและเหล่าผู้ติดตามของมันนั้น มันได้เก็บไว้ในเงามืดที่มันต้องการ มันทำให้พระผู้ช่วยให้รอดของโลกเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง และเช่นเดียวกับที่ทหารโรมันที่เฝ้ายามอยู่ที่หน้าอุโมงค์ฝังศพของพระเยซู ได้กระจายรายงานเท็จและที่ได้โกหกตามที่บรรดาปุโรหิตใหญ่และพวกผู้ใหญ่ได้สั่งให้พวกเขาพูดนั้น ผู้หลงละเมอที่น่าสงสารที่ได้ติดตามการสำแดงปาฏิหาริย์อันหลอกลวงเหล่านี้ ก็จะกระทำการเช่นเดียวกันซ้ำอีก และพยายามที่จะทำให้ปรากฏดูเหมือนว่ามันไม่มีอะไรที่น่ามหัศจรรย์เลยในเรื่องกับการประสูติ การสิ้นพระชนม์ และการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระผู้ช่วยให้รอดของเรา และพวกเขาได้วางพระเยซูไว้ด้วยกันกับพระคัมภีร์ในเงามือที่พวกเขาต้องการ แล้วหลังจากนั้นก็ทำให้โลกมองดูที่พวกมัน และการมหัศจรรย์แห่งความเท็จและปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ของมัน ซึ่งมันประกาศว่าเป็นการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการอัศจรรย์ของพระคริสต์ ดังนั้นโลกจึงตกอยู่ในกับดักของมัน และถูกกล่อมว่าอยู่ในที่มั่นปลอดภัย จะไม่สามารถค้นพบการหลอกลวงอันน่าหวาดกลัวของพวกมันได้ จนกว่าภัยพิบัติเจ็ดประการสุดท้ายจะถูกเทลงมา ซาตานได้หัวเราะในขณะที่มันได้เห็นแผนการของมันประสบความสำเร็จอย่างดีและโลกทั้งโลกก็ตกอยู่ในกับดักนี้GCTh 77.3

ดูปัญญาจารย์ 9:5; ยอห์น 11:1-45; 2 เธสะโลนิกา 2:9-12; วิวรณ์ 13:3-14GCTh 77.4