Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

สงครามครั้งยิ่งใหญ่

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    บท 30 - มนุษย์และซาตานเป็นศัตรูกัน

    “เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของนางด้วย เขาจะทำให้หัวของเจ้าแหลกและเจ้าจะทำให้ส้นเท้าของเขาฟกช้ำ” ปฐมกาล 3:15 คำตัดสินของพระเจ้าที่ประกาศต่อซาตานภายหลังจากที่มนุษย์ล้มลงในบาปนั้นเป็นคำพยากรณ์ด้วยเช่นกัน เป็นคำพยากรณ์ซึ่งครอบคลุมตลอดทุกยุคจนกระทั่งถึงสิ้นยุคและเปิดเผยให้เห็นความขัดแย้งยิ่งใหญ่ซึ่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ในโลกจะต้องมีส่วนเข้าร่วม {GC 505.1}GCth17 439.1

    พระเจ้าทรงประกาศว่า “เราจะให้เจ้า….เป็นศัตรูกัน” ความเป็นศัตรูกันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ เมื่อมนุษย์ละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้า ธรรมชาติของเขากลายเป็นชั่วร้ายและเขาก็ไปปรองดองกับซาตานโดยไม่ขัดขืน โดยธรรมชาติแล้ว คนบาปกับผู้เป็นต้นกำเนิดของบาปย่อมไม่เป็นศัตรูกัน ทั้งสองกลายเป็นคนที่ชั่วร้ายเนื่องจากการละทิ้งพระเจ้า ผู้ที่ละทิ้งพระเจ้าจะอยู่ไม่เป็นสุขนอกจากว่าเขาจะได้รับความเห็นใจและการสนับสนุนด้วยการชักนำให้ผู้อื่นทำตามแบบอย่างของเขา ด้วยเหตุนี้ บรรดาทูตสวรรค์ที่ล้มลงในบาปและคนชั่วจะจับมือกันด้วยความเป็นมิตรอย่างเต็มที่ หากพระเจ้าไม่ได้ทรงเข้าขัดขวางเป็นพิเศษแล้ว ซาตานและมนุษย์คงเข้าร่วมเป็นพันธมิตรต่อต้านสวรรค์ และแทนที่จะคงความเป็นอริกับซาตาน ครอบครัวของมนุษย์ทั้งหลายคงจะเข้าร่วมกับมันต่อต้านพระเจ้า {GC 505.2}GCth17 439.2

    เช่นเดียวกับที่ซาตานทำให้ทูตสวรรค์ทั้งหลายกบฏมาแล้ว มันล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาปเพื่อมนุษย์จะร่วมมือกับมันในสงครามที่มันทำกับสวรรค์ มันไม่มีความขัดแย้งระหว่างตัวมันเองกับทูตสวรรค์ที่ล้มลงในบาปในเรื่องความเกลียดชังที่มีต่อพระคริสต์ ส่วนในเรื่องอื่นๆ นั้น พวกมันมีความเห็นไม่ลงรอยกันเลย พวกมันรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นในการต่อต้านอำนาจของพระเจ้าผู้ทรงปกครองจักรวาล แต่เมื่อซาตานได้ยินคำประกาศว่า ตัวมันเองกับหญิงและพงศ์พันธุ์ของมันกับพงศ์พันธุ์ของนางจะเป็นศัตรูกัน มันรู้ดีว่าความพยายามที่มันจะทำให้มนุษย์เลวลงจะถูกขัดขวางและมนุษย์จะมีวิธีต่อต้านอำนาจของมัน {GC 505.3}GCth17 439.3

    ความเป็นศัตรูของซาตานต่อมนุษยชาติปะทุขึ้นเพราะโดยทางพระคริสต์มนุษย์เป็นคนที่พระเจ้าทรงรักและเมตตา มันต้องการทำลายแผนการของพระเจ้าในการไถ่มนุษย์ให้รอด มันต้องการหลู่เกียรติพระเจ้าด้วยการลบล้างและทำลายผลงานแห่งการทรงสร้างของพระองค์ มันต้องการทำให้สวรรค์โศกเศร้าและทำให้โลกเต็มล้นด้วยความทุกข์และหายนะ แล้วมันชี้ไปยังความชั่วทั้งมวลเหล่านี้ว่าเป็นผลจากพระราชกิจของพระเจ้าในการสร้างมนุษย์ {GC 506.1}GCth17 440.1

