Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

สงครามครั้งยิ่งใหญ่

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    บทที่ 31 - ความโลภ

    ข้าพเจ้าได้เห็นซาตานและทูตสมุนของมันปรึกษาหารือกัน มันสั่งทูตสมุนของมันให้ไปวางกับดัก โดยเฉพาะสำหรับคนเหล่านั้นที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยการปรากฏครั้งที่สองของพระคริสต์ และผู้ที่รักษาพระบัญญัติทุกประการของพระเจ้า ซาตานได้บอกกับทูตสมุนของมันว่า ทุกคริสตจักรกำลังหลับใหล มันจะเพิ่มอำนาจและการมหัศจรรย์แห่งความเท็จของมันขึ้นอีก และมันจะสามารถครอบครองพวกเขาได้ “แต่พวกนิกายที่รักษาวันสะบาโตนั้นเราเกลียดชัง พวกมันทำการต่อต้านพวกเราอย่างไม่หยุดยั้ง และแย่งเอาพลเมืองของเราไป เพื่อไปรัก่พระราชบัญญัติอันน่าเกลียดชังของพระเจ้า” GCTh 78.1

    “จงไป แล้วทำให้เหล่าผู้ครอบครองที่กินและเงินตราทั้งหลาย มัวเมาด้วยความวิตกกังวล ถ้าพวกเจ้าสามารถทำให้พวกมันมีความรักใคร่ต่อสิ่งเหล่านี้ได้ ในอนาคตพวกเราก็จะได้พวกมันมา พวกมันจะปฏิญาณอะไรก็ได้ที่พวกมันต้องการ เพียงแต่ทำให้พวกมันใส่ใจในเงินทองมากกว่าความสำเร็จของอาณาจักรของพระคริสต์ หรือการประกาศความจริงที่พวกเราเกลียดชัง จงสำแดงโลกแห่งแสงสีที่น่าดึงดูดใจให้มากที่สุดแก่พวกมัน เพื่อที่พวกมันจะได้รักและเคารพบูชา พวกเราจะต้องเก็บความมั่งคั่งทั้งหมดมาไว้ในพวกเของเราที่เราสามารถทำได้ ยิ่งพวกมันมีความมั่งคั่งมากเท่าใด พวกมันยิ่งทำร้ายอาณาจักรของเราโดยการดึงพลเมืองของเราไปได้มากเท่านั้น แล้วถ้าพวกมันนัดประชุมกันในสถานที่ต่าง ๆ เวลานั้นพวกเราก็จะตกอยู่ในอันตราย จงเฝ้าระวังให้มากก็แล้วกัน จงทำทุกอย่างให้ใจของพวกมันไขว้เขวไปเท่าที่พวกเจ้าจะทำได้ จงทำลายความรักที่พวกมันมีต่อกัน ทำให้บรรดาศาสนาจารย์ผู้รับใช้ของพวกมันท้อแท้และหมดกำลังใจ เพราะเราเกลียดพวกมัน จงใส่ข้ออ้างที่ฟังขึ้นทั้งหลายให้แก่บรรดาผู้ที่มีเงินทอง เพื่อที่พวกมันจะได้ไม่ถวายเงินทองออกไป จงควบคุมทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินทองถ้าพวกเจ้าทำได้ แล้วดันให้ศาสนาจารย์ผู้รับใช้ของพวกมันต้องการและเป็นทุกข์กังวลเพราะมัน นี่จะทำให้กำลังใจและความกระตือรือร้นของพวกมันอ่อนแอลง จงต่อสู้ทุกพื้นที่ตารางนิ้ว จงทำให้ความโลภและความรักทรัพย์สมบัติทางโลกเป็นลักษณะนิสัยที่ครอบงำจิตใจของพวกมัน ตราบใดที่ลักษณะนิสัยนี้ครอบงำพวกมันอยู่ ความรอดและพระคุณก็อยู่ข้างหลัง จงห้อมล้อมทุกสิ่งสารพัดที่พวกเจ้าสามารถทำได้ไว้รอบพวกมันเพื่อดึงดูดพวกมัน แล้วก็จะตกเป็นของพวกเราอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่พวกเราจะแน่ใจในพวกมันเท่านั้น แต่อิทธิพลอันน่ารังเกียจของพวกมันก็จะไม่สามารถสำแดงออกไปสู่ผู้อื่น เพื่อที่จะนำพวกเขาให้ไปสู่ฟ้าสวรรค์อีกด้วย และพวกคนเหล่านั้นที่พยายามจะถวายสิ่งใดก็ตาม จงใส่ความรู้สึกเสียดายไปที่พวกมัน เพื่อว่าพวกมันจะได้ถวายแต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น”GCTh 78.2

