อิทธิพลในครอบครัว
“อิทธิพลของครอบครัวที่แท้จริง มีอำนาจเหนือ จิตใจและชีวิตของมนุษย์มากกว่ายิ่งกว่าอิทธิพลใด ๆ ในโลก”MHTH 659.1
ครอบครัวควรจะเป็นที่ ๆ น่าอยู่ และมีความสุขที่ สุดในโลกสำหรับเด็ก ๆ และเมื่อเด็กมีมารดาอยู่ด้วยใน ครอบครัว เขาก็มีความสุขเมื่อได้อยู่ในบ้าน เด็ก ๆ มี อารมณ์อ่อนไหว และมีธรรมชาติที่เต็มด้วยความรัก บิดา มารดาสามารถจะทำให้เด็ก ๆ มีความพอใจได้ง่าย และ ทำให้เด็ก ๆ มีความสุขได้ง่าย โดยวิธีอบรมสั่งสอนอย่าง อ่อนโยน โดยอาศัยถ้อยคำและการกระทำที่เต็มไปด้วย ความรัก มารดาสามารถจะทำให้บุตรรักใคร่สนิทสนมกับ ตนได้MHTH 659.2
เด็กเล็ก ๆ ชอบมีเพื่อนเล่น และอยู่คนเดียวไม่ใคร่ จะได้ เด็ก ๆ ต้องการความเห็นอกเห็นใจและความรัก สิ่งใดที่เด็กพอใจ เด็กก็คิดว่ามารดาจะพอใจด้วย และเป็น ธรรมดาที่เด็กจะไปหามารดาเมื่อมีความชื่นชมยินดี หรือมี ความทุกข์ มารดาไม่ควรจะทำเฉยเมย เมื่อเด็กนำเรื่อง เล็ก ๆ น้อย ๆ มาปรึกษาหารือ แม้จะเป็นว่าเรื่องนั้นเป็น เรื่องที่ไม่สำคัญ เด็ก ๆ จะเสียใจเมื่อมารดาแสดงอาการ เฉยเมยเช่นนั้น ความเห็นอกเห็นใจ และควมนิยมชมชื่น ของมารดาเป็นสิ่งประเสริฐสำหรับบุตร เมื่อมารดามองดู บุตรด้วยความพอใจ และกล่าวด้วยถ้อยคำชมเชย บุตรก็จะ มีความสุขไปได้ตลอดวันMHTH 659.3
แทนที่มารดาจะบอกเด็กให้ไปเล่นที่อื่น เพราะไม่ อยากให้เด็กส่งเสียงเอะอะหรือกวนจะเอานั่นเอานี่ มารดา ควรจะหาอะไรให้เด็กเล่นหรือหางานเบา ๆ ให้ทำ เพื่อให้ เด็กเพลิดเพลิน เด็ก ๆ จะมีความไว้วางใจในมารดา ถ้า มารดาเข้าใจความรู้สึกของเด็ก และคอยชักจูงให้เด็กทำ งานและเล่นสนุกสนาน เมื่อเด็กมีนิสัยไม่ดี มารดาก็สามาร จะดัดแปลงแก้ไขได้โดยง่าย โดยอาศัยความอดทน, ความ รัก, และหมั่นเฝ้าระวังดูแลบุตร มารดาสามารถชักจูง ให้เด็กประพฤติสิ่งที่ดีที่ถูกได้ และเมื่อเด็กเติบโตขึ้นเด็กจะ มีอัธยาศัยดีงามMHTH 660.1
มารดาควรอบรมสั่งสอนบุตรให้รู้จักพึ่งตัวเอง และไม่คิดถึงแต่ตัวเอง อย่าชักจูงให้บุตรคิดว่า คนอื่น ๆ จะต้องเอาใจใส่ต่อเขาคนเดียว บิดามารดาบางคนใช้เวลา มากมายในการเอาใส่ต่อบุตร และหาอะไร ๆ มาให้บุตร เล่นเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน แต่เด็กควรจะเล่นอะไร ๆ เองให้เพลิดเพลินได้โดยไม่ต้องอาศัยผู้อื่น โดยประการ ฉะนี้แหละ เด็กจะมีความพอใจในการเล่นเพลิดเพลินอย่าง ง่าย ๆ เด็กควรจะได้รับคำสอนให้อดทนต่อความยากลำบาก และความผิดหวังอย่างกล้าหาญ แทนที่จะให้เด็กเอาใจใส่ ต่อความเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรพยายามชักจูงเด็กให้ คิดถึงเรื่องอื่น และไม่เอาใจใส่ต่อความยากลำบากเล็ก ๆ น้อย ๆ จงหัดให้เด็กรู้จักคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตัวเองMHTH 661.1
แต่บิดามารดาไม่ควรจะเพิกเฉยละเลย ต่อบุตรเสีย ทีเดียว เมื่อมีภาระอันหนักหลายอย่าง บางครั้งมารดา ก็รู้สึกว่าไม่มีเวลาจะอบรมสั่งสอนบุตรด้วยความอดทน และให้ความรักและความเห็นใจบุตร แต่บิดามารดาควร จำไว้ว่าถ้าบุตรไม่ได้รับความเป็นเพื่อน และความเห็นอก เห็นใจจากบิดามารดา เขาก็จะแสงหาสิ่งนี้จากที่อื่น การ ที่เป็นเช่นนี้จะทำให้เด็กมีอุปนิสัยเสียไปMHTH 661.2
มารดาหลายคนไม่ยอมใช้เวลาเล่นสนุกกับบุตร เพราะมัวแต่ทำงานบางอย่างที่ต้องเสียเวลา โดยไม่มีประ โยชน์ เช่น เย็บปักถักร้อย เพื่อเป็นเครื่องประดับบ้าน สิ่งเหล่านี้กลับจะช่วยให้เด็กฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม และใช้จ่าย เงินทองอย่างสุลุ่ยสุร่าย เมื่อเด็กเติบโตขึ้นถึงวัยหนุ่มสาว สิ่งที่ได้เคยเห็นและเรียนรู้ในสมัยเด็ก ๆ จะทำให้เขามีความ เย่อหยิ่ง และใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย มารดามีความ เศร้าเสียใจเมื่อเห็นความผิดพลาดของบุตร แต่หารู้สึกไม่ ว่า ตัวเองเป็นผู้เก็บเกี่ยวพืชผลที่ได้หว่านไว้เองMHTH 662.1
มารดาบางคนไม่มีความสม่ำเสมอ ในการอบรม เลี้ยงดูบุตร บางครั้งก็ตามใจจนเกินควร แต่บางครั้งก็ไม่ ยอมให้เด็กทำอะไรตามความพอใจของเด็ก ในเรื่องเช่นนี้ เขามิได้ปฏิบัติตามแบบอย่างของพระคริสต์ พระองค์ทรงรักเด็ก ๆ และเข้าใจความรู้สึกของเด็ก ๆ พระองค์ทรง เห็นอกเห็นใจ เห็นใจเมื่อเขามีความทุกข์หรือความสุขMHTH 662.2