    พระคุณที่พระคริสต์ทรงปลูกฝังไว้ในจิตใจทำให้มนุษย์เป็นศัตรูกับซาตาน เมื่อปราศจากพระคุณแห่งการกลับใจและอำนาจแห่งการบังเกิดใหม่นี้ มนุษย์จะยังคงเป็นนักโทษของซาตานต่อไป เป็นบ่าวที่พร้อมจะทำตามคำบัญชาของมัน แต่หลักการใหม่ในจิตใจก่อให้เกิดความขัดแย้งที่ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความสงบสุข อำนาจที่พระคริสต์ประทานให้นั้นทำให้มนุษย์ต่อต้านจอมเผด็จการและผู้ฉกชิงได้ ใครก็ตามที่แสดงตนว่าเกลียดชังบาปแทนที่จะรักบาป ใครก็ตามที่ต่อต้านและเอาชนะกิเลสตัณหาเหล่านั้นที่คุกรุ่นอยู่ภายใน คนเหล่านี้กำลังแสดงให้เห็นการดำเนินการของหลักปฏิบัติที่มาจากเบื้องบน {GC 506.2}GCth17 440.2

    ความเป็นศัตรูกันระหว่างวิญญาณของพระคริสต์และวิญญาณของซาตานถูกแสดงออกให้เห็นอย่างเด่นชัดที่สุดในการต้อนรับที่โลกกระทำต่อพระเยซู การที่พระองค์เสด็จมาโดยไม่มีความร่ำรวย ความหรูหราหรือความยิ่งใหญ่ทางฝ่ายโลกไม่ได้เป็นสาเหตุมากนักที่ทำให้ชาวยิวปฏิเสธพระองค์ พวกเขาเห็นว่าพระองค์ทรงมีอำนาจมากเกินพอที่จะชดเชยการขาดคุณสมบัติภายนอกเหล่านั้น แต่เป็นเพราะความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสต์ต่างหากที่ทำให้คนอธรรมเกลียดชังพระองค์ ชีวิตที่ละทิ้งตนเองและชีวิตที่ปราศจากบาปของพระองค์ตำหนิคนหยิ่งยโสและมักมากในทางกามอย่างต่อเนื่อง เรื่องเหล่านี้กระตุ้นให้พวกเขาเป็นศัตรูต่อพระบุตรของพระเจ้า ซาตานและบรรดาทูตสวรรค์ชั่วร่วมมือกับคนชั่ว พลังแห่งการละทิ้งความเชื่อทั้งหมดวางแผนร่วมกันเพื่อต่อต้านพระเจ้าผู้ทรงมีชัยในการต่อสู้ของความจริง {GC 506.3}GCth17 440.3

    ความเป็นศัตรูเดียวกันนี้ปรากฏต่อผู้ติดตามของพระคริสต์เหมือนเช่นที่เคยเกิดกับพระอาจารย์ของพวกเขา ผู้ใดก็ตามที่มองเห็นคุณลักษณะที่น่าเกลียดของบาปและต่อต้านการทดลองด้วยกำลังจากเบื้องบนจะปลุกความโกรธแค้นของซาตานและสมุนของมันอย่างแน่นอน ความเกลียดชังหลักการแห่งความจริงที่บริสุทธิ์ การตำหนิและการกดขี่ผู้สนับสนุนความจริงจะยังคงมีต่อไปตราบเท่าที่บาปและคนบาปยังดำรงอยู่ ผู้ติดตามพระคริสต์และผู้รับใช้ซาตานจะรวมตัวประสานเข้ากันไม่ได้ การจู่โจมกางเขนยังไม่ยุติ “ทุกคนที่ตั้งใจจะดำเนินชีวิตตามทางพระเจ้าในพระเยซูคริสต์จะถูกข่มเหง” 2 ทิโมธี 3:12 {GC 507.1}GCth17 441.1

    บรรดาตัวแทนของซาตานทำงานอยู่ภายใต้การชี้นำของมันอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างอำนาจของมันและเพื่อสร้างอาณาจักรของมันในการต่อต้านการปกครองของพระเจ้า ด้วยเป้าหมายนี้ พวกมันหาทางที่จะหลอกลวงผู้ติดตามของพระคริสต์และล่อให้พวกเขาหันความภักดีไปจากพระองค์ พวกเขาทำตัวเหมือนเช่นผู้นำของพวกเขาด้วยการแปลความหมายและบิดเบือนพระคัมภีร์ไปในทางที่ผิดเพื่อให้ได้ผลตามที่พวกพวกเขาต้องการ ในขณะที่ซาตานบากบั่นตำหนิพระเจ้าอยู่นั้น ตัวแทนของมันก็คอยใส่ร้ายประชากรของพระองค์ด้วย วิญญาณที่ประหารพระคริสต์ผลักดันคนชั่วทั้งหลายให้ทำลายผู้ติดตามของพระองค์ ทั้งหมดนี้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วในคำพยากรณ์แรกสุดนั่นคือ “เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้าและพงศ์พันธุ์ของนางด้วย” และความเป็นศัตรูกันนี้จะดำเนินไปจนถึงเวลาสิ้นยุค {GC 507.2}GCth17 441.2

