Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

อุทาหรณ์จากคำสอนของพระคริสต์

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    ตะลันต์ที่ต้องส่งคืน

    หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน นายของบ่าวทั้งหลายก็มาคิดบัญชีกับพวกเขา” มัทธิว 25: 19 เมื่อพระเป็นเจ้าทรงคิดบัญชีกับบ่าวของพระองค์ ตะลันต์ทุกตะลันต์ที่ส่งคืนมาจะผ่านการพิจารณาตรวจสอบ ผลงานจะแสดงออกถึงอุปนิสัยของผู้ปฏิบัติงานนั้น {COL 360.4}COLTh 321.4

    คนที่ได้รับห้าตะลันต์และสองตะลันต์นำของประทานมาคืนพร้อมด้วยส่วนที่เพิ่มเข้ามา การกระทำเช่นนี้พวกเขาไม่ได้อ้างความดีไว้สำหรับตนเอง เป็นตะลันต์ที่เขารับมา พวกเขาก็ยังได้ตะลันต์อื่นเพิ่มขึ้นอีก แต่ถ้าหากไม่มีส่วนที่เคยให้ไว้ก่อนก็คงจะไม่มีส่วนใดเพิ่มขึ้นได้ ต้นทุนเป็นของพระเป็นเจ้า ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาเป็นของพระองค์ หากพระผู้ช่วยไม่ประทานความรักและพระคุณของพระองค์ให้แก่พวกเขาแล้ว คนเหล่านั้นก็คงจะล้มละลายไปชั่วนิรันดร์ {COL 360.5}COLTh 322.1

    แต่เมื่อพระเจ้าผู้เป็นเจ้านายทรงรับตะลันต์ พระองค์ทรงแสดงความพอใจและประทานรางวัลแก่คนงานเสมือนหนึ่งว่าคุณงามความดีทั้งหมดเป็นของพวกเขาเอง พระพักตร์ของพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความสุขและพอพระทัย พระองค์ทรงชื่นชมที่ทรงสามารถประทานพระพรแก่คนเหล่านั้น สำหรับการรับใช้ทุกอย่างและการเสียสละทุกสิ่ง พระองค์ทรงตอบแทนเขาเหล่านั้น ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงเป็นหนี้พวกเขาแต่เป็นเพราะพระทัยของพระองค์ทรงเปี่ยมล้นด้วยความรักและความห่วงใยต่างหาก {COL 361.1}COLTh 322.2

    พระองค์ตรัสว่า “ ดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของจำนวนมาก เจ้าจงร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด” มัทธิว 25:21 {COL 361.2}COLTh 322.3

    เป็นเพราะความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อพระเจ้า การรับใช้ด้วยความรักจึงเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงพอพระทัย แรงกระตุ้นของพระวิญญาณบริสุทธิ์นำมนุษย์ไปสู่คุณความดีและนำไปสู่พระเจ้า สิ่งเหล่านี้บันทึกไว้ในหนังสือแห่งสวรรค์และในวันของพระเจ้าผู้รับใช้ที่พระองค์ทรงใช้งานจะได้รับคำชมเชย {COL 361.3}COLTh 322.4

    พวกเขาจะปรีดีร่วมสุขกับองค์พระผู้เป็นเจ้าขณะที่เห็นคนที่รอดที่พวกเขามีส่วนร่วมในการนำเข้ามาในอาณาจักรของพระองค์ และพวกเขามีสิทธิพิเศษเข้าร่วมทำงานของพระองค์ในสวรรค์ พวกเขามีความพร้อมในการทำงานก็เพราะเคยเข้าร่วมทำงานกับพระองค์ในโลกนี้ สภาพชีวิตของเราในสวรรค์จะเป็นอย่างไรนั้นเป็นภาพสะท้อนของสภาพอุปนิสัยและการรับใช้ที่บริสุทธิ์ของเราในขณะนี้ พระคริสต์ตรัสถึงพระองค์เองว่า “บุตรมนุษย์ไม่ได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่มาเพื่อปรนนิบัติคนอื่น” มัทธิว 20:28 ภารกิจของพระองค์ที่นี่เป็นพระราชกิจของพระองค์ในสวรรค์ และการตอบแทนของเราที่ได้รับเนื่องจากการทำงานร่วมกับพระคริสต์ในโลกนี้คือพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าและสิทธิพิเศษที่กว้างไกลกว่าในการทำงานร่วมกับพระองค์ในโลกที่กำลังจะมาถึง {COL 361.4}COLTh 322.5

    คนที่ได้รับตะลันต์เดียวก็มาชี้แจงด้วยว่า นายเจ้าข้า ข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าท่านเป็นคนใจตระหนี่ เกี่ยวผลในที่ที่ท่านไม่ได้หว่าน รวบรวมในที่ที่ท่านไม่ได้โปรย ข้าพเจ้ากลัวจึงเอาเงินตะลันต์ของท่านไปซ่อนไว้ใต้ดิน ดูซิ นี่เงินของท่าน” มัทธิว 25:24, 25 {COL 362.1}COLTh 323.1

    ด้วยประการฉะนี้ มนุษย์แก้ตัวให้กับการละเลยของประทานของพระเจ้า พวกเขาพากันมองดูพระเจ้าว่าเข้มงวดและเกรี้ยวกราด คอยแต่จ้องจับผิดและรอการพิพากษา คนเหล่านั้นกล่าวหาว่าพระองค์ได้แต่เรียกร้องในสิ่งที่ไม่เคยให้ เก็บเกี่ยวทั้งที่ไม่เคยโปรย {COL 362.2}COLTh 323.2

    ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่กล่าวหาพระเจ้าในใจว่าเป็นนายที่มีใจอำมหิต เพราะพระองค์เรียกร้องสิทธิการเป็นเจ้าของในสมบัติและในงานการรับใช้ของพวกเขา แต่เราไม่อาจนำสิ่งใดที่ไม่ใช่ของพระองค์ไปถวายพระเจ้าได้ กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า “สิ่งของทุกอย่างมาจากพระองค์ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ถวายของที่มาจากพระองค์แด่พระองค์” 1 พงศาวดาร 29:14 ทุกสิ่งเป็นของพระเจ้าไม่เพียงแต่โดยการทรงสร้างเท่านั้นแต่โดยการทรงไถ่ด้วย พระพรทั้งหมดในชีวิตนี้และในชีวิตที่จะมาถึงได้ส่งมอบมายังพวกเราโดยการประทับตราด้วยกางเขนแห่งคาลวารี ฉะนั้นคำกล่าวหาว่าพระเจ้าทรงเป็นนายที่ใจโหดเหี้ยม คอยเก็บเกี่ยวในสิ่งที่ไม่ได้หว่านจึงเป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกต้อง {COL 362.3}COLTh 323.3

    นายไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวหาของบ่าวชั่วในเรื่องของความไม่เป็นธรรม แต่อาศัยหลักฐานจากการกระทำของเขา แสดงให้เห็นว่าการกระทำของเขาก็หาได้รับการยกเว้นไม่ เพราะเขาได้รับคำแนะนำและวิธีการเพื่อใช้พัฒนาตะลันต์ให้เกิดประโยชน์แก่เจ้านายของตนแล้ว นายจึงกล่าวว่า “ เจ้าควรเอาเงินของเราไปฝากกับนายธนาคาร เมื่อเรามาก็จะได้รับเงินทั้งดอกเบี้ยด้วย” มัทธิว 25:27 {COL 362.4}COLTh 323.4

    พระบิดาบนสวรรค์ของเราไม่ทรงหวังผลงานที่จะได้จากเรามากหรือน้อยกว่าความสามารถที่พระองค์ประทานให้ พระองค์ไม่ทรงวางภาระบนผู้รับใช้เกินความสามารถที่เขาจะแบก “ พระองค์เองทรงรู้จักโครงร่างของเรา พระองค์ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลี” สดุดี 103 :14 ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกร้องจากเรา โดยพระคุณของพระเจ้าเราสามารถมอบถวายพระองค์ได้ {COL 362.5}COLTh 324.1

    คนที่ได้รับมาก จะต้องเรียกเอาจากผู้นั้นมาก” ลูกา 12:48 เราทุกคนจะต้องรับผิดชอบเฉพาะบุคคลต่องานที่ทำไปน้อยกว่าความสามารถเพียงขีด ขีดหนึ่ง พระองค์ทรงตรวจทุกงานอย่างแม่นยำที่เราสามารถทำถวายพระองค์ ความสามารถที่ไม่ได้นำไปใช้ก็จะถูกตรวจสอบเช่นเดียวกับความสามารถที่พัฒนาให้ดีขึ้น พระเจ้าทรงถือว่าเราจะต้องรับผิดชอบกับทั้งหมดที่จะเกิดกับเราเมื่อเราใช้ตะลันต์ในทางที่ถูก เราจะถูกพิพากษาตามที่เราควรจะต้องทำแต่ไม่ได้ทำเพราะเราไม่ได้ใช้กำลังของเราเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า ถึงแม้เราจะไม่สูญเสียจิตวิญญาณของเราก็ตาม แต่เราก็ควรตระหนักถึงผลนิจนิรันดร์ของตะลันต์ที่ไม่ได้ใช้ เราจะสูญเสียไปตลอดกาลสำหรับความรู้และความสามารถทั้งหมดที่เราน่าจะได้แต่ก็ไม่ได้ {COL 362.6}COLTh 324.2

    แต่เมื่อเรามอบถวายตัวเราทั้งหมดแก่พระเจ้า และทำงานของเราตามพระบัญชาของพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะทรงเป็นผู้รับผิดชอบผลสำเร็จของงานนั้น พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้เราคาดเดาถึงผลความสำเร็จของงานที่ตั้งใจทำด้วยความซื่อสัตย์ เราไม่ควรคิดถึงความล้มเหลวแม้แต่เพียงครั้งเดียว เราเป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์ผู้ไม่รู้จักกับความล้มเหลว {COL 363.1}COLTh 324.3

    เราไม่ควรต้องพูดถึงความอ่อนแอและความไร้ความสามารถของตัวเราเอง การกระทำเช่นนี้เป็นการแสดงความไม่ไว้วางใจในพระเจ้า เป็นการปฏิเสธพระวจนะของพระองค์ เมื่อเราบ่นเพราะภาระของเราหรือปฏิเสธความรับผิดชอบที่พระองค์ทรงเรียกให้แบก เรากำลังกล่าวหาว่าพระองค์ทรงเป็นนายที่ใจร้ายที่เรียกร้องในสิ่งที่พระองค์ไม่ได้ประทานกำลังให้ทำ {COL 363.2}COLTh 324.4

    บ่อยครั้งเราเรียกจิตใจที่เกียจคร้านว่าเป็นการถ่อมตัว แต่การถ่อมตัวที่แท้จริงมีความแตกต่างกันมาก การสวมสภาพของการถ่อมตัวไม่ได้หมายความว่าเราต้องเป็นคนที่แคระแกร็นทางปัญญา ขาดความทะเยอทะยานและเป็นคนขี้ขลาด หลบหลีกภาระหน้าที่ด้วยกลัวว่าจะล้มเหลวในการทำงานให้สำเร็จ แต่การถ่อมตนที่แท้จริงจะทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จโดยพึ่งในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ {COL 363.3}COLTh 325.1

    พระเจ้าทรงทำงานผ่านทางผู้ที่พระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้ทำ บางครั้งพระองค์ทรงเลือกเครื่องมือที่ต่ำต้อยที่สุดเพื่อทำงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะฤทธิ์อำนาจของพระองค์ทรงสำแดงผ่านมนุษย์ที่อ่อนแอที่สุด เรามีมาตรฐานของตัวเองและด้วยมาตรฐานนี้เราประเมินค่าสิ่งหนึ่งว่ามีค่ามากและอีกสิ่งหนึ่งมีค่าน้อย แต่พระเจ้าไม่ได้ประเมินคุณค่าตามกฎเกณฑ์ของเรา จึงไม่ควรสมมติว่าสิ่งใดที่ใหญ่โตสำหรับเราจะต้องยิ่งใหญ่สำหรับพระเจ้าด้วย หรือสิ่งที่เล็กน้อยสำหรับเราจะต้องเล็กน้อยสำหรับพระเจ้าด้วย เราไม่มีหน้าที่จะไปตัดสินของประทานที่ได้รับว่าดีหรือไม่ดี หรือเลือกงานที่ตัวเองอยากทำ เราต้องแบกภาระที่พระเจ้าประทานให้แบกไปเพื่อเห็นแก่พระองค์ และไปหาพระองค์เพื่อขอการหยุดพัก ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตามที่เราทำ พระเจ้าทรงได้รับเกียรติโดยการรับใช้ที่ทำด้วยความเต็มใจและยินดี พระองค์ทรงพอพระทัยเมื่อเราทำหน้าที่ด้วยความสำนึกในพระคุณ มีความยินดีที่เราได้ถูกนับเข้ามีส่วนสมกับการเป็นผู้ร่วมงานของพระองค์ {COL 363.4}COLTh 325.2

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents