Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

อุทาหรณ์จากคำสอนของพระคริสต์

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    บทที่ 26 - “จงทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยเงินทองอธรรม”

    อ้างอิงจาก ลูกา 16:1-9

    ช่วงเวลาที่พระคริสต์เสด็จมานั้นเป็นเวลาที่ทางฝ่ายโลกครอบงำอย่างมาก มนุษย์ถือสิ่งอันเป็นนิรันดร์รองจากสิ่งต่างๆ ทางฝ่ายโลก สิ่งที่จะได้รับในอนาคตเป็นรองของกิจธุระในปัจจุบัน พวกเขาสำคัญผิดด้วยการเอาสิ่งหลอกลวงเป็นความจริงและความจริงเป็นสิ่งหลอกลวง พวกเขาไม่ได้มองโลกที่มองไม่เห็นภายภาคหน้าด้วยความเชื่อ ซาตานทำให้พวกเขาเห็นว่าสิ่งของในโลกนี้น่าสนใจและน่าให้ความสำคัญและคนเหล่านี้ก็ตกลงสู่การทดลองของมัน {COL 366.1}COLTh 329.1

    พระคริสต์เสด็จมาเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพของสิ่งต่างๆ เหล่านี้ พระองค์ทรงมุ่งที่จะทำลายเสน่ห์ที่ทำให้มนุษย์หลงใหลและติดกับดัก ในการสอนของพระองค์ พระองค์ทรงหาทางที่จะปรับเปลี่ยนการอ้างสิทธิของสวรรค์และโลก เพื่อหันเหความคิดของมนุษย์จากการคิดถึงสิ่งต่างๆ ในปัจจุบันไปเป็นการคิดถึงอนาคต พระองค์ทรงเรียกให้พวกเขาหันจากการเฝ้าเสาะหาสิ่งของในเวลานี้มาเป็นการเตรียมการเพื่อชีวิตนิรันดร์ {COL 366.2}COLTh 329.2

    พระองค์ตรัสว่า “เศรษฐีคนหนึ่งมีพ่อบ้าน มีคนมาฟ้องเศรษฐีว่าพ่อบ้านคนนั้นกำลังผลาญสมบัติของท่าน” เศรษฐีฝากสมบัติทั้งหมดไว้ในความดูแลของคนรับใช้คนนี้ แต่คนใช้คนนี้ไม่ซื่อสัตย์ และผู้เป็นนายเชื่อแน่ว่าตนเองถูกหลอกอย่างเป็นระบบ เขาจึงตัดสินใจไม่จ้างคนใช้คนนี้ทำงานให้เขาอีกต่อไป และสั่งให้ตรวจสอบบัญชี เศรษฐีถามว่า “เรื่องที่เราได้ยินเกี่ยวกับเจ้านั้นเป็นอย่างไร เอาบัญชีพ่อบ้านของเจ้ามา เพราะว่าเจ้าจะเป็นพ่อบ้านต่อไปไม่ได้” ลูกา 16:1-2 {COL 366.3}COLTh 330.1

    เมื่อคาดว่าตัวเองจะถูกปลดในไม่ช้า พ่อบ้านคนนี้มองเห็นทางออกที่มีไว้ให้เขาเลือกอยู่สามทาง เขาจะต้องทำงานตรากตรำ ขอทาน หรืออดอยาก และเขาบอกกับตัวเองว่า “ข้าจะทำอะไรดี เพราะข้ากำลังจะถูกนายถอดออกจากหน้าที่แล้ว จะไปขุดดินก็ไม่มีแรง จะไปขอทานก็อายเขา ข้ารู้แล้วจะทำอะไรดีเพื่อว่าเมื่อข้าถูกถอดจากหน้าที่แล้ว คนอื่นๆ จะยังรับข้าไว้ในบ้านของเขา คนนั้นจึงเรียกลูกหนี้ของนายมาทีละคน แล้วถามคนแรกว่า ท่านเป็นหนี้นายข้าพเจ้าเท่าไหร่ เขาตอบว่าน้ำมันร้อยถัง พ่อบ้านจึงบอกเขาว่า ไปเอาบัญชีของท่านมา นั่งลงแล้วแก้เป็นห้าสิบถังเร็วๆ เข้า แล้วเขาก็ถามอีกคนหนึ่งว่า ท่านเป็นหนี้เท่าไร เขาตอบว่า ข้าวสาลีร้อยกระสอบ พ่อบ้านจึงบอกว่า เอาบัญชีของท่านแก้เป็นแปดสิบ” ลูกา 16:3-7 {COL 367.1}COLTh 330.2

    พ่อบ้านอสัตย์คนนี้ทำให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในความไม่ซื่อสัตย์ของเขาด้วย เขาฉ้อฉลนายของตัวเองเพื่อให้ผู้อื่นรับประโยชน์และโดยการกระทำเช่นนี้เป็นผลดีกับเขา ลูกหนี้ทั้งหลายเป็นหนี้บุญคุณที่ต้องต้อนรับเขาเข้าบ้านในฐานะมิตรสหาย {COL 367.2}COLTh 330.3

    แล้วเศรษฐีก็ชมพ่อบ้านอสัตย์นั้น เพราะเขาทำด้วยความฉลาด” ลูกา 16:8 คนทางฝ่ายโลกคนนี้เยินยอความเฉียบแหลมของคนที่ฉ้อโกงเขา แต่คำชมเชยของเศรษฐีไม่ใช่คำชมเชยของพระเจ้า {COL 367.3}COLTh 330.4

    พระคริสต์ไม่ได้ชมพ่อบ้านอสัตย์ แต่พระองค์ทรงใช้เหตุการณ์ที่คนรู้จักดีมาเป็นบทเรียนที่พระองค์ประสงค์ที่จะสอน พระองค์ตรัสว่า “จงทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยเงินทองอธรรม เพื่อที่ว่าเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่อาศัยตลอดไป” ลูกา 16:9 {COL 367.4}COLTh 331.1

    ฟาริสีทั้งหลายตำหนิพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงคลุกคลีอยู่กับคนเก็บภาษีและคนบาป แต่ความสนใจของพระองค์ที่มีต่อพวกเขาไม่ได้ลดลงหรือทรงเลิกที่จะทำงานเผื่อพวกเขา พระองค์ทรงเห็นว่าหน้าที่การงานของพวกเขานำไปสู่การทดลอง พวกเขาถูกห้อมล้อมด้วยสิ่งล่อลวงที่นำไปสู่ความชั่ว ก้าวผิดก้าวแรกทำได้ง่าย และจะก้าวลงอย่างรวดเร็วไปสู่การทุจริตที่เลวร้ายและอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้น พระคริสต์ทรงใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยพวกเขาให้มีเป้าหมายที่สูงขึ้นและมีหลักการที่สูงส่งยิ่งขึ้น นี่คือจุดประสงค์ที่พระองค์ทรงเล่าเรื่องของพ่อบ้านอสัตย์ เหตุการณ์ที่กล่าวในอุปมาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในหมู่คนเก็บภาษีและในคำพรรณนาของพระคริสต์ พวกเขามองเห็นถึงการกระทำของตนเอง ความสนใจของพวกเขาหยุดนิ่งที่นั่นและจากภาพของความไม่สุจริตที่กระทำกันอยู่เสมอ มีหลายคนได้รับบทเรียนแห่งความจริงฝ่ายวิญญาณ {COL 368.1}COLTh 331.2

    อย่างไรก็ดีอุปมานี้พูดกับสาวกโดยตรง เชื้อแห่งความจริงฝากไว้ให้กับพวกเขาเป็นกลุ่มแรกและส่งผ่านพวกเขาต่อไปยังคนอื่น ในช่วงแรกๆ พวกสาวกไม่เข้าใจคำสอนส่วนใหญ่ของพระคริสต์ บ่อยครั้งดูเหมือนว่าบทเรียนของพระองค์จะถูกลืมไป แต่ภายใต้อิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ สาวกฟื้นความจริงเหล่านี้กลับคืนมานำเสนอให้ผู้เชื่อใหม่ที่เข้าร่วมคริสตจักรฟังได้อย่างเด่นชัด {COL 368.2}COLTh 331.3

    พระผู้ช่วยให้รอดยังตรัสกับฟาริสีทั้งหลายด้วย พระองค์ไม่ทรงละทิ้งความหวังที่พวกเขาจะเรียนรู้อำนาจของพระวจนะของพระองค์ มีหลายคนรู้สำนึกในบาป และหากพวกเขาตั้งใจฟังความจริงภายใต้การทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยที่จะกลับใจเป็นผู้เชื่อในพระคริสต์ {COL 369.1}COLTh 331.4

    ฟาริสีทั้งหลายพยายามทำให้พระคริสต์เสียเกียรติภูมิด้วยการกล่าวหาว่าพระองค์ทรงคลุกคลีกับพวกเก็บภาษีและคนบาป บัดนี้พระองค์ทรงย้อนคำตำหนิไปยังคนที่กล่าวหาเหล่านี้ ภาพเหตุการณ์ที่รู้กันทั่วไปในหมู่คนเก็บภาษีนั้น พระองค์ทรงยกขึ้นมาไว้ต่อหน้าฟาริสีเพื่อแสดงให้เห็นถึงการกระทำของพวกเขาและเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีเดียวที่สามารถกู้ความผิดพลาดของพวกเขากลับคืนมาได้ {COL 369.2}COLTh 332.1

    พ่อบ้านอสัตย์ที่ได้รับมอบความไว้วางใจดูแลทรัพย์สินของเจ้านายเพื่อใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้อื่น แต่เขากลับใช้ทรัพย์เหล่านั้นเพื่อตนเอง ชนชาติอิสราเอลก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน พระเจ้าทรงเลือกพงศ์พันธุ์ของอับราฮัม ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์พระองค์ทรงช่วยพวกเขาออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ พระองค์ทรงฝากความจริงศักดิ์สิทธิ์ไว้กับพวกเขา เพื่อให้เป็นพระพรแก่ชาวโลก พระองค์ทรงมอบหมายคำเผยพระวจนะอันมีชีวิตเพื่อสื่อความสว่างให้แก่คนอื่นๆ แต่พ่อบ้านของพระองค์ใช้ของประทานเหล่านี้เพื่อสร้างความร่ำรวยและยกชูตนเองให้สูงขึ้น {COL 369.3}COLTh 332.2

    ฟาริสีมีจิตใจเต็มล้นด้วยความทะนงตนและความชอบธรรมในตนเอง พวกเขานำทรัพย์สินที่พระเจ้าทรงมอบให้ยืมเพื่อใช้ถวายเกียรติพระองค์ไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง {COL 369.4}COLTh 332.3

    พ่อบ้านในอุปมาไม่ได้เตรียมตัวไว้สำหรับอนาคต ทรัพย์สินที่ฝากไว้กับเขาเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นนั้นเขากลับใช้เพื่อตัวเอง เขาคิดแต่เฉพาะปัจจุบัน เมื่อเขาถูกขับออกจากหน้าที่ของการดูแลทรัพย์สิน เขาจึงไม่มีอะไรเหลืออยู่ที่จะนับว่าเป็นของตนเอง แต่สินทรัพย์ของเจ้านายยังคงอยู่ในมือของเขาและเขาตัดสินใจที่จะใช้เพื่อเป็นหลักประกันความต้องการที่จะมีขึ้นในอนาคต เพื่อให้บรรลุความตั้งใจนี้ เขาต้องลงมือทำงานตามแผนใหม่ แทนที่จะรวบรวมเพื่อตนเอง เขาจะต้องแจกจ่ายให้ผู้อื่น ด้วยการกระทำเช่นนี้เขาก็จะมีเพื่อนที่จะต้อนรับเขาหากเขาถูกไล่ออก พวกฟาริสีก็เป็นเช่นนี้ หน้าที่การดูแลรักษาจะถูกปลดจากพวกเขาในไม่ช้าและพวกเขาก็รู้สึกถึงความจำเป็นในการจัดหาสิ่งเลี้ยงชีพสำหรับอนาคต มีเพียงการแสวงหาสินทรัพย์ของผู้อื่นเท่านั้นที่พวกเขาสามารถหาประโยชน์ใส่ตนเองได้ โดยการแจกจ่ายของประทานของพระเจ้าในชีวิตปัจจุบันนี้เท่านั้น พวกเขาจึงสามารถเตรียมตัวสำหรับชีวิตนิรันดร์ {COL 369.5}COLTh 332.4

    หลังจากที่พระคริสต์ทรงเล่าอุปมานี้แล้ว พระองค์ตรัสว่า “ลูกของยุคนี้รู้จักใช้ความฉลาดกับคนในสมัยของพวกเขามากกว่าลูกของความสว่าง” ลูกา 16:8 นี่หมายความว่า คนฝ่ายโลกที่มีปัญญาแสดงความฉลาดและความจริงจังในการทำงานเพื่อตนเองมากยิ่งกว่าผู้ที่แสดงตนว่าเป็นบุตรของพระเจ้าที่ทำงานรับใช้พระองค์ ในยุคของพระคริสต์เป็นอย่างไร ยุคนี้ก็เหมือนกันอย่างนั้น จงมองดูชีวิตของคนหลายคนที่แสดงตนว่าเป็นคริสเตียน พระยาห์เวห์ประทานความสามารถ อำนาจและอิทธิพลให้แก่พวกเขา พระองค์ทรงฝากมอบเงินทองไว้กับพวกเขาเพื่อให้เป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์ในพระราชกิจแห่งการอันยิ่งใหญ่แห่งการไถ่ให้รอด ของประทานของพระองค์ทั้งหมดจะต้องใช้เพื่อเป็นพรแก่มนุษยชาติ ช่วยปลดปล่อยความทุกข์และความขัดสน เราควรที่จะให้อาหารแก่ผู้หิวโหย ให้เสื้อผ้าแก่ผู้เปลือยกาย ให้ความช่วยเหลือหญิงหม้ายและลูกกำพร้า เพื่อคนทุกข์โศกและถูกกดขี่ พระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นทั่วโลกคงอยู่ พระองค์ไม่เคยมุ่งหมายให้คนหนึ่งคนใดมีชีวิตอยู่อย่างหรูหราฟุ่มเฟือยในขณะที่บุตรคนอื่นๆ ร้องหาอาหาร ทรัพย์สินเงินทองส่วนที่เกินความต้องการเพื่อการยังชีพ พระองค์ทรงมอบหมายให้มนุษย์นำไปใช้เพื่อประโยชน์และเป็นพรแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พระยาห์เวห์ตรัสว่า “จงขายของที่ท่านมีอยู่และทำทาน” ลูกา 12:33 จง “เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน” 1 ทิโมธี 6:18 “เมื่อท่านจัดการเลี้ยงนั้น จงเชิญคนจน คนพิการ คนง่อยและคนตาบอด” ลูกา14:13 “การแก้พันธนะอธรรม ” “แก้สายรัดของแอก” “ ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ” “หักแอกทั้งหมดเสีย ” “แบ่งอาหารของเจ้ากับคนหิว” “นำคนยากจนไร้บ้านเข้ามาในบ้าน” “เมื่อเห็นคนเปลือยกายก็คลุมกายเขาไว้” “ ให้ผู้ถูกข่มใจได้อิ่มเอิบ” อิสยาห์ 58:6, 7, 10 “พวกท่านจงออกไปทั่วโลกประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” มาระโก 16:15 นี่คือพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่มีชื่อว่าเป็นคริสเตียนส่วนใหญ่กำลังทำหน้าที่นี้อยู่หรือไม่ {COL 370.1}COLTh 333.1

    แต่อนิจจามีสักกี่คนกำลังใช้ของประทานของพระเจ้าสำหรับตัวเอง มีสักกี่คนกำลังสร้างบ้านหลังแล้วหลังเล่า ซื้อที่ดินเพิ่มมากขึ้น มีสักกี่คนกำลังใช้เงินเพื่อความสนุกสนานเพื่อสนองความอยาก เพื่อสร้างบ้านที่ใหญ่โตเกินจำเป็น ซื้อหาของตกแต่งบ้านและเครื่องนุ่งห่มที่ฟุ่มเฟือย ในขณะที่เพื่อนร่วมโลกของเขาถูกปล่อยให้อยู่ในความทุกข์และตกอยู่ในความชั่ว อยู่กับโรคภัยและความตาย คนจำนวนมากกำลังพินาศไปโดยปราศจากการมองดูด้วยความเมตตา ไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำหรือการช่วยเหลือด้วยความเห็นใจ {COL 371.1}COLTh 334.1

    มนุษย์ทำผิดฐานฉ้อโกงพระเจ้า ด้วยการใช้ทรัพย์สินเงินทองอย่างเห็นแก่ตัว พวกเขาปล้นสง่าราศีของพระเจ้าไป ซึ่งควรสะท้อนกลับไปหาพระองค์ในการช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์และช่วยจิตวิญญาณให้รอด พวกเขากำลังยักยอกสินทรัพย์ที่พระเจ้าฝากไว้ พระเจ้าทรงประกาศว่า “เราจะมาใกล้เจ้าเพื่อการพิพากษา เราจะเป็นพยานที่รวดเร็วที่กล่าวโทษ…ผู้บีบบังคับลูกจ้างในเรื่องค่าจ้าง ผู้บีบบังคับแม่ม่ายและลูกกำพร้า ผู้ผลักไสคนต่างด้าวให้ไปเสีย” “มนุษย์จะฉ้อโกลพระเจ้าหรือ ที่จริงเจ้าทั้งหลายได้ฉ้อโกงเรา แต่เจ้ากล่าวว่า ‘ พวกเราฉ้อโกงพระเจ้าอย่างไร’ ก็ฉ้อโกงในเรื่องทศางค์และเครื่องบูชานั่นซิ เจ้าทั้งหลายต้องถูกสาปแช่งด้วยคำสาปแช่ง เพราะเจ้าฉ้อโกงเราทั้งชาติ” มาลาคี 3:5, 8, 9 “ ฟังให้ดีนะ พวกคนมั่งมี…ทรัพย์สมบัติของท่านก็ผุพัง เสื้อผ้าของพวกท่านก็ถูกแมลงกัดกิน ทองและเงินของท่านก็ขึ้นสนิม และสนิมนั้นก็จะเป็นพยานปรักปรำท่าน…ท่านสะสมสมบัติไว้สำหรับวาระสุดท้าย” “ท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างฟุ่มเฟือยและปล่อยตัว” “ นี่แน่ะค่าจ้างของคนเหล่านั้นที่เกี่ยวข้าวในนาของพวกท่าน ที่ท่านฉ้อโกงไว้นั้นก็ฟ้องร้องขึ้นและเสียงร้องทุกข์ของคนงานเหล่านั้นที่เกี่ยวข้าวก็ดังไปถึงพระกรรณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจอมทัพแล้ว” ยากอบ 5:1-3, 5, 4 {COL 371.2}COLTh 334.2

    ทุกคนจะต้องมอบคืนของประทานที่ได้รับฝากไว้ ในวันพิพากษาครั้งสุดท้าย ทรัพย์สินที่มนุษย์กักตุนไว้จะไม่มีค่าสำหรับเขาอีกต่อไป พวกเขาไม่มีสิ่งใดที่จะเรียกได้ว่าเป็นของตนเอง {COL 372.1}COLTh 334.3

    ผู้ที่ใช้ชีวิตสะสมทรัพย์สมบัติทางโลกได้แสดงออกว่ามีสติปัญญา ความคิดและสนใจความสุขนิรันดร์น้อยกว่าพ่อบ้านอธรรมที่แสวงหาการจุนเจือทางโลก บุตรแห่งความสว่างเหล่านี้มีความฉลาดน้อยกว่าบุตรของโลกยุคนี้ ในนิมิตของเรื่องวันพิพากษายิ่งใหญ่ผู้เผยพระวจนะกล่าวถึงคนเหล่านี้ว่า “คนจะเหวี่ยงรูปเคารพของเขาที่ทำด้วยเงินและรูปเคารพที่ทำด้วยทองคำซึ่งพวกเขาทำให้กับตัวเองเพื่อใช้กราบไหว้นั้นออกไปยังตัวตุ่นและตัวค้างคาว เพื่อจะเข้าถ้ำหินและเข้าซอกผาให้พ้นจากความน่าเกรงกลัวของพระยาห์เวห์และพ้นจากรัศมีแห่งความโอ่อ่าตระการของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นทำให้โลกสั่นสะเทือน” อิสยาห์ 2:20, 21 {COL 372.2}COLTh 335.1

    พระคริสต์ตรัสว่า “จงทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยเงินทองอธรรม เพื่อที่ว่าเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่อาศัยตลอดไป” ลูกา 16:9 พระเจ้าและพระคริสต์และทูตสวรรค์ทรงทำงานร่วมกันเพื่อคนที่ได้รับความลำบาก คนที่ตกทุกข์ได้ยากและคนบาปหนา จงถวายตัวท่านให้กับพระเจ้าเพื่องานนี้ จงใช้ของประทานของพระเจ้าเพื่อพระประสงค์นี้ แล้วท่านจะได้เข้าร่วมงานกับชาวสวรรค์ จิตใจของท่านจะเต้นประสานกับจิตใจของชาวสวรรค์ ท่านจะทำให้พวกเขาซึมซับให้มีอุปนิสัยเหมือนของท่าน สำหรับท่านแล้ว ผู้ที่อยู่ในสถานศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไม่เป็นแขกแปลกหน้าอีกต่อไป เมื่อสรรพสิ่งในโลกนี้ล่วงไป ผู้เฝ้าประตูสวรรค์จะโบกมือต้อนรับท่านด้วยความยินดี {COL 373.1}COLTh 335.2

    เงินทองที่ท่านใช้เพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่นจะได้กลับคืนมายังท่านอีก เงินทองที่ใช้ไปอย่างถูกต้องจะช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีงามที่ยิ่งใหญ่ จะชักนำจิตวิญญาณกลับมาหาพระคริสต์ ผู้ที่ปฏิบัติตามแผนการแห่งชีวิตของพระคริสต์จะได้เห็นคนที่เขาช่วยเหลือและเสียสละขณะที่อยู่ในโลกนี้ในพระราชวังของพระเจ้า ผู้ที่ได้รับการไถ่จะจดจำผู้ที่เป็นสื่อนำความรอดไปให้พวกเขาด้วยความขอบคุณ สวรรค์จะมีค่ามากยิ่งสำหรับผู้ซื่อสัตย์ที่ทำงานรับใช้เพื่อช่วยจิตวิญญาณให้รอด {COL 373.2}COLTh 335.3

    บทเรียนของอุปมานี้มีไว้สำหรับคนทั้งหลาย ทุกคนจะต้องรับผิดชอบต่อพระคุณที่ประทานแก่เขาผ่านทางพระคริสต์ ชีวิตมีค่าเกินกว่าที่จะสนใจเรื่องต่างๆ ในโลก พระยาห์เวห์ทรงประสงค์ที่จะให้เราเป็นสื่อให้แก่ผู้อื่นถึงสิ่งที่พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์และตามองไม่เห็นได้สื่อให้เรารับรู้ {COL 373.3} COLTh 336.1

    ทุกปีมีจิตวิญญาณของมนุษย์ชาตินับล้านๆ ดวงที่กาวเข้าสู่นิรันดร์กาลโดยไม่ได้รับคำเตือนและไม่ได้รับความรอด ทุกๆ ชั่วโมงในชีวิตอันหลากหลายของเรามีโอกาสที่เปิดออกเพื่อเข้าถึงและช่วยเหลือจิตวิญญาณให้รอด โอกาสเหล่านี้เกิดขึ้นและจากเราไปอย่างต่อเนื่อง พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราฉวยโอกาสนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด หลายวัน หลายสัปดาห์ และหลายเดือนผ่านไป เรามีหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือนลดน้อยลงที่จะทำงานของเรา เรามีเวลาที่เหลืออยู่อย่างมากที่สุดคืออีกไม่กี่ปี เสียงที่เราปฏิเสธที่จะตอบก็ดังขึ้นมาว่า “ เอาบัญชีพ่อบ้านของเจ้ามา” ลูกา 16:2 {COL 373.4}COLTh 336.2

    พระคริสต์ทรงเชิญชวนให้ทุกคนคิดบัญชีด้วยความจริงใจสัตย์ซื่อ จงวางพระเยซูบนจานตาชั่งด้านหนึ่งซึ่งหมายถึงสมบัติ ชีวิต ความจริงนิรันดร์ สวรรค์และความชื่นชมยินดีของจิตวิญญาณที่ได้รับการไถ่ในพระคริสต์ ส่วนอีกด้านหนึ่งให้ใส่สิ่งที่น่าสนใจทุกอย่างที่โลกนี้จะมอบให้ คราวนี้ให้เอาจิตวิญญาณที่หลงหายของท่าน และจิตวิญญาณของคนอื่นที่ท่านน่าจะมีส่วนช่วยเหลือให้ปลอดภัยวางไว้บนจานตาชั่งอีกด้านหนึ่งและส่วนอีกด้านหนึ่งให้เอาชีวิตของท่านและชีวิตของคนอื่นๆ เทียบกับชีวิตของพระเจ้า จงชั่งสำหรับเวลานี้และสำหรับเวลาอันเป็นนิรันดร์ ขณะที่ท่านกำลังกระทำสิ่งเหล่านี้อยู่ พระคริสต์ตรัสว่า “ เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน” มาระโก 8:36 {COL 374.1}COLTh 336.3

    พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราเลือกสิ่งของในสวรรค์แทนสิ่งของในโลกนี้ พระองค์ทรงเปิดทางให้เราลงทุนเพื่อกิจการในสวรรค์ ทรงปรารถนาให้การหนุนใจสำหรับเป้าหมายชีวิตที่สูงส่ง พระองค์ประทานหลักประกันสำหรับสมบัติที่มีค่ามากที่สุด พระองค์ตรัสว่า “เราจะทำให้หาคนนั้นยากกว่าการหาทองคำนพคุณและการหามนุษย์ยากกว่าการหาทองคำแห่งโอฟีร์” อิสยาห์ 13:12 ในขณะที่ทรัพย์สมบัติซึ่งมอดกินได้และสนิมกัดกร่อนถูกกวาดทิ้งไปแล้วนั้น ผู้ติดตามตามพระคริสต์จะชื่นชมยินดีในสมบัติสวรรค์ของพวกเขาซึ่งเป็นทรัพย์ที่ไม่เสื่อมสลาย {COL 374.2}COLTh 336.4

    การเป็นมิตรกับผู้ที่พระคริสต์ทรงไถ่ให้รอดแล้วดียิ่งกว่ามิตรภาพทั้งหลายของโลก การเป็นเจ้าของปราสาทที่พระเป็นเจ้าทรงไปจัดเตรียมให้เรานั้นจะดียิ่งกว่าการเป็นเจ้าของราชวังที่สวยงามที่สุดของโลกนี้ และคำชมของพระผู้ช่วยให้รอดที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ซื่อสัตย์เมื่อพระองค์ทรงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายที่ได้รับพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักรซึ่งเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก” มัทธิว 25:34 ก็ดียิ่งกว่าคำเยินยอใดๆ ของโลก {COL 374.3}COLTh 337.1

    สำหรับคนที่ใช้ทรัพย์สินเงินทองของพระองค์ไปอย่างสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย พระคริสต์ก็ยังประทานโอกาสที่จะให้เขาได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ยั่งยืนนิรันดร์ พระองค์ตรัสว่า “จงให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับด้วย” “จงทำถุงใส่เงินสำหรับตนซึ่งไม่รู้เก่า คือมีทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ซึ่งไม่รู้หมดสิ้น ที่ขโมยไม่ได้เข้ามาใกล้และที่ตัวแมลงไม่ได้ทำลาย” ลูกา 6:38 , 12:33 “ส่วนพวกที่มั่งคั่งในชีวิตนี้.....จงกำชับพวกเขาให้ทำการดี ให้ทำการดีมากๆ ให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน การทำเช่นนี้เป็นการสะสมทรัพย์ที่เป็นรากฐานอันดีสำหรับตนในภายหน้า เพื่อพวกเขาจะยึดมั่นในชีวิตคือชีวิตที่แท้จริงนั้น” 1 ทิโมธี 6:17-19 {COL 374.4}COLTh 337.2

    ดังนั้นจงให้สมบัติของท่านไปสวรรค์ก่อนตัวท่าน จงสะสมทรัพย์สมบัติไว้ข้างพระบัลลังก์ของพระเจ้า จงมั่นใจว่าท่านมีชื่อว่าเป็นผู้มีทรัพย์สมบัติอันหาค่าเปรียบไม่ได้ของพระคริสต์ “จงทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยเงินทองอธรรม เพื่อที่ว่าเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่อาศัยตลอดไป” ลูกา 16:9 {COL 375.1}COLTh 337.3

    *****