Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 1

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    การเข้าสนิทกับพระคริสต์และความสามัคคีปรองดองกัน

    เป็นวิธีเดียวที่ช่วยให้เราปลอดภัย

    ชาวโลกมองดูการแตกแยกระหว่างพวกคริสเตียนด้วยความ พอใจ พระเจ้าทรงปรารถนาจะให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใน ท่ามกลางพลไพร่ของพระองค์ ในสมัยที่สุดปลายนี้การเข้าสนิท กับพระคริสต์และความสามัคคีปรองดองกันเป็นทางเดียวที่จะช่วย ให้เราปลอดภัย ขออย่าให้เราช่วยสนับสนุนให้ซาตานสามารถจะ ชี้มาที่สมาชิกของเราและกล่าวว่า “จงดูพลไพร่เหล่านี้ซิ เขายืน อยู่ใต้ร่มธงของพระคริสต์ แต่เขาเกลียดชังซึ่งกันและกัน เราไม่ ต้องกลัวคนเหล่านั้น เพราะเขาใช้กำลังต่อสู้กันเองมากกว่าจะต่อ สู้กับกองทัพของเราเสียอีก” ภายหลังที่พระเจ้าได้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่เหล่า สาวกแล้ว พวกเหล่านั้นได้ออกไปประกาศสั่งสอนถึงพระผู้ช่วย ให้รอดที่ทรงฟื้นคืนชีพ และเขามีความปรารถนาอย่างเดียวคือการ ที่จะช่วยจิตวิญญาณให้ได้รับความรอด เขามีความชื่นชมยินดีที่ได้ มีความสามัคคีปรองดองกันในระหว่างผู้ชอบธรรมด้วยกัน พวก สาวกมีใจเมตตาปราณี มีความคิดรอบคอบและไม่คิดถึงตัวเอง และเต็มใจที่จะยอมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความจริงของพระเจ้า ในการสนทนาวิสาสะกันระหว่างพวกเขาทุกๆวัน พวกสาวกได้ แสดงความรักที่พระคริสต์ตรัสสั่งให้เขาแสดงต่อกัน โดยการกล่าว วาจาและกระทำสิ่งที่ไม่เห็นแก่ตัว เขาได้พยายามก่อให้เกิดความ รักขึ้นในจิตใจของคนอื่นๆ บรรดาผู้เชื่อถือจะต้องมีความรักอยู่ในใจเช่นเดียวกับเหล่า อรรคสาวกภายหลังที่พระเจ้าได้หลั่งพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่เขาแล้ว เหล่าอรรคสาวกจะต้องออกไปประกาศพระคำของพระเจ้า และ เต็มใจเชื่อฟังพระบัญญัติใหม่ของพระองค์ “เรารักเจ้าทั้งหลาย มาแล้วฉันใด เจ้าจงรักซึ่งกันและกันด้วยฉันนั้น” (โยฮันบท ๑๓ ข้อ ๓๔) พวกสาวกจะต้องเข้าสนิทกับพระคริสต์เพื่อเขาจะสามารถ ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ได้ แต่พวกคริสเตียนในยุคแรก เริ่มพิจารณาดูข้อบกพร่องซึ่ง กันและกัน เขาคอยหาเหตุจับผิดกันแล้วพูดติเตียน เขามองไม่ เห็นพระผู้ช่วยให้รอดและความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงสำแดง แก่คนบาป เขามีความเคร่งครัดในการถือรักษาขนบธรรมเนียม ภายนอก และพิถีพิถันในทฤษฎีที่เกี่ยวกับความเชื่อ และติเตียน ซึ่งกันและกันมากขึ้น เขามองเห็นแต่ความผิดของผู้อื่นจนมองไม่ เห็นความผิดของตนเอง เขาลืมบทเรียนที่พระคริสต์ทรงสอนให้ เขารักซึ่งกันและกันเหมือนญาติพี่น้อง และสิ่งที่น่าสลดใจมากที่ สุดคือเขาไม่ทราบว่าเขาได้สูญเสียอะไรไปบ้าง เขาไม่รู้สึกว่า ความสุขและความชื่นชมยินดีได้สูญหายไปจากชีวิตของเขา และ ในไม่ช้าเขาก็จะต้องเดินอยู่ในความมืด เพราะเขาได้กีดกันความ รักของพระเจ้าออกจากจิตใจของเขา อรรคสาวกโยฮันทราบว่าความรักฉันญาติพี่น้องได้สูญ หายไปจากคริสตจักร และโยฮันได้เห็นว่าความรักนี้เป็นสิ่งที่ สำคัญมาก ตั้งแต่แรกเริ่มมาจนถึงวันที่โยฮันสิ้นชีวิต เขาได้ตัก เตือนให้บรรดาผู้เชื่อถือรักซึ่งกันและกัน จดหมายที่โยฮันเขียนถึง คริสตจักรต่างๆเต็มไปด้วยความคิดข้อนี้ “ดูก่อนพวกที่รัก ให้เรา ทั้งหลายรักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักเป็นมาจากพระเจ้า ....พระเจ้าได้ทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ชีวิตโดยพระบุตรนั้น....ดูก่อนพวกที่รัก ถ้า พระเจ้าได้ทรงรักเราทั้งหลายเช่นนั้น ก็ควรจะรักซึ่งกันและ กันmด้วย” (๑ โยฮัน บท ๔ ข้อ ๗ ถึง ๑๑)CCh1 210.1

    คริสตจักรของพระเจ้าในทุกวันนี้ขาดความรักฉันท์ญาติ พี่น้องอย่างมากมาย หลายคนที่แสดงว่าตนมีความรักพระผู้ช่วยให้ รอดมิได้รักคนอื่นๆที่เข้าร่วมพวกกับเขาในการเป็นคริสเตียน เรา มี ความเชื่อถืออย่างเดียวกัน เป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน และ เป็นบุตรของพระบิดาในสวรรค์องค์เดียวกัน และมีความหวังอัน น่าชื่นชมยินดี และมีหวังที่จะได้รับชีวิตชั่วนิรันดร์เช่นเดียวกัน เราควรจะรักใคร่กันอย่างสนิมสนมและมีความสามัคคีปรองดอง กันมากมายเพียงไร บรรดาชาวโลกคอยเฝ้าดูเราเพื่อจะพิจารณา ให้เห็นว่า ความเชื่อของเราได้มีอิทธิพลที่จะช่วยชำระจิตใจเราให้ สะอาดบริสุทธิ์หรือไม่ พวกที่อยู่ฝ่ายโลกมองเห็นข้อบกพร่องและ การกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ในชีวิตของเราได้โดยเร็วCCh1 213.1