ประชากรของพระเจ้าจะไม่ถูกล่อลวง

แต่ประชากรของพระเจ้าจะไม่ถูกล่อลวงให้หลงเชื่อ คำสอนของ พระคริสต์เทียมเท็จไม่สอดคล้องกับพระคัมภีร์ มันประกาศคำอวยพรแก่ คนที่กราบไหว้นมัสการล้ตร์ร้ายและรูปของมัน คือคนจำพวกที่พระคัมภีร์ ประกาศว่าพระพิโรธอ้นไม่ระคนกับสิ่งใดของพระเจ้าจะหลั่งลงมาเหนือ พวกเขาGrHTh 94.1

ชาตานจะไม่มีโอกาสปลอมแปลงการเสด็จมาของพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดได้ทรงต้กเตือนประชากรของพระองคํให้ระมัดระวังการ ล่อลวงในเรื่องนี้ “ด้วยว่าจะมืพระคริสต์เทียมเท็จและผู้ทำนายเทียมเท็จ หลายคนเกิดขึ้น หมายสำคัญอ้นใหญ่และการมห้ศจรรรย์ล่อลวง แม้ผู้ที่ พระเจ้าทรงเลือกสรรให้หลง เหตุฉะนี้นถ้าใครจะบอกท่านทั้งหลายว่า ‘ท่านผู้นี้นอยู่ในถิ่นทุรกันดาร’ ก็อย่าออกไป หรือจะว่า ‘อยู่ที่ห้องใน’ ก็จง อย่าเชื่อ ด้วยฟ้าแลบมาจากทิศตะวันออกส่องไปจนถึงทิศตะวันตกฉันใด การเสด็จมาของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นฉันนั้น” (มัทธิว 24:25-27; ดูมัทธิว 25:31; วิวรณ์ 1:7; 1 เธสะโลนิกา 4:16, 17) ไม่มีสิ่งใดที่สามารถจะปลอม แปลงการเสด็จมาได้ คนทั่วโลกจะต้องได้เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้GrHTh 94.2

คนที่ศึกษาเล่าเรียนพระคัมภีร์อย่างเอาจริง และรักความจริงของ พระเจ้าเท่านั้นที่จะได้รับการคุ้มครองให้พ้นจากอำนาจล่อลวงที่จะทำให้ มนุษย์โลกถูกกักกัน คนเหล่านี้จะตรวจสอบผู้ล่อลวงที่ได้จำแลงร่างมา โดยใช้คำพยานของพระคัมภีร์ ขณะนี้ประชากรของพระเจ้าเชื่อมั่นใน พระวจนะของพระองค์เพียงพอแล้วหรือยัง เพื่อเขาจะไม่ยอมเชื่อสิ่งที่ เขามองเห็นด้วยตา หรือในภาวะค้บขันเช่นนั้นเขาจะยึดมั่นในพระคัมภีร์ และพระคัมภีร์เท่านั้นได้หรือเปล่าGrHTh 94.3

ขณะที่กฎหมายที่บรรรดาน้กปกครองทั้งหลายทั่วดินแดนประเทศ คริสเตียน ได้บัญญัติขึ้นต่อด้านผู้ถือพระบัญญัติจะถอนการคุ้มครองของ รัฐบาลออกไปเสียและปล่อยเขาให้แก่พวกที่ปรารถนาจะทำลาย บุตร หลานของพระเจ้าจะหนีออกจากเมืองและหมู่บ้าน จะร่วมชุมนุมก้นเป็น กลุ่มจะไปอาศัยอยู่ในสถานที่เงียบและเปลี่ยวที่สุด หลายคนจะลี้ก้ย อาศัยภูเขาเป็นที่มั่นเหมือนคริสเตียนในหุบเขาพีดมองค์ (บริเวณ เทือกเขาเอลป๋ในประเทศอิตาลี) แต่ประชาชนจำนวนมากจากทุกชาติ และทุกหมู่เหล่า ทั้งชนขึ้นสูงและชนชั้นตา มั่งมีและยากจน ทั้งผิวดำ และผิวขาวจะต้องถูกจำขังอย่างไม่ยุติธรรมและถูกกระทำโหดร้ายทารุณ คนทั้งหลายผู้เป็นที่รักของพระเจ้าจะมีชีวิตแต่ละวันอย่างอ่อนล้า ถูก จองจำด้วยโซ่ตรวน ถูกคัดสินประหารชีวิต บางคนถูกทอดทั้งให้อดอาหาร ตายในคุกมืดและสกปรกGrHTh 95.1

พระเจ้าจะทรงลืมผู้ชื่อสัตย์ของพระองค์!.นยามยากลำบากเช่นนี้ ได้หรือ พระองค์ทรงลืมคนที่ชื่อสัตย์อย่าง โนอาห์ โลท โยเชฟ เอลียาห์ เยเรมีห์ หรือดาเนียลหรือเปล่า แม้ศัตรูอาจจะขังพวกเขาไว้ในคุก แต่ กำแพงมืดไม่สามารถกั้นความสัมพันธ์ระหว่างจิตวิญญาณของพวกเขา ก้บพระคริสต์ได้ เหล่าทูตสวรรค์จะลงมาหาพวกเขาในห้องขังที่เปล่าเปลี่ยว คุกนั้นจะเป็นเช่นราชวัง และกำแพงที่มืดมัวจะสว่างไสวด้วยแสงสว่าง จากสวรรค์เหมือนเมื่อครั้งที่เปาโลและสิลาสร้องเพลงสรรเสริญยาม เที่ยงคืนในคุกมืดของเมืองพีลิปปีGrHTh 95.2

การพิพากษาของพระเจ้าจะเกิดแก่คนทั้งหลายที่พยายามกดขี่ ข่มเหงและทำลายประชากรของพระเจ้า สำหรับพระเจ้าการคัดสินลง โทษเป็น “พระราชกิจ....ประหลาด” (อิสยาห์ 28:21; เอเสเคืยล 33:11) องค์พระผู้เป็นเจ้า “ผู้ทรงพระกรุณา ทรงกอปรด้วยพระคุณ ทรงกรวช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่งคงและความสัตย์จริง ผู้ทรงสำแดงความรัก มั่นคงต่อมนุษย์กระทั่งพันชั่วอายุ ผู้ทรงโปรดยกโทษการล่วงละเมิด การ ทรยศและบาปของเขาเสีย” ถึงกระนั้นพระองค์จะ “ไม่ทรงงดโทษเลย” (อพยพ 34:6, 7; นาฮูม 1:3) ชนชาติใดที่พระองค์ทรงอดกลั้นพระท้ยไว้ นานและไม่ลงโทษ จนกระทั่งความชั่วร้ายเพิ่มสูงอย่างเต็มที่ ในที่สุด จะต้องดื่มจากถ้วยพระพิโรธของพระองค์ที่ไม่ได้ระคนกับสิ่งใดGrHTh 95.3

เมื่อพระคริสต์ทรงสิ้นสุดการทูลขอต่อพระบิดาในสถานศ้กดิ๋สิทธิ้ พระพิโรธซึ่งไม่ระคนกับสิ่งใดจะถูกเทลงมายังคนทั่งหลายที่กราบไหว้ บูชาสัตว์ร้าย ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแก่ชาวอียิปต์เป็นแบบเดียวกับการลงโทษ อย่างร้ายแรงน่ากลัวที่จะเกิดแก่แผ่นดินโลก ก่อนการช่วยกู้ประชากรของ พระเว้าครั้งสุดท้าย ผู้เขียนพระธรรมวิวรณ์ได้กล่าวว่า “คนทั่งหลายที่มี เครื่องหมายของสัตว์ร้ายและบูชารูปของมันก็เกิดเป็นแผลร้ายมีหนอง ทั่วตัว” ทะเล “ก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย” และ “แม่นั้า และบ่อนั้าพุทั่งปวงและนั้าเหล่านั้น ก็กลายเป็นเลือด” ทูตสวรรค์ประกาศ ว่า “พระเว้าองค์ผู้บริสุทธเว้าช้า...พระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรมในการทรง พิพากษาเหตุการณ์เหล่านั้น เพราะเขาทั่งหลายได้กระทำให้โลหิตของ พวกธรรมิกชนและของผู้เผยพระวจนะไหลออก และพระองค์ใต้ประทาน โลหิตให้เขาดื่ม สมควรแก่กรรมของเขาแล้ว” (วิวรณ์ 16:2-6, 8, 9) โดย เหตุที่คนเหล่านั้นได้ปรับโทษประชากรของพระเว้าจนถึงตาย พวกเขาได้ ท้าให้โลหิตของคนเหล่านั้นตกด้วยมือของพวกตน พระคริสต์ทรงประกาศ ว่าพวกยิวในสมัยของพระองค์มีความผิด เพราะพวกเขาได้ทำให้โลหิตอ้น ชอบธรรมตกที่แผ่นดินโลกตั้งแต่สมัยของอาเบล (มัทธิว 23:34-36) คนเหล่านี้จะถูกครอบงำด้วยวิญญาณชนิดเดียวกันกับที่ได้ฆ่าบรรดาผู้ เผยพระวจนะในอดีตGrHTh 96.1

ในภัยพิบัติที่ติดตามมาก็คือ พระเว้าทรงโปรดให้ดวงอาทิตย์มื อำนาจ “ครอกมนุษย์ด้วยไฟ” บรรดาผู้เผยพระวจนะได้บรรยายสภาพ ของอนาคตว่า “ผลของนาก็ถูกทำลายไปหมด...ด้นไมในนาทั้งสิ้นก็เหี่ยว ไป ความยินดีก็ประลาดไปจากบรรดาบุตรของมนุษย์...ส้ตว์เดียรฉานร้อง ครวญครางแล้วหนอ ฝูงว้วก็สนเท่ห์เพราะว่าไม่มีลานหญ้าให้มัน...เพราะ ว่านี้าในห้วยแห้งไปและไฟก็เผาผลาญทุ่งหญ้าแห่งถิ่นทุรกันดาร” (โยเอล 1:11, 12, 18-19)GrHTh 96.2

แม้ว่าก้ยพิบัติเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นทั่วจักรวาล ถึงกระนั้นก็ตามสิ่ง เหล่านี้จะเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัวที่สุดที่มนุษย์เคยได้ยิน การพิพากษา ลงโทษก่อนสิ้นสุดพระกรุณายังระคนด้วยความเมตตา พระโลหิตของ พระคริสตใด้ช่วยปกป้องคนบาปจากการถูกลงโทษตามความผิดอย่าง เต็มที่ แต่ในการพิพากษาครั้งสุดท้ายพระพิโรธของพระเจ้าจะหลั่งออก มาโดยไม่ระคนก้บความเมตตา ในวันนี้นประชาชนจำนวนมากจะ ปรารถนาอยากพึ่งพาพระคุณของพระเจ้าที่พวกเขาเคยดูหมิ่นGrHTh 97.1

ขณะที่ประชากรของพระเจ้าถูกกดขี่ข่มเหงและได้รับความทุกข์ ยาก ขณะที่ต้องการอาหาร พวกเขาจะไม่ถูกทอดทิ้งให้พินาศ เพราะ ทูตสวรรค์จะคอยสรรหามาให้ตามที่เขาต้องการ “จะมีผู้ให้อาหารเขา นํ้าของเขามีแน่...เราคือพระเจ้าจะตอบเขาเอง เรา พระเจ้าของอิสราเอล จะไม่ทิ้งเขา” (อิสยาห์ 33:16, 41:17)GrHTh 97.2

ส่วนในสายตาของมนุษย์ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน ประชากรของ พระเจ้าจะต้องประทับตราคำพยานของเขาด้วยเลือดของตัวเอง เช่นเดียว กับบรรดาผู้พลีชีพเพื่อศาสนาในอดีต นี่คือเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ยากแสนสาห้ส คนชั่วร้ายต่างยินดีปรีดา ถามว่า “เวลานี้ความเชื่อของ เจ้าอยู่ที่ไหน เหตุใดพระเจ้าจึงไม่ช่วยเจ้าให้พ้นเงื้อมมือของเรา หากเจ้า เป็นคนของพระองค์จริง” แต่ผู้ที่เผ้เารอคอยเหล่านั้นระลึกถึงพระเยซู ขณะถูกตรึงบนกางเขนแห่งคาลวารี เช่นเดียวกับยาโคบ ทุกคนต่างปลํ้าสู้ กับพระเจ้าGrHTh 97.3