จงช่วยเหลือมนุษย์ให้ช่วยตัวเอง
โดยการแนะนำสั่งสอนให้ลงมือปฏิบัติจริง ๆ เรา สามารถจะช่วยเหลือคนยากจนให้เป็นผลสำเร็จได้ โดย ธรรมดาจะช่วยเหลือคนยากจนให้เป็นผลสำเร็จได้ โดย ธรรมดาทั่ว ๆ ไปคนที่ไม่ได้รับการฝึกหัดอบรมให้ทำงาน ย่อมไม่มีความเคยชินต่อการประกอบอาชีพ คนเหล่านี้ไม่ มีความพากเพียรพยายาม ไม่รู้จักมัธยัสถ์ และไม่มีการ เสียสละความสุขของตัวเองเพื่อผู้อื่น เขาไม่รู้จักจัดการ อะไรเลย การที่เขามีความประมาทเลินเล่อและขาดการ ตัดสินใจอย่างถูกต้องทำให้เขาต้องหมดเปลืองเกินกว่าที่จำ เป็นและเขาสามารถจะเก็บเงินทองไว้สำหรับใช้ในครอบครัว ได้ถ้าหากเขารู้จักจับจ่ายใช้สอยอย่างมัธยัสถ์ “ไร่นาของ คนจนก็ยังมีอาหารบริบูรณ์ แต่ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจาก การทุจจริตจะพินาศไป”MHTH 333.2
เราอาจจะให้เงินทองแก่คนยากจน และทำให้บัง เกิดผลร้ายแก่เขาโดยสอนให้เขาพึ่งพาอาศัยผู้อื่น การให้ เงินทองเช่นนี้ทำให้คนเหล่านั้นมีความเห็นแก่ตัว และเป็น คนอ่อนแอไม่รู้จักพึ่งตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคนยากจน เหล่านั้นก็มักจะเกียจคร้าน, ใช้จ่ายเงินทองสุรุ่ยสุร่ายและ ชอบเสพของมึนเมา ทุก ๆคนที่สามารถจะทำมาหาเลี้ยง ชีพเองได้ไม่มีสิทธิ์ที่จะพึ่งพาอาศัยผู้อื่น สุภาษิตที่ว่า “โลก มีหน้าที่ ๆ จะเลี้ยงข้าพเจ้านั้น” มีความหมายที่บ่งถึงการ พูดเท็จ, การฉ้อโกงและลักขะโมย โลกไม่มีหน้าที่ ๆ จะ ต้องเลี้ยงผู้หนึ่งผ้ใดที่สามารถจะทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้MHTH 334.1
การบริจาคทรัพย์ช่วยเหลือคนยากจนอย่างแท้จริง นั้น ช่วยให้มนุษย์รู้จักช่วยตัวเอง ถ้าไม่มีใครคนหนึ่งมาที่ ประตูบ้านของเราและขออาหาร เราไม่ควรจะไล่ให้เขา ไปโดยปล่อยให้เขาหิวโหย ความยากจนของเขาอาจจะ เป็นผลเนื่องจากเขาต้องประสพเคราะห์ร้ายก็ได้ แต่ความ เมตตากรุณาที่แท้จริงมิได้หมายถึงการบริจาคทรัพย์ช่วย เหลือคนยากจนอย่างเดียวเท่านั้น สิ่งนี้หมายถึงความเอา ใจใส่ต่อความเป็นอยู่ของผู้อื่นอย่างแท้จริง เราควรจะ พยายามเข้าใจว่าตนยากจนมีความต้องการอะไร และมี ความยากลำบากอะไรบ้าง และพยายามให้สิ่งที่มีประโยช์ แก่เขามากที่สุด การที่เราจะช่วยเหลือคนยากจนโดยยอม เสียสละความคิด, เวลา และใช้ความพากเพียรพยายาม ของเราเป็นส่วนตัวย่อมมีคุณค่ามากมายยิ่งกว่าการให้เงิน ทองเท่านั้น แต่ก็เป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างจริงใจที่สุดMHTH 334.2
คนทั้งหลายที่ได้รับการอบรมสั่งสอนให้รู้จักทำ งานเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองย่อมจะรู้จักใช้เงินทองที่หามาได้ นั้นให้เป็นประโชน์มากที่สุด และในการรู้จักพึ่งตัวเองนั้น เขามิใช่แต่เพียงจะทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเองเท่านั้น แต่ยัง สามารถจะช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย จงสอนผู้ที่ใช้เวลาให้ หมดเปลืองไปให้รู้จักว่าหน้าที่ในชีวิตของเขานั้นมีความ สำคัญมากเพียงไร จงแสดงให้เขาเห็นว่าศาสนาของพระ คัมภีร์ไม่เคยทำให้มนุษย์เป็นผู้เกียจคร้าน พระคริสต์ทรง สนับสนุนให้เราทำงานเสมอ พระองค์ตรัสแก่ผู้ที่เกียจคร้าน ว่า “เหตุไรจึงยืนอยู่ที่นี่ตลอดวัน โดยไม่ทำงานอะไร ? เราต้องทำการของพระองค์ที่ทรงใช้เรามาเมื่อยังวันอยู่ ค่ำคืนจะมาเมื่อไม่มีผู้ใดทำการได้”MHTH 335.1