Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

ปลายทาง แห่งความหวัง

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    บทที่ 5 - ลัทธิทรงวิญญาณมาจากไหน?

    ความเชื่อเรื่องวิญญาณไม่ตายของมนุษย์ครั้งแรกนำมาจาก ปร้ชญาของศาสนาอื่น และในระหว่างความมืดมนของการ ละทิ้งศาสนาครั้งยิ่งใหญ่ ได้รวมเข้าอยู่ความเชื่อของคริสเตียนแทน ความจริงที่สอนว่า “คนตายแล้วไม่รู้อะไรเลย” (ปัญญาจารย์ 9:5) คน เป็นอันมากเชื่อว่าวิญญาณของคนตายแล้วเป็น “วิญญาณผู้ปรนนิบัติ ที่พระองค์ทรงส่งไปช่วยเหลือบรรดาผู้ที่จะได้รับความรอด” (ฮีบรู 1:14) GrHTh 51.1

    ความเชื่อที่ว่าวิญญาณของคนตายกลับมาสั่งสอน และช่วยเหลือ คนที่ยังมืชีวิตอยู่ได้เตรียมทางแก่ล้ทธิวิญญาณนิยมในสมัยใหม่ หากคน ที่ตายแล้วได้รับสิทธิพิเศษให้มืความรู้มากกว่าที่เขามือยู่แต่ก่อน เหตุใด จึงไม่กลับมาในโลกเพื่อตักเตือนคนที่ยังมืชีวิตอยู่ และถ้าวิญญาณของคน ที่ตายแล้วมาวนเวียนอยู่รอบๆ มิตรสหายของเขาในโลก เหตุใดจึงไม่ ติดต่อกับเขา ทำไมคนที่เชื่อว่าคนตายแล้วยังมีความรู้สึกจะไม่ยอมรับ “แสงสว่างของพระเจ้า” ซึ่งวิญญาณอันเต็มด้วยพระสิริของพระเจ้าได้ นำมา นี่คือช่องทางที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นหนทางอันศักดิสิทธที่ ซาตานใช้ดำเนินงาน ให้เหล่าทูตสวรรค์ชั่วที่ทำผิดบาปปรากฏตัวในเป็น ผู้สื่อข่าวจากโลกแห่งวิญญาณGrHTh 51.2

    เจ้าแห่งความชั่วมีอำนาจทำให้ร่างของญาติมิตรที่ตายไปแล้วมา ปรากฏต่อหน้าของเขา การปลอมแปลงร่างนี้เป็นไปอย่างแนบเนียน สิ่ง ที่ออกมามืความชัดเจนอย่างนำอัศจรรย์ หลายคนดีใจและมีความเชื่อมั่น ว่าญาติพี่น้องที่เขารักอยู่ในสวรรค์อย่างผาสุก โดยไม่มีความระแวงสงสัย ในอ้นตรายใดๆ พวกเขายอมเชื่อฟัง “วิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอน ของพวกผีปีศาจ” (1 ทิโมธี 4:1)GrHTh 51.3

    คนที่ตายโดยไม่รู้ตัวล่วงหน้า อ้างว่ามีความสุขดี และได้รับการ ยกย่องให้มีตำแหน่งสูงอยู่ในสวรรค์ ทำทีเป็นผู้มาเยี่ยมจากโลกวิญญาณ บางครั้งมาตักเตือนที่พิสูจน!ด้ว่าถูกต้อง จากนั้นเมื่อมีคนเชื่อสนิทแล้ว เขาก็เสนอหลักความเชื่อที่บ่อนทำลายพระคัมภีร์ จริงอยู่ที่เขากล่าวถึง ความจริงบางอย่างได้ และบางครั้งสามารถบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ อย่างน่าเชื่อถือและคำสอนเท็จต่างๆ เป็นที่ยอมรับ พระปัญญัติของ พระเจ้าถูกละทิ้ง พระวิญญาณแห่งพระคุณถูกดูหมิ่น วิญญาณเหล่านี้ ปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ และถือว่าพระผู้สร้างมีสภาพ เท่าเทียมก้บพวกตนGrHTh 52.1

    ขณะที่ลูเหมือนว่าผลของเล่ห์กลที่แสดงออกมาหลอกลวงเป็น จริง เป็นการเปิดเผยที่แท้จริง นอกจากนี้มีการแสดงอำนาจที่เหนือ ธรรมชาติออกมาอีกด้วย ทั้งหมดนี้คือผลงานของทูตสวรรค์ชั่วโดยตรง คนจำนวนมากเชื่อว่าลัทธิทรงวิญญาณเป็นเพียงการล่อลวงของมนุษย์ เท่านั้น แต่เมื่อพบกับการสำแดงต่อหน้าต่อตา พวกเขากลับคิดว่าจะ เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากอำนาจเหนือธรรมชาติ พวกเขาก็ถูก หลอกและยอมรับว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นอำนาจอ้นยิ่งใหญ่ของพระเจ้าGrHTh 52.2

    บรรดาน้กวิทยากลของกษัตริย์ฟาโรห์สามารถเลียนแบบกิจการ ของพระเจ้าได้ด้วยความช่วยเหลือของชาตาน (ดูอพยพ 7:10-12) เปาโลเป็นพยานกล่าวว่า ก่อนหน้าการเสด็จกลับมาครั้งที่สองขององค์ พระผู้เป็นเจ้านั้น “คนนอกกฎหมายนั้นจะมาโดยการดลปันดาลของ ซาตาน พร้อมกับการอิทธิฤทธิ้ต่างๆ และหมายสำคัญและการอัศจรรย์ แท้และนิมิตและการอัศจรรย์อ้นเท็จและอุบายอธรรมต่างๆ สำหรับ คนเหล่านั้นที่จะต้องพินาศ” (2 เธสะโลนิกา 2:9-10) และยอห์นกล่าวว่า “สัตว์ร้ายนี้แสดงหมายสำคัญใหญ่จนกระทำให้ไฟตกลงมาจากฟัาสู่ แผ่นดินโลกประจักษ์แก่ตามนุษย์ทั้งหลาย มันล่อลวงคนทั้งหลายที่อยู่ใน โลกด้วยหมายสำค้ญใหญ่นั้น ซึ่งยอมให้มันกระทำต่อหน้าสัตว์ร้ายตัวเดิม นั้น” (วิวรณ์13:13, 14) ในที่นี้ไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะเป็นเพียงการล่อลวง เท่านั้น มนุษย์ใต้ถูกล่อลวงด้วยการอัศจรรย์โดยตัวแทนของซาตานมิใช่ เป็นเพียงแกล้งทำGrHTh 52.3

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents