Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

สงครามครั้งยิ่งใหญ่

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    บทที่ 5 - พระราชกิจของพระคริสต์

    หลังจากที่ซาตานได้เสร็จสิ้นการทดลองของมันแล้ว จึงละพระเยซูไปช่วงเวลาหนึ่ง แล้วเหล่าทูตสวรรค์ก็ได้จัดเตรียมอาหารให้แก่พระองค์ในถิ่นทุรกันดารแล้วเสริมกำลังพระองค์ แล้วพระพรของพระบิดาของพระองค์ก็ประทับอยู่บนพระองค์ ซาตานได้ประสบความล้มเหลวในการทดลองอันดุเดือดที่สุดนี้ แต่มันก็ยังตั้งตารอคอยช่วงเวลาที่พระเยซูจะทรงกระทำพระราชกิจ เป็นเวลาที่มันจะได้พยายามใช้เล่ห์กลของมันขัดขวางพระองค์อีกในเวลาที่ต่างกัน มันยังคงหวังว่าจะได้ชัยชนะจากพระองค์โดยการยุยงปลุกปั่นผู้ที่ไม่ยอมรับพระเยซู ให้เกลียดชังและพยายามทำลายพระองค์ ซาตานได้จัดการประชุมพิเศษกับเหล่าทูตสมุนของมัน พวกมันรู้สึกผิดหวังและโกรธแค้นเดือดดาลที่ไม่สามารถเอาชนะพระบุตรของพระเจ้าได้เลย พวกมันตัดสินใจว่าพวกมันจะต้องเพิ่มความเจ้าเล่ห์ให้มากขึ้นอีกและใช้พลังอำนาจของมันอย่างสุดกำลังที่จะยุแหย่ให้เกิดความไม่ศรัทธาขึ้นภายในใจของชนชาติของพระองค์เองในการเป็นพระผู้ไถ่ของโลก และโดยวิธีนี้จะทำให้พระเยซูทรงท้อแท้ต่อพระราชกิจของพระองค์นั่นเอง ไม่ว่าชาวยิวจะปฏิบัติตามพิธีการทั้งหลายและถวายสัตวบูชาอย่างเที่ยงตรงอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าหากพวกมันจะปิดหูปิดตาพวกเขาจากคำพยากรณ์และทำให้พวกเขาเชื่อว่าผู้ที่จะเสด็จมาเพื่อให้คำพยากรณ์สำเร็จนั้นจะต้องเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกเท่านั้น พวกเขาก็จะยังคงเฝ้ารอคอยพระเมสสิยาห์ผู้ที่จะเสด็จมานั้นต่อไปGCTh 14.1

    แล้วข้าพเจ้าก็ได้รับการสำแดงให้เห็นว่าซาตานและทูตสมุนของมันกำลังชุลมุนวุ่นวายในระหว่างที่พระคริสต์ทรงกระทำพระราชกิจ โดยการดลใจมนุษย์ให้เกิดความไม่เชื่อ ความเกลียดชัง และการดูหมิ่นเหยียดหยาม บ่อยครั้งเมื่อพระเยซูทรงตรัสความจริงที่เสียดแทงเพื่อตำหนิความบาปของพวกเขา พวกเขาจะเกิดบันดาลโทสะเดือดดาล ซาตานและทูตสมุนของมันได้เร้าให้พวกเขาเอาชีวิตของพระบุตรของพระเจ้า ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยหยิบหินขึ้นมาเพื่อจะขว้างพระองค์ แต่ทูตสวรรค์ได้คุ้มกันพระองค์ไว้และอุ้มพระองค์ออกไปจากฝูงชนที่กำลังโกรธกริ้วไปยังสถานที่ปลอดภัย อีกครั้งหนึ่งที่ความจริงอันเที่ยงตรงได้หลุดออกจากริมพระโอษฐ์อันบริสุทธิ์ของพระองค์ แล้วฝูงชนก็จับและพาพระองค์ไปยังยอดเขาสูงชันแห่งหนึ่งตั้งใจจะผลักพระองค์ลงไป การโต้เถียงได้เกิดขึ้นท่ามกลางพวกเขาว่าควรจะทำอย่างไรกับพระองค์ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทูตสวรรค์ได้ซ่อนพระองค์จากสายตาของคนทั้งปวงแล้วพระองค์ก็ทรงดำเนินผ่านท่ามกลางพวกเขาพ้นไปตามทางของพระองค์GCTh 14.2