    ข้าพเจ้าได้เห็นซาตานดำเนินแผนการของมันอย่างดีทีเดียว และในขณะที่ผู้รับใช้ของพระเจ้านัดประชุมกันนั้นซาตานและทูตสมุนของมันเข้าใจภารกิจของพวกเขา และร่วมอยู่ที่นั่นด้วย เพื่อขัดขวางพระราชกิจของพระเจ้า และมันได้กำลังใส่คำแนะนำต่าง ๆ ในความคิดของพลไพร่ของพระเจ้าอย่างไม่ลดละ มันนำให้บางคนไปในทางหนึ่ง อีกพวกหนึ่งไปอีกทางหนึ่ง มักจะเอาผลประโยชน์เนื่องจากลักษณะนิสัยอันชั่วร้ายในบรรดาพี่น้องทั้งหลาย กระตุ้นและปลุกเร้าตัณหาทางด้านเนื้อหนังทั้งหลายของพวกเขา ถ้าพวกเขามีใจโน้มเอียงที่จะเห็นแก่ตัวและมีความโลภแล้วล่ะก็ ซาตานจะชอบใจมากที่จะยืนอยู่ข้างพวกเขา แล้วมันก็จะพยายามที่จะนำให้พวกเขาแสดงความบาปชั่วที่ผลาญชีวิตของพวกขาออกมาด้วยอำนาจทั้งหมดของมัน ถ้าพระคุณของพระเจ้าและแสงแห่งความจริงจะละลายความรู้สึกโลภและเห็นแก่ตัวนี้เพียงเล็กน้อย และพวกเขาไม่มีชัยชนะเหนือความรู้สึกเหล่านี้ เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลแห่งความรอดนี้ล่ะก็ ซาตานก็จะเข้ามาและทำให้ศีลธรรมในใจอันสูงส่งและที่เอื้อเฟื้อนั้นเหี่ยวแห้งไป และพวกเขาก็จะคิดว่าสิ่งที่พวกเขาต้องทำนั้นมากเกินไป พวกเขาจะเหนื่อยล้าที่จะทำการดีและลืมการเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อพวกเขา ที่พระองค์ได้ทรงไถ่พวกเขาให้รอดพ้นจากอำนาจของซาตานและความทุกข์เวทนาอันสิ้นหวังนั่นเองGCTh 78.3

    ซาตานฉวยโอกาสจากจิตใจที่โลภและเห็นแก่ตัวของยูดาส และทำให้เขาบ่นว่าการเจิมน้ำมันที่นางมารีย์ได้ถวายแด่พระเยซู ยูดาสมองว่าการกระทำนี้เป็นการสิ้นเปลืองอย่างยิ่ง ซึ่งมันน่าจะถูกขายและนำเงินไปให้แก่คนขัดสนมากกว่า เขามิได้มีใจห่วงใยคนขัดสนเลย แต่ถือว่าการถวายด้วยใจกว้างขวางที่มีให้แก่พระเยซูนั้นเป็นสิ่งที่สุรุ่ยสุร่าย ยูดาสตีค่าราคาพระผู้เป็นเจ้าของเขาเพียงพอที่จะขายพระองค์ด้วยเงินเพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้น และข้าพเจ้าได้เห็นว่ายังมีบางคนที่เหมือนกับยูดาสท่ามกลางคนเหล่านั้นที่ได้ปฏิญาณว่าเป็นผู้ที่รอคอยพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา ซาตานมีอำนาจควบคุมเหนือพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่รู้ตัวเลย พระเจ้าไม่ทรงเห็นพ้องพระทัยกับความโลภและความเห็นแก่ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว พระองค์ทรงเกลียดมัน และพระองค์ทรงชังคำอธิษฐานและคำกระตุ้นร้องขอของคนที่มีลักษณะนิสัยเช่นนั้น ซาตานเห็นว่าเวลาของมันมีน้อย มันจึงทำให้พวกเขามีความเห็นแก่ตัวมากขึ้นและมีความโลภมากขึ้น แล้วก็รู้สึกยินดีปรีดาในขณะที่มันเห็นพวกเขาหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ใจดำ ตระหนี่ขี้เหนียว และเห็นแก่ตัว ถ้าหากดวงตาของคนเหล่านั้นสามารถถูกเปิดออกได้ล่ะก็ พวกเขาคงจะมองเห็นซาตานกับชัยชนะแห่งปีศาจนรกที่กำลังปรีดาปราโมทย์อยู่เหนือพวกเขา และหัวเราะเยาะในความโง่ของพวกเขา ที่ยอมรับคำแนะนำของมันและตกอยู่ในกับดักของมัน แล้วซาตานกับทูตสมุนของมันก็ได้ใช้พฤติกรรมที่คับแคบและเต็มไปด้วยความโลภของแต่ละคนนั้น และเสนอให้พระเยซูได้ทอดพระเนตรและให้ทูตสวรรค์บริสุทธิ์มองดู พร้อมทั้งกล่าวอย่างดูหมิ่นว่า “นี่ไง ผู้ติดตามของพระคริสต์! พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะรับการจำแลงกายขึ้นไปบนสวรรค์!” ซาตานทำเครื่องหมายให้เห็นแนวทางที่หันเหของพวกเขา แล้วก็เปรียบเทียบกับข้อพระคัมภีร์ที่ว่ากล่าวตำหนิสิ่งเหล่านี้อย่างเรียบง่าย แล้วสำแดงแก่เหล่าทูตแห่งฟ้าสวรรค์ เพื่อสร้างความรำคาญและกล่าวว่า “คนเหล่านี้ไง ที่กำลังติดตามพระคริสต์และพระวจนะของพระองค์น่ะ! คนเหล่านี้ไง ที่เป็นผลของการเสียสละและการไถ่ให้รอดของพระคริสต์ยังไงล่ะ!” เหล่าทูตสวรรค์ได้หันหน้าไปจากภาพเหตุการณ์ด้วยความสะอิดสะเอียน พระเจ้าทรงกำหนดให้พลไพร่ของพระองค์กระทำการดีอย่างไม่ลดละ และเมื่อพวกเขาเมื่อยล้าต่อการทำดีด้วยจิตใจที่กว้างขวางแล้วล่ะก็ พระองค์ก็จะทรงเหนื่อยระอากับพวกเขาเช่นกัน ข้าพเจ้าได้เห็นว่าพระเจ้าทรงไม่ชอบพระทัยเป็นอย่างยิ่ง กับการแสดงความเห็นแก่ตัวเพียงน้อยนิดของพลไพร่ที่ปฏิญาณตัวของพระองค์ คือผู้ที่พระเยซูมิได้ทรงสงวนชีวิตอันมีค่าของพระองค์เองไว้เลย (เพื่อประทานให้แก่พวกเขา) แต่ละคนที่เห็นแก่ตัวและมีความโลภมากก็จะล้มออกไปในระหว่างทาง เช่นเดียวกับที่ยูดาสได้ขายพระผู้เป็นเจ้าของเขานั้น พวกเขาก็จะขายศีลธรรมอันดีงามและลักษณะนิสัยอันสูงส่งและเอื้อเฟื้อ เพื่อทรัพย์สินทางโลกเพียงเล็กน้อยนั้นเช่นเดียวกัน คนประเภทนี้จะถูกฝัดร่อนออกไปจากพลไพร่ของพระเจ้า ผู้ที่ปรารถนาฟ้าสวรรค์จะต้องมีจิตใจที่ใฝ่หาศีลธรรมแห่งฟ้าสวรรค์ด้วยกำลังทั้งหมดที่พวกเขามีอยู่ และแทนที่จิตวิญญาณของพวกเขาจะแห้งเหี่ยวไปเนื่องจากความเห็นแก่ตัว พวกเขาควรจะขยายความมีเมตตากรุณาออกไป และควรพยายามทำการดีต่อกันและกันในทุกโอกาส และเพิ่มเติมและเติบโตขึ้นและยิ่งขึ้นในศีลธรรมแห่งฟ้าสวรรค์ พระเยซูคือผู้ที่เป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ที่ข้าพเจ้าได้รับการสำแดงให้เห็น ชีวิตของพระองค์นั้นปราศจากความคิดเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และโดดเด่นด้วยพระเมตตากรุณาที่ไม่มีอคติใดเลยGCTh 78.4

    ดูมาระโก 4:3-11; ลูกา 12:15-40; โคโลสี 3:5-16; 1 ยอห์น 2:15-17 GCTh 79.1

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents