นิยายที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศาสนา
ที่เล่าต่อ ๆ กันมา
ในการเตรียมตัวที่จะทำงานของคริสเตียน หลาย คนคิดว่า การมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และหนังสือ ฝ่ายศาสนาเป็นสิ่งที่สำคัญ เขาคิดว่าความรู้นี้จะช่วยเขา ในการสอนกิตติคุณประเสริฐ แต่การที่เขาใช้เวลาศึกษา เล่าเรียนในสิ่งที่เกี่ยวกับความคิดเห็นของมนุษย์ ทำให้ ความสามารถในการประกาศศาสนาของเขาลดน้อยลงแทน ที่จะทำให้เขามีความสามารถมากขึ้น เมื่อข้าพเจ้าเห็นห้อง สมุดเต็มไปด้วยหนังสือนิยายอิงประวัติศาสตร์ และศาสนา ข้าพเจ้าก็คิดว่า เหตุไรเราจึงใช้เงินซื้อสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร ? โยฮันบท ๖ ได้กล่าวไว้ว่า พระคริสต์ทรงตรัสว่า “เรา เป็นอาหารแห่งชีวิต ผู้ใดมาหาเราผู้นั้นจะไม่หิวโหย และ ผู้ที่เชื่อในเราผู้นั้นจะไม่หิวกระหายอีกเลย” “เราเป็น อาหารที่มีชีวิตอยู่ซึ่งลงมาจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดจะกินอาหาร นี้ ผู้นั้นจะมีชีวิตชั่วนิรันดร์” “ผู้ที่วางใจในเราก็มีชีวิต ชั่วนิรันดร์” “ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้น ก็เป็นวิญญาณ และเป็นชีวิต”MHTH 761.2
มีการศึกษาเล่าเรียนประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง ซึ่ง ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับศาสนา เป็น วิชาอย่างหนึ่งในโรงเรียนของศาสดาพยากรณ์ ตามประ วัติศาสตร์ของชนชาติยิว เราจะเห็นได้ว่าพระยะโฮวาได้ ปฏิบัติต่อชนชาตินั้นอย่างไร ดังนั้นในทุกวันนี้เราจะต้อง พิจารณาการที่พระเจ้าทรงปฏิบัติชนชาตินั้นอย่างไร ดังนั้น ในทุกวันนี้เราจะต้องพิจารณาดูว่า คำพยากรณ์ได้สำเร็จ บริบูรณ์ในประวัติศาสตร์อย่างไร เราต้องศึกษาเล่าเรียน ถึงการที่พระเจ้าทรงพิทักษ์รักษามนุษย์ทั้งหลายไว้ และ ต้องเข้าใจถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลก เพื่อเราจะได้รู้ว่าชาติต่าง ๆ ต้องต่อสู้ขับเคี่ยวกันในวาระที่สุดปลายอย่างไร ถ้าใครคนหนึ่งทำสิ่งที่ชั่วร้าย คนอื่น ๆ ก็พลอยเสื่อมทราม ไปด้วยMHTH 762.1
แต่ในประวัติศาสตร์ตามที่เราศึกษาเล่าเรียนมีเรื่อง กล่าวถึงความสำเร็จและชัยชนะ, ความมีอำนาจรุ่งเรือง ของคน ๆ เดียว มนุษย์ไม่ได้เรียนรู้ถึงเรื่องกิจการของ พระเจ้าในการที่พระองค์ติดต่อเกี่ยวข้องกับมนุษย์ มีน้อย คนที่ได้เรียนรู้ถึงความมุ่งหมายของพระองค์ ในความ เจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมของชาติต่าง ๆ MHTH 763.1
วิชาความรู้เกี่ยวกับศาสนาส่วนมาก ที่สอนกันตาม โรงเรียน หรือที่นักเรียนได้เรียนรู้เป็นแต่เพียงเรื่องราว เกี่ยวกับมนุษย์ชาติ ไม่สามารถจะทำประโยชน์อะไรให้ เราได้มากนัก การที่หลายคนปรารถนาจะสะสมหนังสือ เหล่านั้นไว้ มิได้เป็นเพราะเขาต้องการจะได้อาหารสำหรับ บำรุงเลี้ยงจิตใจและจิตวิญญาณ แต่เป็นเพราะเขามีความ ทะเยอทะยานใจที่จะได้รู้จักกับนักปรัชญา และผู้ที่มีความ รู้เกี่ยวกับศาสนาMHTH 763.2
หนังสือที่เขียนขึ้นทุก ๆ เล่ม ไม่สามารถจะสอน ให้เราดำเนินชีวิตในทางบริสุทธิ์ชอบธรรมได้ พระเยซูตรัส ว่า “จงเรียนจากเรา จงเอาแกกของเราแบกไว้ จงเป็น คนอ่อนสุภาพ และมีใจอ่อนน้อมถ่อมลงเหมือนอย่างเรา” ความทนงตัวว่าท่านเป็นผู้มีสติปัญญาความรู้ จะไม่ช่วย อะไรท่านในการติดต่อเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ ที่กำลังจะ ถึงซึ่งความพินาศ เพราะขาดอาหารแห่งชีวิต ในการที่ ท่านศึกษาเล่าเรียนหนังสือนี้ ท่านก็ไม่ได้ปฏิบัติตามหลัก คำสอนที่ท่านได้เรียนรู้จากพระคริสต์ ผลที่ได้รับจากการ ศึกษาเล่าเรียนนี้ คือ คนเราไม่ได้รับอาหารบำรุงเลี้ยงฝ่าย จิตวิญญาณMHTH 763.3
พระผู้ช่วยให้รอดได้เสด็จมา “เพื่อเผยแพร่กิตติ คุณประเสริฐแก่คนยากจน” ในคำสอนของพระองค์ ๆ ทรงใช้ถ้อยคำที่ง่ายที่สุด และเครื่องหมายอย่างธรรมดา และมีคำกล่าวว่า “ฝูงชนฟังคำสอนของพระองค์ด้วยใจชื่นชมยินดี” ผู้ที่พยายามจะทำงานของพระองค์ในเวลานี้ ต้องการจะเข้าใจความหมายของบทเรียน ที่พระองค์ทรง สอนอย่างแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น พระคำของพระเจ้าผู้ทรงชีวิตอยู่ เป็นการศึกษาสูงสุด ในบรรดาการศึกษาทั้งหลาย คนทั้ง หลายที่ปรนนิบัติรับใช้ประชาชน จำเป็นจะต้องได้รับอาหาร แห่งชีวิต สิ่งนี้จะช่วยให้เขามีความเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณ จิต และเขาจะได้เตรียมตัวไว้ให้พร้อมสำหรับปรนนิบัติรับ ใช้ชนทุกชั้นMHTH 764.1