Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    การส่งสอนหลักการดานสุขภาพ

    ผู้ประกาศข่าวประเสริฐควรจะมีความสามารถในการให้คำแนะนำ ถึงหลักการในการดำเนินชีวิตที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ มีความเจ็บป่วยอยู่ ทั่วไปในทุกหนแห่ง และโดยมากแล้วโรคภัยไข้เจ็บเหล่านี้สามารถที่จะ ป้องกันได้ด้วยการเอาใจใส่ในกฎของสุขภาพ ประชาชนจำเป็นจะต้อง ตระหนักถึงหลักการในต้านสุขภาพที่ส่งผลต่อความผาสุกทั่งในชีวิตนี้และ ชีวิตในภายภาคหน้า พวกเขาจำเป็นจะต้องไต้รับการกระตุ้นเตือนถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบที่มีต่อร่างกายที่พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ใต้ทรงสร้างไว้ เพื่อเป็นที่สถิตของพระองค์ และพระองค์ทรงมีพระประสงค์ให้พวกเขาได้ เป็นผู้อารักขาที่ซื่อสัตย์ เขาจำเป็นจะต้องมีความเข้าใจอันกระจ่างแจ้งถึง ความจริงของพระวจนะที่ได้รับการถ่ายทอดไว้ในพระอัมภีร์ที่ว่า {MH 146.1}MHTh 147.2

    “ท่านเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงดำรงพระชนม์ ดังที่พระเจ้าตรัส ไว้ว่า เราจะอยู่ในเขาทั้งหลาย และจะดำเนินในหมู่พวกเขา และเราจะ เป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชาชนของเรา” 2 โครินธ์ ธ:16 (TKJV) {MH 1 46.2}MHTh 148.1

    ผู้คนเป็นอันมากต่างต้องการและมีความยินดีที่จะไต้รับคำแนะนำ สั่งสอนในเรื่องที่เกี่ยวกับการเยียวยารักษาคนที่เจ็บป่วยด้วยวิธีการแบบ พื้นฐาน อันเป็นวิธีการที่กำลังเข้ามาแทนที่การใช้ยาอันตราย ประชาชน มีความต้องการเป็นอย่างมากที่จะได้รับการแนะนำสั่งสอนถึงการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอาหารการกิน นิสัยความเคยชินที่ผิดๆ ของการ รับประทานและการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นสาเหตุสำคััญ ของการขาดความยับยั้งชั่งใจ การกระทำผิดศีลธรรมและความทุกข์ เวทนาที่นำความหายนะมาสู่่มนุ,ษย์ในโลก {MH 1 46.3}MHTh 148.2

    ในการสั่งสอนเกี่ยวกับหลักการในต้านของสุขภาพนั้น ขอให้ระลึก ถึงวัตถุประสงค์อันยิ่งใหญ่ของการปฏิรูป นั้นก็คือ การบรรลุถึงขั้นสูงสุด ของการพัฒนาร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณ จงแสดงให้เห็นว่ากฎแห่ง ธรรมชาติอันเป็นบทปัญญ้ติของพระเจ้านั้นได้ทรงจัดตั้งไว้เพื่อประโยชน์ ของตัวเรา ซึ่งการเชื่อฟังตามกฎเหล่านั้นย่อมจะส่งเสริมความสุขในชีวิตนี้ และช่วยในการตระเตรียมสำหรับชีวิตในภายภาคหน้าอีกด้วย {MH 146.4} จงชักนำให้ประชาชนได้เรียนรูถึงความรักและพระปัญญาของพระเจ้า ที่ทรงสำแดงให้ปรากฏอยู่ในธรรมชาติ จงนำพาพวกเขาให้ใต้ศึกษาเล่า เรียนถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิต ระบบอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย มนุษย์ และกฎที่คอยควบคุมดูแลร่างกาย ผู้ที่ประจักษ์เห็นร่องรอยอัน แสดงถึงความรักของพระเจ้า ผู้ที่หยั่งถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นพระปัญญาและ เป็นสิ่งลํ้าเลิศที่มีอยู่ในธรรมบญญติของพระองค์ รวมทั้งผลแห่งการเชื่อฟัง แล้ว ย่อมที่จะมีทัศนะที่ผิดแผกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างคำว่าหน้าที่ ความรับผิดชอบและข้อผูกมีด แทนที่จะรู้สึกว่าการปฏิบัติตามกฎของสุขภาพ นั้นเป็นเรื่องของการที่ต้องสละทิ้งความสุขส่วนตัวหรือการบำเพ็ญเพียร ด้วยการข่มระงับจิตใจของตนเอง เขาจะรู้สึกว่าการกระทำเช่นนั้นเป็น พระพรอันประเมินค่ามีไต้อย่างแท้จริง {MH 1 47.1}MHTh 148.3

    ผู้ประกาศข่าวประเสริฐทั้งหลายควรจะได้ตระหนักว่าการอบรม สั่งสอนถึงหลักการในการดำเนินชีวิตที่ส่งผลดีต่อสุขภาพนั้น เป็นส่วนหนึ่ง ของหน้าที่ๆ เขาได้รับมอบหมาย มนษย์ในโลกมีความต้องการอันใหญ่หลวง ในกิจการนี้และยังคอยเปิดประฅูต้อนรับอยู่ {MH 147.2}MHTh 149.1

    ในทั่วทุกหนแห่งจะพบว่ามีแนวโน้มที่จะเอางานขององค์กรไปทดแทน งานของส่วนบุคคล ความคิดของมนุษย์มักจะเอนเอียงไปในทางของการ รวมตัวกัน การรวมอำนาจสู่ศูนย์กลาง และการก่อตั้งคริสตจักรและสถาบัน ขนาดใหญ่ คนจำนวนมากทิ้งงานการกุศลให้สถาบันและองค์กรต่าง ๆ เป็น ผู้ดูแล พวกเขาหาข้อแก้ตัวที่จะไคัไม่ต้องติดต่อเกี่ยวข้องกับผู้อื่น ด้งนั้น จิตใจของพวกเขาจึงเย็นชาลง พวกเขาหมกมุ่นแต่กิจกรรมของตัวเองและ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ความรักที่มีต่อพระเจ้าและมนุษย์จึงเหือดหายไปจากจิต วิญญาณ {MH 1 47.3}MHTh 149.2

    พระคริสต์ทรงมอบหมายหน้าที่ ๆ ต้องกระทำเป็นการส่วนตัวให้แก่ ผู้ที่ติดตามพระองค์ อันเป็นงานที่มีอาจจะใช่ให้ผู้อื่นกระทำแทนไต้ การให้ ความช่วยเหลือแก่คนที่เจ็บป่วยและคนยากคนจนการประกาศข่าวประ- เสริฐให้แก่ผู้ที่หลงหาย สิ่งนี้มีใช่เป็นภาระที่จะมอบให้คณะกรรมการหรือ องค์กรการกุศลใดๆ ปฏิบัติแทน หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล ความทุ่มเทบากบั่นของแต่ละบุคคล และการเสียสละส่วนตนจึงเป็นข้อ เรียกร้องของการประกาศข่าวประเสริฐ {MH 1 47.4}MHTh 149.3

    พระคริสต์ทรงมีพระดำรัสสั่งว่า “จงออกไปตามทางใหญ่ซอกน้อย และเร่งเร้าเขาให้เข้ามา เพื่อเรือนของเราจะเต็ม’ พระองค์ทรงนำคน มากมายได้ติดต่อสัมพีนธ์ก้บผู้ที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ พระองค์ ตรัสว่า “จงนำคนยากจนไร้บ้านเข้ามาในบ้านของเจ้า” “เมื่อเจ้าเห็นคน เปลือยกายก็คลุมกายเขาไว้” “เขาจะวางมือบนคนไข้คนป่วย แล้วคน เหล่านั้นจะหายโรค” ลูกา 14:23; อิสยาห์58:7; มาระโก 16:18ด้วย การพบปะเยี่ยมเยียนต่อกันโดยตรงและด้วยการให้ความช่วยเหลือเป็น การส่วนตัว พระพรที่ได้รับจากข่าวประเสริฐจึงได้แผ่ขยายออกไป {MH 147.5}MHTh 150.1

    การที่พระเจ้าไต้ประทานแสงสว่างให้แก่ประชากรของพระองค์ใน สมัยโบราณนั้น พระองค์มิได้ทรงจำกัดชนชั้นของบุคคลที่พระองค์ทรง เลือกใช่ไว้โดยเฉพาะ ดาเนียลเป็นเจ้าชายของเผ่ายูดาห์ อิสยาห์ก็สืบ เชื้อสายมาจากราชตระกูลเช่นกัน ดาวิดเป็นเด็กชายที่คอยดูแลฝูงแกะ อาโมสเป็นคนเลี้ยงสัตว์ เศคาริยาห์เป็นเชลยศึกจากรุงบาบิโลน เอลีชา เป็นชาวไร่ชาวนา องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงยกชูผู้เผยพระวจนะ พวก เจ้านาย เหล่าผู้ที่สูงศักคิ์และสามัญชนมาเป็นผู้แทนของพระองค์ แล้ว พระองค์ทรงสั่งสอนถึงความจริงเพื่อที่พวกเขาจะได้นำไปประกาศแก่ มวลมนุษย์ {MH 1 48.1}MHTh 150.2

    ส่าหรับทุกๆ คนที่ได้รับส่วนร่วมในพระคุณของพระองค์ องค์พระ- ผู้เป็นเจ้าทรงมอบหมายงานให้เขาได้กระทำเพื่อคนอื่นๆ เราแต่ละคนจะ ต้องตั้งมั่นและเข้าประจำอยู่ในที่ของเรา พร้อมทั้งกล่าวว่า “ข้าพระองค์อยู่ นี่ พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด” อิสยาห์ 6:8 ด้วยเหตุนี้ผู้ สอนศาสนาที่ได้สั่งสอนถึงพระวจนะของพระเจ้า ผู้เผยแพร่ศาสนาที่เป็น พยาบาล แพทย์ที่เป็นคริสเตียนและคริสเตียนแต่ละคน ไม่ว่าเขาจะเป็น พ่อค้าหริอชาวนา ผู้เชี่ยวชาญหรือนายช่าง ภาระความรับผิดชอบย่อมตก เป็นของทูกคน เรามีหน้าที่ๆ จะต้องประกาศข่าวประเสริฐแห่งความรอด ให้แก่มวลมนุษย์ กิจการทุกด้านที่เราได้มีส่วนร่วมจะต้องกลายเป็นเครื่องมือ ในการบรรลุถึงจุดมุ่งหมาย {MH 148.2}MHTh 150.3

    คนทั้งหลายที่ไต้กระทำกิจการตามที่พระเจ้าได้ทรงมอบหมาย มิใช่ เพียงแต่จะเป็นพระพรแก่ผู้อื่นเท่านั้น แต่ตัวเขาเองก็จะไต้มืส่วนร่วมรับใน พระพรนั้นไว้ด้วย ความรู้สึกถึงการที่ไต้ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีย่อมจะส่ง ผลสะท้อนกลับมาสู่จิตวิญญาณของเขาเอง ผู้ที่ท้อแท้สิ้นหวังก็จะลืมความ ท้อถอยของเขา ผู้ที่อ่อนกำลังก็’จะกลับกลายเป็นคนที่เข้มแข็ง ผู้ที่’ขาดสติ ปัญญาก็จะได้รับความเฉลียวฉลาดขึ้น และคนทั้งผองก็จะได้ประสบพบ กับพระผัูช่วยที่ทรงมิเคยพลั้งในพระองค์ผูัได้ทรงเรียกเขาทั้งหลาย {MH 148.3}MHTh 151.1

    คริสตจักรของพระคริสฅ์ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อปรนนิบัติรับใซัหลัก การสำคัญของคริสตจักรก็คือ พันธกิจแห่งการรับใช้ สมาชิกในคริสตจักร เป็นกองกำลังทหารที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อการต่อสู้ภายใต้การบังคับบัญชาของ แม่ทัพผู้ทรงช่วยให้รอด ผู้สอนศาสนา แพทย์ และครูอาจารย์ที่เป็นคริส- เตียน มีงานสำคัญที่จะต้องกระทำมากยิ่งกว่าที่หลายคนจะคาดคิด เขา มิใช่แต่เพียงปรนนิบัติรับใช้ประชาชนเท่านั้น แต่ยังจะต้องสั่งสอนพวกเขา ให้ใต้ปรนนิบัติรับใช้ผู้อื่นต่อไปอีกด้วย เขาไม่ควรแต่เพียงอบรมสั่งสอนใน หลักการที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังจะต้องแกฝนผู้ฟังให้ใต้รู้จักที่จะแบ่งปันใน หลักการเหล่านี้แก่ผู้อื่นต่อไป ความจริงที่ไม่ได้นำมาปฏิบัติในชีวิต ความ จริงที่ไม่ได้รับการแบ่งปันให้แก่ผู้อื่น ย่อมจะสูญเสียซึ่งฤทธิ์อำนาจที่ช่วย ในการประสาทชีวิตและฤทธิ์อำนาจที่ช่วยในการเยียวยารักษา พระพรแห่ง ฤทธิ์อำนาจจะยังคงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อได้แบ่งปันพระพรนี้ออกไป {MH 1 48.4} เราจะต้องละทิ้งซึ่งความรู้สึกอันเหนื่อยหน่ายในการปรนนิบัติรับใช้ พระเจ้า สมาชิกของคริสตจักรทุกๆ คนควรจะได้มีส่วนร่วมในงานการรับใช้ ของพระอาจารย์ในด้านใดด้านหนึ่ง แม้ว่าบางคนอาจจะไม่สามารถกระทำ ได้มากเท่าเทียมกับคนอื่นๆ ก็ตาม แต่ทุกๆ คนควรจะได้พยายามโดย สุดกำลังของตนในการต่อสู้ตานทานต่อกระแส’คลื่นแห่งโรคภ้ยและความ ทุกข์ยากที่กำลังพัดกระหน่ำซัดโลกของเราอยู่ หลายคนคงจะมีจิตใจที่ พร้อมจะปฏิบัติงานหากเขาไต้รับการอบรมสั่งสอนว่าจะเริ่มงานได้อย่างไร พวกเขาจำเป็นจะต้องไต้รับการชี้แนะและการสนับสนุน {MH 149.1} MHTh 151.2

    โบสถ์ทุกๆ โบสถ์ควรเป็นโรงเรียนเพื่อการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานที่ เป็นคริสเตียน สมาชิกของคริสตจ้กรควรจะได้รับการอบรมถึงวิธีการอ่าน พระคัมภีร์ การดำเนินรายการและการสอนในโรงเรียนวันสะบาโต การ ช่วยเหลือคนยากจนและการพยาบาลคนป่วยเจ็บอย่างตีที่สุด และการช่วย ให้คนที่ยังไม่เชื่อได้กลับใจเสียใหม่ ควรจะมีชั้นสอนในเรื่องของสุขภาพ ชั้นสอนการประกอบอาหารและการเรียนการสอนในชั้นวิชาแขนงต่างๆที่ เกี่ยวข้องกับกิจการของคริสเตียนในด้านของการให้ความช่วยเหลือแก่ ผู้อื่น ซึ่งไม่ควรจะเป็นแต่เพียงการเรียนการสอนอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะ ต้องมีการแกปฏิบ้ตีจริงภายใต้การดูแลของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ จง ให้ครูผู้สอนเป็นผู้นำในการปฏิบ้ติงานท่ามกลางเหล่าประชาชน เพื่อผู้อื่น ที่ไต้ร่วมงานจะไต้เรียนรู้จากแบบอย่างของเขา แบบอย่างเพียงแบบเดียว ย่อมมีคุณค่ายิ่งกว่าคำสั่งสอนนับร้อยนับพัน {MH 149.2}MHTh 152.1

    ขอให้ทุก ๆ คนได้บ่มเพาะกำลังกายและกำลังสตีปัญญาของตนอย่าง สุดความสามารถ เพื่อเขาจะท่างานรับใช้พระเจ้าเมื่อถึงเวลาที่พระคุณของ พระองค์จะทรงเรียก พระคุณแบบเดียวกันกับของพระคริสต์ที่ประทานให้ แก่เปาโลและอปอลโลซึ่งแสดงถึงความโดดเด่นดีเลิศในจิตวิญญาณของ พวกเขา พระคุณเดียวกันนี้จะทรงโปรดประทานแก่เหล่าคริสเตียนผู้เผย แพร่ศาสนาผู้ได้อุทิศตนในวันนี้ด้วยเช่นกัน พระเจ้าทรงประสงค์ให้เหล่า บุตรทั้งหลายของพระองค์มีสตีปัญญาและมีความรอบรู้พร้อมความบริสุทธิ์ ที่ไร้ข้อกังขารวมทั้งฤทธิ์อำนวจเพื่อสง่าราศีของพระองค์จะได้สำแดงให้ ปรากฏในโลกของเรา {MH 1 49.3}MHTh 152.2

    ผู้ปฏิป้ติงานที่ได้รับการศึกษาและได้มอบถวายจิตใจแด่พระเจ้าย่อม สามารถปรนนิบัติรับใช่ในกิจจานุกิจต่าง ๆ ได้มากกว่าและยังสามารถที่จะ บรรลุผลถึงกิจการงานในวงกว้างกว่าผู้ที่ได้รับการศึกษามาแต่เพียงเล็ก น้อย จิตใจที่มีวินัยของพวกเขาย่อมวางพวกเขาอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบกว่า ผู้อื่น แต่คนทั้งหลายซึ่งมีได้มีสติปัญญาอันลํ้าเลิศหรือได้รับการศึกษาใน ระดับสูงก็อาจจะได้รับการยอมรับในการปรนนิบัติช่วยเหลือผู้อื่นได้เช่นกัน พระเจ้าจะทรงเลือกใช้ผู้ที่มีความเต็มใจยอมให้พระองค์ทรงเลือกใช้ ซึ่ง มิใช่คนที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดหรือมีความสามารถมากที่สุด ผู้ที่สามารถ สร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและยั่งยืนยาวนานที่สุดเสมอไป เหล่าชาย หญิงที่ได้สด้บฟังถึงการทรงเรียกจากสวรรค์นั่นแหละย่อมเป็นที่ต้องการ ผู้ที่ปฏิบัติงานได้ผลดีที่สุดก็คือ ผู้ที่ตอบรับคำเชิญที่ว่า “จงเอาแอกของเรา แบกไว้แล้วเรียนจากเรา ” มิทธิว 1 1:29 {MH 1 50.1}MHTh 152.3

    ผู้ประกาศศาสนาด้วยหัวใจคือสิ่งที่ต้องการ หัวใจของผู้ใดที่พระเจ้า ทรงสัมผัสย่อมจะเปียมลันด้วยความปรารถนาอันใหญ่หลวงที่จะแสวงหา ผู้ที่ยังไม่เคยได้ประจักษ์ถึงความรักของพระองค์ สภาพของพวกเขาประทับ ในใจของเขาด้วยความรู้สึกของความเศร้าส่วนตัว เขากำชีวิตของเขาไว้ใน มือ แล้วก้าวออกไปอย่างทูตผู้นำข่าวที่สวรรค์ส่งมา ที่สวรรค์ดลใจ เพื่อทำ พันธกิจที่ทูตสวรรค์พร้อมจะร่วมมือ {MH 1 50.2}MHTh 153.1

    หากผู้ที่พระเจ้าได้ทรงโปรดให้มีตะลันต์อันเฉลียวฉลาดแต่กลับนำ ของประทานเหล่านี้ไปใช้อย่างเห็นแก่ตัว ภายหลังที่ได้รับการทดสอบใน ระยะหนึ่งแล้ว พวกเขาก็จะถูกปล่อยให้ดำเนินไปตามหนทางของพวกเขา เอง พระเจ้าจะทรงเลือกผู้ที่ดูเสมือนหนึ่งว่าไม่ได้รับพระราชทานด้วยของ ประทานอย่างเหลือล้น ผู้ซึ่งไม่ได้มีความเชื่อมั่นในความสามารถของ ตนเองมากมายนัก ตังนั้น พระองค์จึงทรงกระทำให้คนที่อ่อนแอ กลับ เข้มแข็ง เพราะว่าพวกเขาไว้วางใจในพระองค์ว่าพระองค์จะทรงกระทำการ ในสิ่งที่เหนือความสามารถของพวกเขา พระเจ้าจะทรงยอมรับการปรน- นืบัติรับใช้ที่กระทำด้วยความเต็มใจ และพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวง ที่ยังบกพร่องอยู่นั้นให้ครบถ้วนบริบรณ์ด้วยพระองค์เอง {MH 150.3}MHTh 153.2

    บ่อยครั้งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกผู้ร่วมงานของพระองค์มา จากคนที่มืโอกาสได้รับการศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนอย่างจำกัด คนเหล่านี้ ได้นำความสามารถของตนมาใช่ให้เกิดประโยชน์ด้วยความขยันหมั่นเพียร อย่างที่สุด และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานบำเหน็จรางวัลในความสัตย์ซื่อ ของพวกเขาที่มืต่อพระราชกิจของพระองค์ ในความมานะอุตสาหะและการ กระหายหาความรู้ พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นหยาดนํ้าตาของพวกเขา และสดับฟังคำอธิษฐานทูลขอของพวกเขา ดังเช่นพระพรของพระองค์ ที่ทรงโปรดประทานแก่บรรดาเชลยในราชสำนักของกรุงบาบิโลนในกาล ก่อนโน้น พระองค์ย่อมจะประทานสติปัญญาและความรูให้แก่บรรดาผู้รับ ใช้ของพระองค์ในยุคสมัยนี้ด้วยเช่นกัน {MH 150.4}MHTh 153.3

    ด้วยพระคุณของพระคริสต์ ในบางครั้ง บุคคลที่ไม่ได้รับการศึกษา จากในโรงเรียนหรือมีสถานะทางสังคมที่ตาด้อย กลับเป็นผู้ที่’ได้รับผล สำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ในการนำจิตวิญญาณมาหาพระองค์ เคล็ดลับแห่ง ความสำเร็จของพวกเขาก็คือ ความไว้วางใจในพระเจ้า พวกเขาได้เรียน รูในทุกวันจากพระองค์ผู้ทรงเป็นที่ปรึกษามหัศจรรย์และพระองค์ผู้ทรง มหิทธิฤทธิ์ {MH 151.1}MHTh 154.1

    ผู้รับใช้เหล่านี้แหละที่ควรจะได้รับการสนับสนุน องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงนำพวกเขามาเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีความสามารถเหนือกว่า เพื่อที่จะได้ เติมเต็มในช่องว่างที่ผู้อื่นไม่ได้!หัความสนใจ ความฉับไวในการเล็งเห็นถึง สิ่งที่จะต้องลงมือทำ ความเต็มใจที่พร้อมจะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ที่ต้องการ ความช่วยเหลือของพวกเขา คำพูดและการกระทำที่กอปรด้วยความ เมตตากรุณาของพวกเขา สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ประตูที่ปิดอยู่ได้ถูกเปิดออก พวกเขาเข้ามาใกล้ซิดกับผู้ที่กำลังเดือดร้อน และด้วยถ้อยคำของพวกเขา ที่มือิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจจึงมือำนาจที่สามารถชักนำจิตวิญญาณ มากมายที่กำลังเป็นทุกข์อยู่นั้นให้เข้ามาหาพระเจ้าได้ ผลงานของพวกเขา ได้พิสูจitให้คนอื่นๆ มากมายได้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้เช่น เดียวกันหากเพียงแต่พวกเขาจะยอมลงมือทำ {MH 151.2}MHTh 154.2

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents