Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    การบำบัดด้วยการพักผ่อน

    บางคนทำให้ตัวเองป่วยโดยการทำงานหนักเกินไป สำหรับคนเหล่า นี้ การไต้พักผ่อน การปลอดจากเรื่องวิตกกังวลและการรับประทานอาหาร ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นสิ่งจำเป็นในการฟื้นฟูสุขภาพ สำหรับผู้ที่สมอง อ่อนล้าและกระวนกระวายเนื่องจากการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องและต้อง อยู่ในสกานที่จำกัด การได้ออกไปพักผ่อนในชนบทที่ซึ่งพวกเขาสามารถ ใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่าย ปราศจากเรื่องกังวลใจและได้สัมผัสใกล้ชิดกับ ธรรมชาติ จะเป็นประโยชน์อย่างที่สุด {MH 228.1}MHTh 248.2

    การเดินเที่ยวเล่นไปตามท้องทุ่งและ ป่าเขา เก็บดอกไม้และฟังเสียงนกร้อง จะฟื้นฟูสุขภาพได้ดิกว่าวิธีการ และกัน และจงอธิษฐานเพื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะพ้นโรคภย” ยากอบ 5:16 สำหรับผู้ที่ขอให้คนอื่นๆ อธิษฐานเผื่อให้เขาหายจากโรค ให้เสนอข้อคิดแก่เขาอย่างนี้ว่า “เราไม่สามารถที่จะอ่านจิตใจหรือทราบ เรื่องเร้นลับที่มีอยู่ในชีวิตของท่านได้ สิ่งเหล่านี้ตัวของท่านเองและพระเจ้า เท่านั้นที่ทรงทราบ หากท่านจะกลับใจเสียใหม่จากความผิดบาปของท่าน ก็เป็นหน้าที่ของท่านเองที่จะสารภาพถึงบาปเหล่านั้น” เราต้องทูลสารภาพ ต่อพระคริสต์ถึงความผิดบาปอันเป็นการลับที่เราไต้กระทำ พระองค์เพียง ผู้เดียวที่ทรงเป็นคนกลางเชื่อมระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ เพราะ “ถ้าผูใด ทำบาป เราก็มีพระองค์ผู้ทูลขอพระบิดาเพื่อเรา คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรง เที่ยงธรรมนั้น’” 1 ยอห์น 2:1 ความผิดบาปทุกๆ อย่างเป็นการกระทำ ผิดต่อพระเจ้าและเราจะต้องสารภาพความผิดบาปนั้นต่อพระองค์โดยทาง พระคริสต์ ทุกความผิดบาปที่กระทำอย่างเปิดเผยต้องสารภาพอย่างเปิด เผย ถ้าเราได้กระทำผิดต่อผู้ใด เราก็ควรที่จะสารภาพความผิดต่อผู้นั้น ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดปรารถนาที่จะหายโรคได้กระทำผิดด้วยการพูดกล่าวร้ายต่อ ผู้อื่น หากเขาได้หว่านความแตกร้าวและก่อความวุ่นวายขึ้นมาภายใน ครอบครัว กับบ้านใกล้เรือนเคียง หรือในคริสตจักร และได้ก่อให้เกิดความ บาดหมางและแตกแยก หากด้วยการกระทำอันใดที่เขาได้ชักนำคนอื่นๆ ให้หลงกระทำผิดบาป เขาจะต้องสารภาพความผิดเหล่านั้นต่อพระเจ้าและ ต่อคนทั้งหลายที่เขาไต้ทำผิดไป “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ผู้ ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระ เราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” 1 ยอห์น 1:9 {MH 228.2}MHTh 248.3

    เมื่อความผิดไต้รับการแก่ไขให้ถูกต้องแล้ว เราจึงจะสามารถอธิษฐาน ทูลขอด้วยความเชื่ออย่างสงบตามความต้องการของผู้ป่วยต่อองค์พระผู้ เป็นเจ้าตามที่พระวิญญาณของพระองค์ทรงนำเรา พระองค์ทรงรู้จักชื่อ ของทุกคน และทรงห่วงใยทุกคนเหมือนกับว่าในโลกนี้ไม่มีใครอื่นอีกที่ พระองค์จะประทานพระบุตรอันเป็นที่รักของพระองค์ให้ เพราะความรัก ของพระเจ้านั้นสุดแสนยิ่งใหญ่และมีเคยผันแปรตลอดชั่วนิรันดร์ ผู้ป่วยจึง ควรได้รับการหนุนใจให้วางใจในพระองค์และให้มีจิตใจที่เบิกบาน ความ วิตกกังวลในตัวเองมักจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความอ่อนแอและเกิดโรคภ้ย ไข้เจ็บ ถ้าพวกเขาสลดความเศร้าหมองและความรู้สึกหดหู่ให้พ้นไปเสีย จากจิตใจ โอกาสหายจากโรคก็จะมีมากขึ้นเพราะ “พระเนตรของพระเย โฮวาห์อยู่เหนือผู้ที่...หวังในความเมตตาของพระองค์” สดุดี 33:18{MH 229.1}MHTh 249.1

    ในการอธิษฐานเผื่อคนที่เจ็บป่วยนั้นเราควรจดจำไว้ว่า “เราไม่รู้ว่า เราควรจะอธิษฐานขอสิ่งใดอย่างไร,, โรม 8:26 เราไม่ทราบว่าพระพรที่ เราอยากได้นั้นเป็นสิ่งดีที่สุดหรือไม่ เพราะฉะนั้น ในคำอธิษฐานของเรา ควรจะมีความคิดนี้รวมอยู่ด้วย” “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรง ทราบถึงความลบทุกเรื่องของจิตวิญญาณ พระองค์ทรงรู้จักคุ้นเคยกับคน เหล่านี้เป็นอย่างดี พระเยซูผู้ทรงทูลขอต่อพระบิดาเพื่อเรา พระองค์ใต้ทรง ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเขาทั้งหลาย ความรักของพระองค์ที่มี ต่อคนเหล่านี้นั้นสุดแสนยิ่งใหญ่มากมายยิ่งกว่าความรักของพวกเราที่จะ มีไต้ เพราะฉะนั้น หากจะเป็นไปเพื่อจักไต้ถวายสง่าราศีแด่พระองค์และ เพื่อประโยชน์ของผู้ที่เจ็บป่วยนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทูลขอในนามของ พระเยซู เพื่อคนที่เจ็บป่วยจะได้หายจากโรค แต่หากมิใช่นํ้าพระทัยของ พระองค์ที่จะให้พวกเขาได้หายป่วย ข้าพระองค์ทั้งหลายขอทูลขอให้ พระคุณของพระองค์ใต้เป็นเครื่องเล้าโลมจิตใจและขอให้พระองค์ใต้สถิต เพื่อช่วยประคองเขาไว้และคอยช่วยเหลือในเวลาที่เขาได้รับความทุกข์ ทรมาน” {MH 229.2}MHTh 250.1

    พระเจ้าทรงทราบถึงเบื้องปลายตั้งแต่จุดเริ่มด้น พระองค์ทรงทราบ ถึงจิตใจของมนุษย์ทุกคน พระองค์ทรงสามารถที่จะอ่านความเร้นล้บทุก ประการที่ซ่อนอยู่ในจิตใจ พระองค์ทรงทราบว่าบุคคลที่เราทูลขออธิษฐาน นั้นจะสามารถทนต่อความทุกข์ทรมานได้หรือไม่หากเขาจะมีชีวิตอยู่รอด ต่อไป พระองค์ทรงทราบว่าชีวิตของเขานั้นจะนำความสุขหรือความทุกข์ มาสู่ต้วเองและสู่โลกหรือไม่ นี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อเราทูลอ้อนวอนขอ ด้วยจิตใจที่ร้อนรน เหตุใดเราจึงควรที่จะพูดว่า “แต่อย่างไรก็ดีอย่าให้ เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด” ลูกา 22: 42 เมื่อพระเยซูทรงอธิษฐานทูลขอในสวนเภทเสมนี พระองค์ได้ทรง กล่าวถึงถ้อยคำที่พระองค์ได้ทรงยอมให้ทุกสิ่งนั้นได้เป็นไปตามนํ้าพระทัย และพระปัญญาของพระเจ้าว่า “โอพระบิดาของข้าพระองค์ถ้าเป็นได้ขอ ให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด” มัทธิว 26:39 และหากถ้อยคำ เหล่านี้เป็นถ้อยคำที่เหมาะสมที่พระบุตรของพระเจ้าได้ตรัสแล้ว ถ้อยคำ เหล่านี้จะยิ่งเหมาะสมสำหรับเราผู้เป็นมนุษย์ผู้ที่ยังคงมีความผิดบาปจะ ต้องกล่าวมากมายสักเพียงใด {MH 230.1}MHTh 250.2

    สิ่งที่เราควรปฏิบัติอย่างหนักแน่นก็คือ เราต้องมอบความปรารถนา ของเราไว้ภายใต้นํ้าพระทัยของพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ ผู้ทรงมีพระ ปัญญาอันลํ้าเลิศ และวางใจในพระองค์อย่างแท้จริงในสารพัดสิ่ง หากเรา ไต้ทูลขอตามนํ้าพระทัยของพระองค์ เราจึงรู้แน่ว่าพระเจ้าจะสดับฟังเรา แต่การทูลขอโดยจิตใจที่มิได้อ่อนน้อมถ่อมตนลงนั้นไม่ถูกต้อง คำอธิษฐาน ของเราต้องมีใช่เป็นการออกคำสั่ง แต่เป็นการวิงวอนขอความกรุณา {MH 230.2}MHTh 251.1

    มีผู้ป่วยหลายรายที่พระเจ้าทรงใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ในการ ฟิ้นฟูให้หายจากโรค แต่มิใช่ทุกคนจะหายจากโรค หลายคนไต้ล่วงหลับไป ในพระเยซู ยอห์นในขณะที่อยู่บนเกาะปัทโมสได้รับพระดำรัสสั่งให้เขียน ไว้ว่า “คนทั้งหลายที่ตายเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นสุข และพระ วิญญาณตรัสว่า จริงอย่างนั้น เขาได้หยุดพ้กจากการงานของเขา เพราะ การงานที่เขาได้กระทำนั้นจะติดตามเขาไป”, วิวรณ์ 14:13 จากข้อพระ คัมภีร์นี้เราจะเห็นได้ว่า ถ้าคนป่วยมิได้หายจากโรคนั้น เราก็มิควรที่จะ ตัดสินว่าเพราะพวกเขาขาดความเชื่อแต่อย่างใด {MH 230.3}MHTh 251.2

    เราทุกคนต่างปรารถนาที่จะให้พระเจ้าไต้ตอบคำอธิษฐานตรงตาม ที่เราขอและในทันทีทันใด และมักจะลูกทดลองให้ท้อถอยหมดกำลังใจเมื่อ คำตอบนั้นล่าช้าหรือคำตอบนั้นมิได้เป็นไปตามที่เราได้คาดหวังไว้ แต่ พระเจ้าทรงมีพระปัญญาอันลาเลิศและพระองค์ทรงมีพระคุณความดีเกิน กว่าที่จะทรงตอบคำอธิษฐานของเราในเวลาและตามวิธีที่เราปรารถนาเสมอ ไป พระองค์จะทรงกระทำการให้แก่เราได้มากยิ่งกว่าและดีเลิศยิ่งกว่าการ ทำให้ความปรารถนาของเราบรรลุผล และเพราะเหตุที่เราสามารถที่จะไว้ วางใจในพระปัญญาและความรักของพระองค์ได้ เราจึงมิควรที่จะทูลขอให้ พระองค์ต้องทรงยอมกระทำตามใจของเรา แต่เราควรจะแสวงหาที่จะ เข้าใจถึงพระประสงค์ของพระองค์และกระทำให้สำเร็จตามพระประสงค์นั้น ความปรารถนาและส่วนไต้ส่วนเสียของเราจึงมิควรเป็นสิ่งที่เหนือไปกว่า นํ้าพระทัยของพระองค์ ประสบการณ์ที่ทดสอบความเชื่อเหล่านี้เป็น ประโยชน์แก่เรา จากการทดลองเหล่านี้สำแดงให้ประจักษ์ว่าความเชื่อของ เรานั้นจริงแท้และจริงใจหรือไม่ ตั้งอยู่บนพระวจนะของพระเจ้าเพียงอย่าง เดียว หรือว่าอยู่กับสถานการณ์ซึ่งคลอนแคลนและไม่แน่ไม่นอน ความ เชื่อจะมีกำลังเข้มแข็งโดยการกระทำ เราต้องปล่อยให้ความอดทนทำ หน้าที่ของมันให้สมบูรณ์ และต้องระลึกไว้เสมอว่ามีพระสัญญาอันประเสริฐ มากมายในพระคัมภีร์สำหรับผ้ที่ปรนนืป้ตรับใช้องค์พระผ้เป็นเจ้า {MH 230.4}MHTh 251.3

    มีใช่ทุกคนจะเข้าใจถึงหลักเกณฑ์เหล่านี้ หลายคนที่ปรารถนาใน พระเมตตาคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อที่จะให้พระองค์ใต้ทรงรักษาเขา ให้หายจากโรคนั้น คิดว่าเขาจะต้องได้รับคำตอบจากพระเจ้าตรงตามที่เขา ไต้อธิษฐานขอในทันที หากเขาไม่ได้รับการตอบคำอธิษฐานเขาก็จะคิด ว่าเพราะพวกเขานั้นขาดความเชื่อ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ เพราะความเจ็บป่วยจึงสมควรที่จะได้รับคำแนะน่าที่มีความเข้าใจอย่าง ชัดเจน เพื่อพวกเขาจะได้ปฏิบัติตัวไต้อย่างถูกต้อง เขาไม่ควรละเลยที่จะ บอกกล่าวให้มิตรสหายไต้ทำหน้าที่ๆ จะต้องทำต่อหลังจากที่เขาจากไป หริอมองข้ามการใช้วิธีการทางธรรมชาติเพื่อช่วยให้เขาได้หายจากโรค {MH 231.1}MHTh 252.1

    บ่อยครั้งมักมีอันตรายจากข้อผิดพลาดที่จุดนี้ โดยเชื่อว่าพวกเขาจะ ได้รับการรักษาให้หายเพราะพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐาน บางคนจึงกลัว ที่จะทำอะไรที่แสดงถึงการฃาดความเชื่อ แต่พวกเขาไม่ควรละเลยในการ จัดเตรียมภารกิจที่จำเป็นให้พร้อมเหมือนกับว่าพวกเขากำลังจะต้องตาย จากไป และพวกเขาไม่ควรกลัวที่จะกล่าวถ้อยคำที่ช่วยปลุกปลอบจิตใจ หรือคำสั่งเสียตามความปรารถนาของพวกเขาแก่ผู้ที่เขารักในเวลาสุดท้าย ของชีวิตที่เหลืออยู่ {MH 231.2}MHTh 253.1

    คนป่วยทั้งหลายที่ปรารถนาจะหายโรคโดยการอธิษฐาน ไม่ควร ปฏิเสธที่จะใช่วิธีการในการปาบดรักษาใดๆ ที่สามารถจะเข้าถึงไต้ การใช้ วิธีการในการรักษาต่าง ๆ ที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้เพื่อที่จะรักษา บรรเทาความเจ็บปวดทรมานและเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับคืน สู่สภาพปกตินั้นไม่ถือว่าเป็นการหย่อนในความเชื่อ การร่วมมือกับพระเจ้า และการนำตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้หายป่วยไต้ เร็วขึ้นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นการหย่อนในความเชื่อ ทั้งนี้เพราะพระเจ้าได้ ประทานความสามารถให้กับมนุษย์ได้มีความรู้ในเรื่องของกฎต่าง ๆ ที่ก่อให้ เกิดและธำรงชีวิต พระองค์ได้ประทานความรู้นี้ให้แก่เราเพื่อที่เราจะสามารถ นำมาใช้ใต้ เราจึงควรที่จะใช้ทุกๆ วิธีการในการรักษาโดยใช้ประโยชน์อย่าง เต็มที่ และปฏิบัติให้สอดคล้องไปกับกฎแห่งธรรมชาติและบทบญญัติฝ่าย ร่างกายเพื่อที่จะช่วยเยียวยารักษาความเจ็บป่วย เมื่อเราไต้อธิษฐานเพื่อ ให้คนป่วยไต้หายจากโรค เราก็จะกระทำกิจด้วยกำลังที่มากยิ่งขึ้น เราจะ ขอบพระคุณพระเจ้าในสิทธิพิเศษที่เราได้ร่วมงานกับพระองค์ และทูลขอ ให้พระองค์ใต้ทรงอวยพระพรให้กับวิธีการในการปาบดรักษาที่พระองค์ใต้ ทรงจัดเตรียมไว่ให้แก่เรา {MH 231.3}MHTh 253.2

    เรามีพระสัญญาในพระวจนะของพระเจ้าที่ทรงอนุญาตให้เราไดใช้ วิธีการต่างๆ ในการบำบัดรักษา กษัตริย์เฮเสคียาห์แห่งประเทศอิสราเอล ไต้ทรงประชวรและผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าได้นำข่าวมาทูลว่าพระองค์ จะต้องสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงร้องทูลขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์ พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสดับฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้พระองค์จึงได้ส่งผู้เผย พระวจนะมาทูลกษัตริย์เฮเสคียาห์ว่าพระเจ้าทรงโปรดให้พระองค์ได้มีอายุ ยืนยาวต่อไปอีกสิบห้าปี ในการนี้ พระเจ้าอาจจะตรัสคำเพียงคำเดียวกษัตริย์ เฮเสคียาห์ก็จะทรงหายประชวรได้ในทันที แต่พระองค์ทรงร้บสั่งถึงคำแนะนำ ที่ประทานไว้ให้เป็นพิเศษด้งนี้ว่า“ให้เขาเอาขนมมะเดื่อมาแผ่นหนึ่ง และ แปะไว้ที่พระยอด เพื่อพระองค์จะฟื้น” อิสยาห์38:21 {MH 232.1}MHTh 253.3

    มีอยู่คราวหนึ่ง พระคริสต์ทรงใช้โคลนทานัยน์ตาของคนตาบอด และทรงมีพระดำรัสสั่งว่า “ไปล้าง...เสียในสระสิโลอัมเถิด เขาจึงไปล้าง แล้วกลับมาก็เห็นได้” ยอห์น9:7 โดยอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผู้ทรง ดำรงเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐเท่านั้นจึงจะสามารถรักษาโรคให้หายได้ แต่ถึง กระนั้นพระคริสต์ก็ทรงใช้สิ่งที่เรียบง่ายจากธรรมชาติในการรักษา พระองค์ มีได้ทรงสนับสนุนการปาบดรักษาโรคโดยการใช้ยา พระองค์ทรงเห็นชอบ ที่จะใช้สิ่งเรียบง่ายที่มีอยู่ตามธรรมชาติในการรักษาแทน {MH 233.1} เมื่อเราอธิษฐานเพื่อให้ผู้ป่วยหายจากโรคภัยนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นก็ตาม ขออย่าให้เราสูญเสียความเชื่อในพระเจ้า ถ้าเราต้องเผชิญกับ การสูญเสียคนที่เรารัก ขอให้เรายอมรับในความทุกข์ระทมนั้น โดยระลึก ว่าพระหัตถ์ของพระบิดาจะทรงสวมกอดเราไว้ แต่เมื่อผู้ป่วยหายกลับเป็น ปกติ เราจะต้องไม่ลืมว่าผู้ที่ได้รับพระเมตตาคุณที่ทรงโปรดรักษาให้หาย นั้น ได้ตกอยู่ในสัญญาต่อใหม่ที่ผูกพันเขาไว้กับพระผู้สร้าง เมื่อคนโรค เรื้อนสิบคนได้รับการรักษาให้หายแล้ว มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้กลับไป เฝ้าพระเยซูและได้ถวายสรรเสริญแด่พระองค์ ขออย่าให้เราเป็นเหมือนคน โรคเรื้อนทั้งเถ้าคนที่จิตใจของพวกเขามิได้สัมผัสถึงพระเมตตาคุณของ พระเจ้า “ของประทานอันดีทุกอย่างและของประทานอันเลิศทุกอย่างย่อม มาจากเบื้องบน และส่งลงมาจากพระบิดาแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระ บิดาไม่มีการแปรปรวนหรือไม่มีเงาอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลง” ยากอบ 1:17 {MH 233.2}MHTh 254.1