Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 2

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    สิ่งที่ช่วยเตือนใจเรา
    ให้ระลึกถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริศต์

    ขณะที่พระเยซูประทับอยู่ที่โต๊ะเสวยพร้อมด้วยเหล่า สาวกของพระองค์ พระองค์ได้ตรัสด้วยน้ำเสียงอันเศร้า สลดเป็นที่จับใจว่า “เรามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกิน ปัศคานี้กับพวกท่าน ก่อนเราจะต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วย เราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินปัศคานี้ต่อไปจนกว่าจะ สำเร็จความหมายของปัศคานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า” พระองค์ทรงหยิบจอกขอบพระคุณแล้วตรัสว่า “จงรับจอก นี้แบ่งกันกิน เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่กินน้ำ องุ่นนี้ต่อไป จนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมาตั้งอยู่แล้ว” (ลูกาบท 22:15 — 18)CChTh 22.2

    แต่การถือศีลระลึก มิใช่โอกาสที่เราจะแสดงความ เศร้าโศกเสียใจ พิธีถือศีลระลึกมิได้มีความมุ่งหมายเช่นนี้ ขณะที่เหล่าสาวกของพระเยซูนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับ พระองค์ เขาไม่ต้องระลึกถึงและนึกเศร้าเสียใจถึงข้อบก พร่องของเขา เขาไม่ต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว เกี่ยวกับกิจการในด้านการประกาศศาสนาของเขา ไม่ว่า เหตุการณ์นั้นจะทำให้เขามีใจชื่นชมยินดีหรือมีความทุกข์ เขาต้องไม่นึกถึงความแตกต่างกันระหว่างตัวเขาเองกับ พวกพี่น้องของเขา เขาได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้หมดแล้ว เมื่อ เขาเตรียมจิตใจก่อนจะถือศีลระลึก เขาได้พิจารณาสอบ สวนตัวเอง สารภาพความผิดบาปและมีความสามัคคีปรอง ดองกับพวกพี่น้องของเขาCChTh 23.1

    เวลานี้เขาได้มาพบปะกับพระเยซู เขาไม่ต้องยืนอยู่ ภายใต้เงากางเขน แต่ยืนอยู่ในแสงสว่างแห่งไม้กางเขนที่ จะช่วยให้เขาได้รับความรอด เขาต้องเปิดจิตวิญญาณออก รับแสงสว่างอันแรงกล้าของพระสุริยันแห่งความชอบธรรม ด้วยจิตใจที่ได้รับการชำระให้สะอาดแล้วด้วยพระโลหิตอัน ประเสริฐของพระเยซู เขาทราบว่าพระองค์ร่วมอยู่ในพิธี นี้ด้วย แม้ว่าจะมองไม่เห็นพระองค์ เขาได้ยินพระสุรเสียง ของพระองค์ตรัสว่า “เรามอบความสุขไว้แก่ท่านทั้งหลาย ความสุขของเรา ๆ ให้แก่ท่าน เราให้แก่ท่านไม่เหมือน โลกให้” (โยฮันบท 14 ข้อ 27)CChTh 23.2

    ขณะที่เรากินขนมปังและดื่มน้ำองุ่น ซึ่งเป็นเครื่อง หลายเล็งถึงพระกายของพระคริศต์ที่ถูกฟกช้ำ และพระ โลหิตของพระองค์ที่ต้องหลั่งไหล เพื่อความผิดบาปของ เราทั้งหลายเราได้คิดว่า เราได้เข้าร่วมอยู่ในพิธีถือศีลระลึก ในห้องชั้นบนกับพระเยซูและเหล่าสาวกของพระองค์ เรา รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้ผ่านเข้าไปในสวนเก็ธเซมาเนที่พระ องค์ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน เพราะพระองค์ต้องแบก ภาระแห่งความผิดบาปของมนุษย์ทั้งหลาย เราได้เห็นการ การต่อสู้ชิงชัยระหว่างพระคริศต์กับซาตาน เพื่อจะให้เรา กลับเป็นไมตรีกับเจ้า พระคริศต์ถูกตรึงบนไม้กางเขนใน ท่ามกลางพวกเราCChTh 24.1

    เมื่อเรามองดูพระผู้ไถ่ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนเราก็ยิ่ง เข้าใจความหมายแห่งการเสียสละของพระผู้ทรงฤทธานุ- ภาพแห่งแผ่นดินสวรรค์ ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นแผนการแห่ง ความรอดได้ถูกยกย่องเชิดชูไว้ต่อหน้าเรา และการที่เรา คิดถึงกางเขนแห่งคาลวารี จะช่วยให้เรามีความรู้สึกอัน ศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นในใจเรา คำสรรเสริญพระเจ้าและพระ เมษโปดกจะมีอยู่ในใจและที่ริมฝีปากของเรา เพราะผู้ที่ ระลึกถึงภาพกางเขนแห่งคาลวารี จะไม่มีความเย่อหยิ่ง จองหองและการยกย่องเชิดชูตัวเองอยู่ในจิตใจอีกเลยCChTh 25.1

    เมื่อเราคิดถึงการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ของพระเยซู คริศต์ด้วยความเชื่อจิตวิญญาณของเราก็มีส่วนร่วมในชีวิต ฝ่ายวิญญาณจิตของพระคริศต์ เราจะได้รับกำลังอันเข้มแข็ง ฝ่ายวิญญาณจิตทุกๆ ครั้งที่เราถือศีลระลึก พิธีนี้ช่วยให้ผู้ เชื่อถือมีความสัมพันธ์กับพระคริศต์ และพระบิดาผู้อยู่ใน สวรรค์ หรือถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่งคือพิธีนี้ช่วยให้มนุษย์มี ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นพิเศษCChTh 25.2

    พิธีถือศีลระลึกเป็นเครื่องหมายเล็งถึงการเสด็จกลับ มาครั้งที่สองของพระเยซู พิธีนี้ตั้งไว้เพื่อช่วยให้ความหวัง เกี่ยวกับการเสด็จมาของพระคริศต์มีอยู่ในใจของเหล่า สาวก เมื่อเขามาร่วมประชุมกันเพื่อถือศีลระลึก เขาได้ ระลึกถึงการที่ “พระองค์ทรงหยิบจอกมาโมทนาพระคุณ ส่งให้เขาและตรัสว่า “จงกินจากจอกนี้ทุกคนเถิด ด้วย นี่เป็นโลหิตแห่งคำสัญญาของเรา ซึ่งต้องเทออกเพื่อไถ่ โทษคนเป็นอันมาก เราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินผล แห่งต้นองุ่นนี้ต่อไปอีกจนกว่าวันนั้นจะมาถึง คือวันที่เราจะ กินกับพวกท่านใหม่ในแผ่นดินแห่งพระบิดาของเรา” (มัด ธายบท 26 ข้อ 27 ถึง 29) ในยามที่เหล่าสาวกได้รับความ ยากลำบาก เขารู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อคิดว่าพระเยซูจะเสด็จ กลับมาอีก เขาระลึกถึงถ้อยคำที่พระเยซูตรัสว่า “เมื่อ ท่านกินขนมปังและดื่มจากจอกนื้เวลาใด ท่านก็ประกาศ การวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะ เสด็จมา” (โกรินโธฉบับต้นบท 11 ข้อ 26)CChTh 25.3

    สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะไม่มีวันลืมเสียได้ ความรัก ของพระเยซูซึ่งมีอำนาจชักจูงจิตใจเราให้ทำสิ่งที่ดีต้องเป็น สิ่งที่เราระลึกถึงอยู่เสมอ พระคริศต์ได้ทรงตั้งพิธีนี้ขึ้นเพื่อ จะแสดงให้เห็นความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเราทั้งหลายโดย อาศัยพระคริสต์จิตวิญญาณของเรา จึงมีความสัมพันธ์กับ พระเจ้าได้ ความรักของพระเยซูช่วยให้เกิดความสามัคคี ปรองดองและความรักระหว่างพี่น้อง ความรักนี้เป้นความ รักที่ยังยืนมั่นคงอยู่ตลอดกาล และไม่มีสิ่งในนอกจาก ความตายของพระคริสต์ที่ทำให้ความรักของพระองค์บังเกิด ผลสำหรับเรา โดยความตายของพระองค์อย่างเดียวเท่า นั้น เราจึงสามารถจะรอคอยการเสด็จกลับมาครั้งที่สอง ของพระองค์ด้วยความชื่นชมยินดี การเสียสละของพระ คริศต์เป็นศูนย์กลางแห่งความหวังของเรา และเราต้องมี ความเชื่ออย่างมั่นคงในสิ่งนี้CChTh 26.1

    * * * * *