Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    การกรงสรางโลก

    พระราชกิจแห่งการทรงสร้างนั้นไม่สามารถที่จะอธิบายให้เข้าใจ ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ มีวิทยาศาสตร์แขนงใดเล่าที่สามารถจะอธิบายได้ถึง ความลี้ลับแห่งชีวิต {MH 414.1}MHTh 458.2

    “โดยความเชื่อนี้เอง เราจึงเข้าใจว่า พระเจ้าได้ทรงสร้างกัลปจักรวาล ด้วยพระดำรัสของพระองค์ ดังนั้นสิ่งที่มองเห็นจึงเป็นสิ่งที่เกิดจากสิ่งที่ไม่ ปรากฏให้เห็น” ฮีบรู 11:3MHTh 458.3

    “เราปันความสว่างและสร้างความมืด...
    เรา คือพระเจ้าได้สร้างมัน...
    เราสร้างแผ่นดินโลก
    และเนรมิตมนุษย์บนนั้น เราเอง มือของเราขึงฟืาสวรรค์
    และเราบัญชาบริวารทั้งสิ้นของมัน”

    “เมื่อเราเรียกมัน มันก็ออกมาอยู่ด้วยกัน”
    MHTh 458.4

    อิสยาห์45:7-12; 48:13 {MH414.2}

    ในการทรงสร้างโลกนั้น พระเจ้ามิได้อาศัยสลารที่มีอยู่ก่อนแล้ว “เพราะ พระองค์ตรัสมันก็เกิดขึ้นมา พระองค์ทรงบัญชา มันก็ออกมา” สดุดี33:9 สารพัดสิ่งทั้งที่เป็นวัตถุหรือจิตวิญญาณได้ปรากฏต่อเบื้องพระพักตร์ของ พระเยโฮวาห์องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อพระสุรเสียงของพระองค์ใต้ด้งขึ้น และ สิ่งเหล่านั้นได้รับการทรงสร้างขึ้นตามพระประสงค์ของพระองค์ ฟ้าสวรรค์ และบริวารทั้งสิ้นที่มีอยู่ แผ่นดินโลกและสิ่งทั้งปวง ได้เกิดขึ้นโดยลมพระ- โอษฐ์ของพระองค์ {MH 414.3}MHTh 459.1

    ในการสร้างมนุษย์ พระเจ้าทรงแสดงให้เราไต้เห็นว่าพระองค์ทรง มีรูปกาย เมื่อพระเจ้าไต้ทรงสร้างมนุษย์ตามแบบพระฉายของพระองค์ แล้ว มนุษย์ก็มีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบโดยประการทั้งปวง แต่ยังไม่มีชีวิต จากนั้น พระเจ้าผู้ทรงมีรูปกายและทรงดำรงพระชนม์ได้ด้วยพระองค์เอง ทรงระบายลมหายใจแห่งชีวิตเข้าสู่ร่างนั้น มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิตและมีสติ ปัญญาความนึกคิด อวัยวะทุกส่วนของร่างกายมนุษย์จึงได้เริ่มทำงาน หัวใจ เส้นเลือดแดง เส้นเลือดดำ ลิ้น มือ เท้า ประสาทสัมผัสและส่วน ประกอบต่างๆ ของสมองเริ่มทำงานของมัน และทุกๆ ส่วนได้อยู่ภายใต้ ระบบระเบียบที่พระองค์ทรงวางไว้ มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต พระเจ้าผู้ทรงมี รูปกายไต้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นโดยทางพระคริสต์ผู้ทรงเป็นพระวาทะและ ทรงโปรดให้มนุษย์มีสติปัญญาและพละกำลัง {MH 41 5.1}MHTh 459.2

    การก่อเป็นร่างกายของเราแม้จะเกิดและพัฒนาขึ้นในที่ลับก็มือาจ ปิดซ่อนจากพระองค์ใต้ พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นถึงส่วนประกอบ ต่างๆ ของเราหมด ตั้งแต่ยังไม่สมบูรณ์และในหนังสือของพระองค์ อวัยวะMHTh 459.3

    ทุกส่วนของเราก็ไต้รับการบันทึกไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่อวัยวะเหล่านั้นจะ เจริญเป็นรูปร่างเสียอีก {MH 41 5.2}MHTh 459.4

    เหนือสรรพสิ่งที่ตากว่าที่พระองค์ใต้ทรงสร้าง พระเจ้าทรงกำหนดให้ มนุษย์เป็นผลงานชิ้นเอกของพระองค์ ผู้ซึ่งสามารถแสดงถึงนํ้าพระทัยและ ส่าแดงถึงสง่าราศีของพระองค์ ด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงไม่ควรที่จะยกย่อง สรรเสริญตัวเองให้เป็นเหมือนดั่งพระเจ้าMHTh 459.5

    “จงเปล่งเสียงขื่นบานถวายแด่พระเจ้า
    จงปรนนิปติพระเจ้า ด้วยความยินดี
    จงเข้ามาเผ่าพระองค์ด้วยการร้องเพลง
    จงรู้เถิดว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า
    คือพระองค์เองที่ทรงสร้างเราทั้งหลายและเราก็เป็นของพระองค์
    เราเป็นประชากรของพระองค์ เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์
    จงเข้าประตูของพระองค์ด้วยการโมทนา
    และเข้าบริเวณพระนิเวศของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
    จงถวายโมทนาขอบพระคุณพระองค์
    จงถวายสาธุการแด่พระนามของพระองค์”

    “จงยอพระเกียรติพระเจ้าของเรา
    และนมัสการที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    เพราะพระเจ้าของเราบริสุทธิ์”
    MHTh 460.1

    สดุดี 100:1-4, 99:9 {MH415.3}

    พระเจ้าทรงผดุงสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นและทรงใช้สรรพสิ่ง เหล่านั้นให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์อยู่อย่างเนืองนิตย์ พระองค์ทรงประ- กอบกิจโดยอาศัยกฎแห่งธรรมชาติ ทรงใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นเครื่องมือของ พระองค์ มันไม่ได้ทำงานด้วยตัวของมันเอง การทำงานของธรรมชาติเป็น พยานที่พิสูจน์ให้เห็นถึงพระปัญญาที่สถิตอยู่และเป็นตัวแทนที่เคลื่อนไหว ได้ของพระองค์ที่ควบคุมสารพัดสิ่งให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์MHTh 460.2

    “ข้าแต่พระเจ้า
    พระวจนะของพระองค์ ปักแน่นอยู่ในสวรรค์เป็นนิตย์
    ความขื่อตรงของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ
    พระองค์ทรงสถาปนาแผ่นดินโลกและมันก็ตั้งอยู่
    โดยกฎของพระองค์สิ่งเหล่านี้ตั้งมั่นอยู่ทุกวันนี้
    เพราะของทุกสิ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์” “พระเจ้าพอพระทัยสิ่งใด พระองค์ก็ทรงกระทำ
    ในฟ้าสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ในทะเลและที่นํ้าลึกทั้สิ้น”
    “พระองค์ทรงบัญชา สงเหลานนกถูกเนรมิตขึ้นมา
    และพระองค์ทรงสถาปนามันไว้เป็นนิจกาล
    พระองค์ทรงวางข้อกฎไว้เพื่อมิให้ลักสิ่งสูญไป”
    MHTh 460.3

    สุดดี119:89-91;135:6; 148:5,6 {MH 416.1}

    มิใช่ด้วยพลังอำนาจที่สืบทอดกันมาที่ทำให้โลกบังเกิดพืชผลอย่าง อุดมสมบูรณ์ในปีแล้วปีเล่าและลามารถที่จะทำให้โลกโคจรไปรอบดวงอาทิตย์ ได้ พระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพตลอดถาวรกาลทรงเป็นผู้ที่ คาจุนพิภพโลกนี้ไว้ โดยอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า โลกนี้จึงได้โคจรไป ตามเส้นทางของมิน พระเจ้าทรงโปรดให้ดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นจากขอบ ฟ้า พระองค์ทรงเปิดบัญชรแห่งฟ้าสวรรค์และโปรดให้มีฝนตกโปรยปราย ลงมาMHTh 461.1

    “พระองค์ประทานหิมะอย่างปุยขนแกะ
    ทรงหว่านน้ำค้างแข็งขาวอย่างขี้เถ้า”
    “เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียง ก็มิเสียงนํ้าคะนองในท้องฟ้า
    และทรงกระทำให้หมอกลอยขึ้นจากปลายพิภพ
    ทรงกระทำฟ้าแลบเพื่อฝน
    และทรงนำลมมาจากพระคลังของพระองค์,,
    MHTh 461.2

    สดุดี 147:1 6; เยเรมีห์ 1 0:1 3. {MH 41 6.2}

    โดยอาศัยฤทธานุภาพของพระเจ้า พืชพันธุจึงได้เจริญงอกงาม ใบไม้ แต่ละใบ ดอกไม้แต่ละดอก และผลแต่ละผล ได้เริ่มงอกและปริออกมาและ ผลิดอกออกผลเติบใหญ่ขึ้น {MH 41 6.3}MHTh 461.3

    เรามีอาจที่จะเข้าใจถึงกลไกการทำงานของร่างกายมนุษย์ใต้อย่าง แจ่มแจ้ง เป็นกลไกแสนลี้ลับ ที่แม้แต่ผู้ที่มีสติปัญญาอัจฉริยภาพก็ต้องฉงน สนเท่ห์ ทั้งนี้มันมิใช่ผลที่เกิดจากกลไกการทำงานของร่างกายที่เมื่อเริ่มต้น ก็จะทำงานต่อไปโดยทำให้ชีพจรเต้นและมีการหายใจต่อไปเรื่อย ๆ แต่เพราะ เรามีชีวิตอยู่ในพระเจ้าและเคลื่อนไหวกายไปมาในพระองค์ หัวใจและชีพจร ที่เต้นเป็นจังหวะ ประสาททุกเส้นและกล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายจึงปฏิบัติ งานอย่างเป็นระบบระเบียบด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้าที่สถิตอยู่ {MH 41 7.1}MHTh 462.1

    พระคัมภีร์ได้แสดงให้เราเห็นว่า พระเจ้าประทับอยู่ในสวรรคสถาน อันสูงส่งและบริสุทธิ์ พระองค์มิได้ทรงนิ่งเฉยโดยที่มิได้ประกอบกิจใดๆ พระองค์มิได้ประทับอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเงียบงัน แต่มีเหล่าทูตสวรรค์ นับเป็นแสนเป็นโกฏิที่ได้ห้อมล้อมพระองค์และคอยรับคำสั่งเพื่อที่จะปฏิบัติ ตามพระทัยของพระองค์ พระองค์ทรงติดต่อสนทนากับทุกๆ คนในทั่วราช อาณาจักรโดยอาศัยบรรดาทูตสวรรค์ พระวิญญาณของพระองค์สถิตอยู่ใน ทั่วทุกหนแห่ง พระเจ้าทรงช่วยเหลือเหล่าบุตรของมนุษย์ โดยพระวิญญาณ ของพระองค์และเหล่าทูตสวรรค์ผู้คอยปรนนิบัติรับใช้ {MH 417.2}MHTh 462.2

    พระองค์ประทับอยู่บนบัลลังก์เหนือแผ่นดินโลกที่วุ่นวายสับสน สิ่ง สารพัดทั่งปวงจึงได้เปิดกางออกให้พระองค์ทรงสำรวจและตรวจสอบได้ และจากนิรันดร์กาลแห่งสันติสุขอันยาวนาน พระองค์ใต้ทรงบัญชาในสิ่งที่ พระองค์ทรงเห็นว่าเหมาะสมที่สุดตามพระประสงค์ของพระองค์MHTh 462.3

    “ทางของมนุษย์ไม่อยู่ที่ตัวเขา
    คือไม่อยู่ที่มนุษย์ผู้ซึ่งดำเนินไป ที่จะนำtlก้าวของตนเอง”

    “จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า...
    จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า
    และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น”

    “พระเนตรของพระเจ้าอยู่เหนือผู้ที่ยำเกรงพระองค์ เหนือผู้ที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์
    เพื่อพระองค์จะทรงช่วยกู้จิตวิญญาณของเขาจากมัจจุราช
    และให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้ในเวลากนดารอาหาร”

    “ข้าแต่พระเจ้า ความรักมั่นคงของพระองค์ประเสริฐสักเท่าใด
    ลูกหลานของมนุษย์เข้าลี้ภัยอยู่ใต้ร่มปีกของพระองค์”

    “คนที่ผู้อุปถัมภ์ของเขาคือพระเจ้าของยาโคบ ก็เป็นสุข
    คือผู้ที่ความหวังของเขาอยู่ในพระเจ้าของเขา”

    “ข้าแต่พระเจ้า แผ่นดินโลกเต็มด้วยความรักมั่นคงของพระองค์”
    พระองค์ทรงรักความขอบธรรมและความยุติธรรม”

    “พระองค์ผู้ทรงเป็นความหวังของที่สิ้นสุดปลาย
    ทั้งปวงของแผ่นดินโลก และของทะเลที่ไกลโพ้น
    พระองค์ผู้ทรงสถาปนาภูเขาด้วยพระกำลังของพระองค์
    ทรงคาดพระองค์ไว้ด้วยอานุภาพ
    ผู้ทรงระวับเสียงอึงคะนึงของทะเล...
    (และ) เสียงโกลาหลของชาวประเทศทั้งหลาย”

    “พระองค์ทรงกระทำให้อรุโณทัยและราตรีกาลขื่นขมยินดี”
    พระองค์ประทานของดีของพระองค์ตลอดปี
    ตามมรรคาของพระองค์ก็เกลื่อนกลาดด้วยความอิ่มหมีพลีมัน”

    “พระเจ้าทรงชูทุกคนที่กำลังจะล้มลง และทรงยกทุกคนที่โน้มตัวลงให้ลุกขึ้น นัยน์ตาทั้งปวงมองดูพระองค์
    และพระองค์ประทานอาหารให้ตามเวลา
    พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์
    พระองค์ทรงให้สัตว์โลกทุกอย่างอิ่มตามความปรารถนา’,
    MHTh 462.4

    เยเรมีย์ 1 0:23; สุภาษิต 3:5, ธ; สดุดี 33:18, 19; 36:7; 146:5; 119:64;33:5; 65:5-7;65:8, 11; 145:14-16. {MH 417.3}