    ซาตานยังคงหวังว่าแผนการแห่งความรอดอันยิ่งใหญ่นี้จะประสบความล้มเหลว มันใช้กำลังของมันทั้งหมดเพื่อทำให้ใจของประชาชนทั้งปวงแข็งกระด้างและทำให้ความรู้สึกของพวกเขานั้นขื่นขมต่อพระเยซู มันหวังว่าจำนวนผู้ที่ยอมรับพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าจะมีเพียงเล็กน้อย เพื่อที่พระเยซูจะได้คิดว่าการทนทุกข์และการเสียสละของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่เกินไปที่จะทำเพื่อคนกลุ่มน้อยเช่นนี้ แต่ข้าพเจ้าได้เห็นว่าถึงแม้จะมีเพียงแค่สองคนที่ยอมรับพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า เชื่อในพระองค์ว่าจะทรงช่วยจิตวิญญาณของพวกเขาได้ พระองค์ก็จะทรงปฏิบัติแผนการให้บรรลุผลสำเร็จให้จงได้GCTh 15.1

    พระเยซูทรงเริ่มต้นพระราชกิจของพระองค์โดยการทำลายอำนาจที่ซาตานได้ครอบครองบรรดาผู้ที่ทุกข์ยาก พระองค์ทรงรักษาผู้ที่ทุกข์ทรมานจากอำนาจชั่วร้าย พระองค์ทรงกระทำให้คนป่วยกลับมีสุขภาพที่ดี ทรงรักษาคนง่อย ทรงทำให้พวกเขากระโดดโลดเต้นด้วยหัวใจเปรมปรีดิ์และถวายสง่าราศีแด่พระเจ้า พระองค์ทรงประทานการมองเห็นให้แก่คนตาบอด ทรงกระทำให้ผู้ที่ทุพพลภาพและถูกผูกมัดจากอำนาจอันโหดร้ายของซาตานเป็นเวลาหลายปีให้กลับคืนสู่สภาพที่ดีด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ พระองค์ทรงปลอบประโลมผู้ที่อ่อนกำลัง ผู้ที่สั่นกลัว และผู้ที่ทุกข์โศก ด้วยพระดำรัสที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา พระองค์ทรงปลุกให้คนที่ตายแล้วฟื้นคืนชีวิต และพวกเขาก็ได้ถวายสง่าราศีแด่พระเจ้าต่อการสำแดงฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทรงกระทำพระราชกิจด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ต่อทุกคนที่เชื่อในพระองค์ และพระองค์ยังได้ทรงกระชากเหล่าผู้ที่ทุกข์ทรมานอ่อนแรงจากการครอบงำอย่างมีชัยของซาตานออกมาจากการฉกฉวยของมัน และโดยฤทธานุภาพของพระองค์นั้น ทรงกระทำให้พวกเขาปกติสุขทางด้านร่างกายและทรงนำความชื่นชมยินดีอีกทั้งความปีติอันยิ่งใหญ่มาให้พวกเขาGCTh 15.2

    ชีวิตของพระคริสต์นั้นเต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความสงสาร และความรัก พระองค์ทรงใส่ใจในการรับฟังเสมอ และบรรเทาความทุกข์ใจของบรรดาผู้ที่มาเฝ้าพระองค์ ฝูงชนได้แบกหลักฐานในเรื่องอำนาจที่มาจากพระเจ้าของพระองค์ในตัวของพวกเขาเอง หลังจากพระราชกิจสิ้นสุดลงแล้ว ในไม่ช้าหลายคนในบรรดาคนเหล่านั้นรู้สึกละอายใจต่อพระอาจารย์ผู้ถ่อมพระองค์หากแต่ทรงประเสริฐยิ่งนัก เพราะว่าบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายนั้นมิได้เชื่อในพระองค์ พวกเขาไม่เต็มใจที่จะทนทุกข์ร่วมกับพระเยซู พระองค์ทรงเป็นบุรุษแห่งความโทมนัสและทรงคุ้นเคยต่อความเจ็บปวด แต่ว่าน้อยคนนักที่จะทนถูกปกครองโดยชีวิตที่ปฏิเสธตนเองและสงบเรียบง่ายของพระองค์ได้ พวกเขาปรารถนาที่จะเพลิดเพลินต่อเกียรติยศที่โลกให้ มีหลายคนได้ติดตามพระบุตรของพระเจ้าและได้รับฟังคำสั่งสอนของพระองค์ พึงพอใจต่อพระดำรัสอันเปี่ยมไปด้วยพระคุณที่ออกมาจากริมพระโอษฐ์ของพระองค์ พระคำของพระองค์นั้นเปี่ยมไปด้วยความหมาย แต่ก็ฟังง่ายจนแม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถเข้าใจได้GCTh 15.3

    ซาตานและทูตสมุนของมันกำลังชุลมุนวุ่นวาย พวกมันทำให้ตาของพวกยิวบอดและทำให้ความเข้าใจของพวกเขามืดมนไป ซาตานได้ยุแหย่หัวหน้าประชาชนและพวกผู้ปกครองให้เอาชีวิตของพระองค์ พวกเขาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปนำตัวพระเยซูมาให้พวกเขา แต่เมื่อพวกเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปใกล้ที่ซึ่งพระองค์ทรงประทับอยู่นั้น พวกเขาก็ต้องอัศจรรย์ใจอย่างมาก พวกเขาได้เห็นพระเยซูทรงถูกรบเร้าพระทัยจนเกิดความสงสารและเห็นอกเห็นใจในขณะที่ทรงทอดพระเนตรความทุกข์ใจของประชาชน พวกเขาได้เห็นพระองค์ทรงดำรัสด้วยความรักและความอ่อนโยนให้กำลังใจแก่บรรดาผู้อ่อนแอและผู้ที่ทุกข์ยาก พวกเขายังได้ยินพระองค์กล่าวตำหนิอำนาจของซาตานด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมด้วยสิทธิอำนาจ และสั่งให้ผู้ที่ถูกครอบงำโดยซาตานนั้นจงไปเป็นอิสระ พวกเขาได้ยินพระวจนะแห่งพระสติปัญญาที่ออกมาจากริมพระโอษฐ์ของพระองค์แล้วพวกเขาก็รู้สึกจับใจ พวกเขาไม่สามารถยื่นมือไปจับพระองค์ได้ จึงได้กลับไปหาพวกปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่โดยไม่มีพระเยซู เขาทั้งหลายจึงถามเจ้าหน้าที่ว่า “ทำไมเจ้าจึงไม่จับเขามา” แล้วพวกเจ้าหน้าที่ได้เล่าถึงสิ่งที่พวกเขาได้เห็นในการอัศจรรย์ของพระองค์ พระวจนะอันศักดิ์สิทธิ์แห่งพระสติปัญญา แห่งความรัก และแห่งความรู้ที่พวกเขาได้ยินมา และจบด้วยคำกล่าวที่ว่า “ไม่เคยมีผู้ใดพูดเหมือนคนนั้นเลย” บรรดาปุโรหิตใหญ่จึงกล่าวหาพวกเขาว่าได้ถูกชักจูงให้หลงไปด้วย บางคนรู้สึกอับอายที่ไม่ได้จับพระองค์มา บรรดาปุโรหิตใหญ่ถามพวกเขาด้วยคำพูดเยาะเย้ยว่า “มีผู้ใดในหมู่ผู้ปกครองศรัทธาในผู้นั้นหรือ” ข้าพเจ้าได้เห็นว่าเจ้าเมืองและพวกผู้ใหญ่หลายคนมีความศรัทธาในพระเยซู แต่ซาตานได้ปิดบังพวกเขามิให้สำแดงตัวออกมา พวกเขาเกรงกลัวการติเตียนจากประชาชนมากกว่าเกรงกลัวพระเจ้าGCTh 15.4

    จนบัดนี้ความเจ้าเล่ห์และความเกลียดชังของซาตานก็ไม่อาจทำลายแผนการแห่งความรอดได้ เวลาแห่งความสำเร็จของเป้าหมายในการที่พระเยซูทรงเสด็จมาบนโลกมนุษย์กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ซาตานและทูตสมุนของมันได้ปรึกษาหารือกันและตัดสินใจที่จะบันดาลชนชาติของพระคริสต์เองนั้นให้ร้องเอาพระโลหิตของพระองค์อย่างแรงกล้า และประดิษฐ์ความโหดร้ายและการดูหมิ่นเหยียดหยามให้โถมทับมาที่พระองค์ มันหวังว่าพระเยซูจะทรงขุ่นเคืองพระทัยต่อการปฏิบัติกับพระองค์เช่นนั้นและจะทำให้ความถ่อมพระทัยและความอ่อนสุภาพของพระองค์ไม่คงอยู่GCTh 16.1

    ในขณะที่ซาตานกำลังวางแผนการของมันอยู่นั้น พระเยซูทรงเปิดเผยแก่เหล่าสาวกของพระองค์ด้วยความรอบคอบถึงความทุกข์ทรมานที่พระองค์จะต้องผ่านไปให้ได้ คือการที่พระองค์จะต้องถูกตรึงที่กางเขนและพระองค์จะทรงเป็นขึ้นมาใหม่ในวันที่สาม แต่ความเข้าใจของพวกเขานั้นดูทึบไป พวกเขาไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสกับเขาGCTh 16.2

    ดูลูกา 4:29; ยอห์น 7:45-48; 8:59GCTh 16.3