ความรักในการศึกษษเล่าเรียนพระคัมภีร์
มิใช่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ทั้งผู้ชราและคนหนุ่มสาวได้ละทิ้งพระคัมภีร์เสีย เขามิได้ ศึกษาเล่าเรียนพระคัมภีร์ และมิได้ยึดถือคำสอนของพระคัมภีร์ เป็นกฎเกณฑ์สำหรับบังคับชีวิตของเขา โดยฉะเพาะอย่างยิ่งคน หนุ่มสาวมักจะทำผิดในการที่เขาไม่เอาใจใส่ ต่อการศึกษาเล่าเรียน พระคัมภีร์ คนหนุ่มสาวส่วนมากมีเวลาอ่านหนังสืออื่น ๆ แต่เขา ไม่เอาใจใส่ศึกษาเล่าเรียนหนังสือที่ชี้ทางไปสู่ชีวิตชั่วนิรันดร์ทุก ๆ วัน หลายคนอ่านหนังสือที่ไร้สาระ แต่ไม่ได้อ่านพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ช่วยนำเราไปสู่ชีวิตที่สูงและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น คนหนุ่มสาว จะยอมรับว่าพระคัมภีร์เป็นหนังสือที่น่าสนใจ ถ้าหากเขาไม่ได้อ่าน หนัีงสือนิยายเริงรมย์ที่ทำให้ความคิดของเขาฟุ้งซ่านไปCCh1 384.2
ในฐานะที่เราเป็นพวกที่ได้รับแสงสว่างจากพระเจ้า ความ เคยชินที่เราปฏิบัติจนติดเป็นนิสัย ถ้อยคำของเรา ชีวิตภายใน ครอบครัวของเรา และการคบหาเพื่อนฝูงของเราจะต้องเป็นไป ในทางที่ช่วยเชิดชูเราให้สูงยิ่งขึ้น จงยอมให้พระคำของพระเจ้า ได้รับตำแหน่งอันมีเกียรติคือเป็นผู้นำในครอบครัวของเรา เมื่อ เรามีความยากลำบากเราจะยึดถือพระคำของพระเจ้าเป็นผู้ให้คำแนะ นำตักเตือนเรา และเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติของเราทุก อย่าง พี่น้องของข้าพเจ้าจะเห็นประจักษ์หรือไม่ว่าผู้ที่อยู่ในครอบ ครัวจะมีความเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริงหรือไม่ นอกเสียจากเขา จะมีความจริงของพระเจ้า และสติปัญญาแห่งความชอบธรรมอยู่ ในครอบครัวนั้นด้วย บิดามารดาทุกคนไม่ควรจะคิดว่าการปรน นิบัติรับใช้พระเจ้านั้นเป็นภาระที่หนัก อำนาจแห่งความจริงของ พระเจ้า จะต้องเป็นผู้แทนของพระองค์ในการที่จะชำระจิตใจของผู้ ที่อยู่ในครอบครัวให้สะอาดบริสุทธิ์CCh1 385.1
เมื่อเด็ก ๆ ยังมีอายุน้อย บิดามารดา ควรสอนเขาให้เรียนรู้ ว่าพระบัญญัติของพระเจ้า ความเชื่อในพระผู้ช่วยให้รอดของเรา สามารถจะชำระเราให้สะอาดปราศจากมลทินบาปได้ บิดามารดา ควรอบรมสั่งสอนบุตรให้มีความเชื่อเช่นนี้ทุก ๆ วัน โดยการวางตัว เป็นแบบอย่างอันดีแก่บุตรCCh1 386.1