    ซาตานระดมกองทัพทั้งหมดของมันและโหมพลังที่มันมีอยู่เข้าไปในการต่อสู้ ทำไมมันถึงไม่ถูกต่อต้านที่รุนแรงกว่านี้ ทำไมทหารของพระคริสต์จึงง่วงนอนไร้ชีวิตชีวาและไม่เอาใจใส่เช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขามีความสัมพันธ์ที่จริงใจกับพระคริสต์น้อยเกินไป และพวกเขาขาดพระวิญญาณของพระองค์ พวกเขาไม่ได้ทำตัวเหมือนพระอาจารย์ที่เห็นว่าบาปนั้นน่ารังเกียจและน่าขยะแขยง พวกเขาไม่ได้เผชิญกับมันเหมือนอย่างพระคริสต์ที่ทรงต่อต้านอย่างตั้งใจและแน่วแน่ พวกเขาไม่ตระหนักถึงความชั่วช้าและความร้ายกาจของบาปและตาบอดมองไม่เห็นลักษณะและพลังอำนาจของเจ้าชายแห่งความมืด ความเป็นศัตรูต่อซาตานและต่อผลงานของมันมีไม่มากเพราะพวกเขาไม่มีความรู้เรื่องพลังอำนาจ ความชั่วร้าย และความรุนแรงของสงครามที่มันกำลังต่อสู้กับพระคริสต์และคริสตจักรของพระองค์ ฝูงชนจำนวนมากถูกหลอกในเรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าศัตรูของพวกเขาเป็นนายพลยิ่งใหญ่ที่ควบคุมความคิดของทูตสวรรค์ชั่วทั้งหลาย และด้วยแผนการที่วางไว้อย่างดีและการเคลื่อนย้ายที่คล่องแคล่ว มันกำลังทำสงครามต่อสู้กับพระคริสต์เพื่อไม่ให้จิตวิญญาณได้รับความรอด ในท่ามกลางผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นคริสเตียนและแม้กระทั่งบรรดาอาจารย์ผู้ประกาศข่าวประเสริฐนั้นมีน้อยคนนักที่อ้างถึงซาตานนอกจากการกล่าวถึงโดยบังเอิญบนธรรมาสน์ พวกเขามองข้ามหลักฐานการทำงานต่างๆ และความสำเร็จของมันที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง พวกเขาละเลยคำตักเตือนมากมายถึงเล่ห์เหลี่ยมของมัน ดูเสมือนว่าพวกเขาละเลยว่าซาตานมีตัวตน {GC 507.3}GCth17 441.3

    ในขณะที่มนุษย์ขาดความรู้เรื่องอุบายของมัน ศัตรูร้ายกาจตนนี้จะอยู่บนเส้นทางเดินของพวกเขาทุกเสี้ยวนาที มันแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทุกมุมบ้าน บนถนนทุกสายในเมือง ในโบสถ์ ในที่ประชุมสภาแห่งชาติ ในศาลยุติธรรม มันนำความสับสน ความหลอกลวง การชักชวนให้ทำผิด ในทุกสถานที่มันทำลายจิตวิญญาณและร่างกายของชาย หญิงและเด็ก มันทำให้ครอบครัวแตกแยก มันยังหว่านความเกลียดชัง ความทะเยอทะยานใฝ่สูง ความขัดแย้ง การยุยงก่อความไม่สงบ และการฆาตกรรม และดูเหมือนชาวคริสเตียนจะมองดูเรื่องเหล่านี้ราวกับว่า พระเจ้าทรงกำหนดไว้และสิ่งเหล่านี้จำต้องเกิดขึ้น {GC 508.1}GCth17 442.1

    ซาตานกำลังหาทางที่จะเอาชนะประชากรของพระเจ้าอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยการทำลายสิ่งขวางกั้นที่แยกพวกเขาออกจากโลก อิสราเอลในอดีตถูกล่อลวงให้ทำบาปเมื่อพวกเขาเข้าไปผูกมิตรกับคนนอกศาสนาซึ่งพระเจ้าตรัสห้ามไว้ อิสราเอลในยุคใหม่ก็ถูกนำพาให้หลงไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน “พระของยุคนี้ทำให้ความคิดของคนที่ไม่เชื่อมืดไป เพื่อไม่ให้เห็นความสว่างของข่าวประเสริฐ คือเรื่องพระสิริของพระคริสต์ผู้ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้า” 2 โครินธ์ 4:4 ทุกคนที่ไม่ใช่ผู้ติดตามอย่างแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของพระคริสต์ก็จะเป็นบ่าวรับใช้ของซาตาน หัวใจที่ยังไม่บังเกิดใหม่จะรักบาปและมีใจฝักใฝ่ที่จะเก็บถนอมมันไว้และแก้ตัวให้กับมัน หัวใจที่บังเกิดใหม่แล้วจะเกลียดบาปและตั้งใจที่จะต่อต้านบาปนั้น เมื่อคริสเตียนเลือกสังคมของคนไร้ศีลธรรมและของคนไม่เชื่อ พวกเขากำลังเปิดตัวเองให้กับการทดลอง ซาตานจะซ่อนเร้นตัวเองไว้ไม่ให้มองเห็นและจะค่อยๆ ดึงการล่อลวงของมันออกมาปิดบังตาของพวกเขา พวกเขามองไม่เห็นว่าคนเหล่านั้นที่พวกเขาคบอยู่จะนำภัยอันตรายมาให้ และตราบเท่าที่พวกเขายังคงซึมซับอุปนิสัย คำพูดและการกระทำต่างๆ ของโลกนี้เอาไว้ ตาของพวกเขาจึงยิ่งมองอะไรไม่เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ {GC 508.2}GCth17 442.2

    การยอมทำตามขนบธรรมเนียมแบบชาวโลกเปลี่ยนคริสตจักรไปทางของฝ่ายโลก การกระทำนี้ไม่เคยที่จะเปลี่ยนโลกให้มาหาพระคริสต์ ความคุ้นเคยกับบาปจะทำให้บาปดูน่ารังเกียจน้อยลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ที่เลือกคบกับบ่าวรับใช้ของซาตาน ในไม่ช้าก็จะเลิกกลัวเจ้านายของมัน เมื่อหน้าที่การงานของเราทำให้เราต้องพบกับการทดลองเหมือนเช่นดาเนียลในพระราชวังของพระราชา เราจะมั่นใจได้ว่าพระเจ้าจะทรงปกป้องเรา แต่หากเรานำตัวเข้าสู่การทดลอง เราจะล้มลงไม่เร็วก็ช้า {GC 509.1}GCth17 443.1

    บ่อยครั้งผู้ล่อลวงทำงานอย่างได้ผลผ่านกลุ่มคนที่เราสงสัยน้อยที่สุดว่าจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน การมีความสามารถพิเศษและการมีการศึกษาเป็นสิ่งที่ได้รับการยกย่องและได้รับเกียรติ ซึ่งดูประหนึ่งว่าคุณสมบัติเหล่านี้จะสามารถชดเชยความยำเกรงพระเจ้าหรือการเป็นที่พอพระทัยจากพระเจ้าได้ เมื่อพิจารณาในตัวความสามารถและการเรียนรู้แล้วจะพบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของประทานจากพระเจ้า แต่เมื่อนำเอาคุณสมบัติเหล่านี้เข้ามาแทนที่ความเคร่งทางศาสนา แทนที่มันจะนำจิตวิญญาณให้เข้าใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น กลับนำให้เหินห่างไปจากพระองค์ เช่นนั้นแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะกลายเป็นคำสาปแช่งและเป็นหลุมพราง คนจำนวนมากมีความคิดที่แพร่หลายว่าคนทั้งหลายที่ดูมีมารยาทหรือมีกิริยาที่เรียบร้อยนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระคริสต์ ไม่มีความผิดใดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว คุณสมบัติเหล่านี้จะต้องมีประดับอยู่ในบุคลิกของคริสเตียนทุกคน เพราะจะมีอิทธิพลอันแรงกล้าสนับสนุนศาสนาที่แท้จริง แต่จะต้องนำคุณสมบัติเหล่านี้มอบถวายพระเจ้า มิฉะนั้นมันก็จะเป็นพลังให้กับความชั่วได้ มีคนมากมายที่สติปัญญาได้รับการพัฒนาและมีกิริยามารยาทที่งดงามซึ่งไม่ยอมก้มลงให้กับการกระทำที่คนส่วนมากถือว่าผิดศีลธรรม แต่พวกเขาก็เป็นเครื่องมือที่ได้รับการขัดเกลาในมือของซาตาน อิทธิพลและแบบอย่างที่เป็นผลจากอุปนิสัยเจ้าเล่ห์หลอกลวงของพวกเขาทำให้พวกเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจต่องานของพระเจ้ามากยิ่งกว่าผู้ที่โง่เขลาและไม่ผ่านการพัฒนา {GC 509.2}GCth17 443.2

    การอธิษฐานด้วยใจร้อนรนและพึ่งพิงในพระเจ้าทำให้กษัตริย์ซาโลมอนได้รับปัญญาที่ทำให้โลกพิศวงและชื่นชม แต่เมื่อเขาหันหลังไปจากแหล่งของกำลังและก้าวต่อไปด้วยการพึ่งในตัวเอง เขาจึงตกเป็นเหยื่อของการทดลอง แล้วความสามารถอันอัศจรรย์ที่ทรงโปรดประทานให้กษัตริย์ผู้ทรงฉลาดที่สุดนั้นก็กลับทำให้เขากลายมาเป็นตัวแทนอันมีประสิทธิภาพของศัตรูฝ่ายจิตวิญญาณ {GC 509.3}GCth17 443.3

    ในขณะที่ซาตานคอยหาโอกาสอยู่เสมอที่จะทำให้สมองปิดรับข้อเท็จจริง คริสเตียนจะต้องไม่ลืมว่าพวกเขาไม่ได้ “ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน” เอเฟซัส 6:12 คำเตือนที่ได้รับการดลใจนั้นดังก้องมาตลอดทุกศตวรรษจนถึงยุคของเราว่า “จงควบคุมตัวเอง จงระวังระไวให้ดี ศัตรูของพวกท่านคือมาร ดุจสิงโตคำรามเดินวนเวียนเที่ยวเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้” 1 เปโตร 5:8 “จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะสามารถต่อสู้กับอุบายของมารได้” เอเฟซัส 6:11 {GC 510.1}GCth17 444.1

    นับตั้งแต่สมัยของอาดัมมาจนถึงยุคของพวกเรานี้ ศัตรูยิ่งใหญ่ของเราใช้อำนาจของมันเพื่อกดขี่และทำลาย บัดนี้มันกำลังเตรียมการรณรงค์ครั้งสุดท้ายเพื่อต่อต้านคริสตจักร ทุกคนที่ต้องการติดตามพระเยซูจะถูกนำเข้าสู่ความขัดแย้งกับศัตรูผู้ไม่ปรานีนี้ คริสเตียนที่ยิ่งประพฤติตนตามแบบอย่างของพระเจ้าจะยิ่งทำให้ตนเองตกเป็นเป้าการจู่โจมของซาตานมากขึ้นอย่างแน่นอน ทุกคนที่เข้าร่วมพระราชกิจของพระเจ้าอย่างกระตือรือร้นเพื่อหาทางเปิดเผยการหลอกลวงของผู้ชั่วและเพื่อนำเสนอพระคริสต์ต่อหน้าคนทั้งปวง จะเป็นพยานร่วมกับอาจารย์เปาโลเมื่อท่านกล่าวถึงการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความถ่อมใจ ด้วยน้ำตา และด้วยการทดลองทั้งหลาย {GC 510.2}GCth17 444.2

    ซาตานเข้าโจมตีพระคริสต์ด้วยการทดลองที่รุนแรงและลึกลับที่สุด แต่ในทุกความขัดแย้ง มันถูกขับไล่ไป พระองค์ทรงต่อสู้สงครามเหล่านั้นเพื่อเรา ชัยชนะเหล่านั้นทำให้เราเป็นผู้พิชิตได้เช่นกัน พระคริสต์จะประทานกำลังให้ทุกคนที่แสวงหา ซาตานเอาชนะมนุษย์คนใดไม่ได้หากตัวเขาเองไม่ยินยอม ผู้ล่อลวงไม่มีอำนาจควบคุมความตั้งใจหรือบังคับจิตวิญญาณให้ทำบาป มันอาจก่อความทุกข์ลำบาก แต่ไม่อาจทำให้เปรอะเปื้อนได้ มันทำให้ปวดร้าวทรมาน แต่ไม่อาจทำให้เสื่อมเสียได้ ความจริงที่พระคริสต์ทรงมีชัยแล้วนั้นจะต้องเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ติดตามทั้งหลายของพระองค์ เพื่อให้มีความกล้าที่จะต่อสู้อย่างองอาจในสงครามต่อต้านบาปและซาตาน {GC 510.3}GCth17 444.3

    *****

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents