Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    “พระองค์กรงรวบรวมลูกแกะไว้ ไนออมพระกรของพระองค์”

    ในขณะที่พระเยซูทรงกำลังรักษาพยาบาลคนป่วยไข้อยู่ตามถนน หนทางในเมืองนั้น บรรดามารดาไต้อุ้มบุตรของตนที่กำลังป่วยและอาการ หนัก เบียดเสียดฝูงชนเข้าไปจนใกล้พอที่จะให้พระองค์ทรงทอดพระเนตร ไต้ {MH 38.1}MHTh 34.3

    ดูเถิด มารดาเหล่านี้มืสีหน้าซีดเซียว ท่าทางเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า และสิ้นหวัง แต่ถึงกระนั้น พวกนางก็ยังไม่ละความพยายามที่จะอุ้มบุตร ของตนและนำความทุกข์ยากลำบากเข้าหาพระผู้ช่วยให้รอด ในขณะที่ พวกนางถูกฝูงชนเบียดเสียดให้ถอยห่างออกไปนั้น พระคริสต์ทรงดำเนิน อย่างช้าๆ ตรงเข้าไปหา จนกระทั่งพระองค์ประทับอย่ฒื้องหน้าของพวกนาง ความหวังจึงเกิดขึ้นภายในจิตใจของพวกเขา นํ้าตาแห่งความปลาบปลื้ม ไหลรินอาบแก้มด้วยเพราะนางเห็นว่าพระองค์ทรงแสดงความสนพระทัย และเห็นพระเนตรของพระองค์ที่ได้ฉายแววแห่งความรักและความเมตตา กรุณา {MH 38.2}MHTh 34.4

    พระผู้ช่วยให้รอดทรงให้หญิงคนหนึ่งในหมู่ชนเกิดความไว้วางใจ ด้วยการตรัสว่า “บอกเรามาสิว่า เจ้าปรารถนาให้เราทำสิ่งใดให้เจ้า’, เธอ สะอื้นพลางทูลถึงความปรารถนาอันใหญ่หลวงของตนว่า “อาจารย์เจ้าข้า ขอโปรดรักษาลูกของดิฉันด้วยเถิด’‘ พระคริสต์ทรงรับเด็กคนนั้นมาจาก อ้อมแขนของเธอ และทรงสัมผัสร่างของเด็กน้อย จากนั้นโรคภัยโรคร้าย หายไปในบดดล เงาซีดแห่งความตายเลือนหายไป กระแสธารที่หล่อเลี้ยง ชีวิตไหลรินไปตามเส้นเลือดและกล้ามเนื้อเส้นเอ็นในร่างกายของเด็กคน นั้น ทำให้มีกำลังเรี่ยวแรงขึ้นมาใหม่ พระองค์ตรัสถ้อยคำที่ปลอบโยนจิตใจ และเปียมด้วยสันติสุขกับหญิงผู้เป็นมารดา จากนั้นหญิงอีกคนหนึ่งมีบุตร ป่วยหนักและต้องการให้พระองค์รักษาอย่างเร่งด่วนเช่นกัน ได้เข้ามาเฝืา พระองค์ พระคริสต์ทรงใช้ฤทธึ๋อำนาจที่ให่ชีวิตอีกครั้งและทุกคนต่างสรรเสริญ และถวายพระเกียรติพระองค์ผู้ทรงประกอบกิจอัศจรรย์ {MH 38.3}MHTh 35.1

    เรามักกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ในชีวิตของพระคริสต์ เราเอ่ยถึงบรรดา สิ่งมหัศจรรย์และการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ใต้ทรงกระทำ แต่การที่ พระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องเล็กน้อย กลับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ใ,ห้เห็นถึงความ ยิ่งใหญ่ของพระองค์มากยิ่งกว่า {MH 39.1}MHTh 35.2

    ชาวยิวมีธรรมเนียมนำเด็กไปหารับบี เพื่อให้อาจารย์วางมีออวยพร ให้แก่เด็กเหล่านั้น แต่พวกสาวกคิดว่าพระราชกิจของพระผู้ช่วยให้รอดนั้น มีความสำคัญมาก ไม่ควรให้เรื่องนื้มาขัดจังหวะ เมื่อพวกมารดาไต้เข้าเฝืา พระองค์คัวยความปรารถนาให้พระองค์อวยพระพรให้แก่บุตรของตนนั้น พวกสาวกต่างมองดูด้วยความรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาคิดว่าเด็กเหล่านี้เล็ก เกินกว่าที่จะได้รับประโยชน์จากการเข้าเฝัาพระเยซู และคิดเอาเองว่าพระองค์ ไม่พอพระทัยที่คนเหล่านั้นได้เข้าไปรบกวน แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระผู้ช่วย ให้รอดทรงเข้าพระทัยถึงความกังวลใจและภาระของมารดาในความพยายาม ให้การอบรมสั่งสอนบุตรของตนประพฤติชอบตามพระวจนะของพระเจ้า พระองค์ทรงไดยินคำอธิษฐานของพวกเขา พระองค์นั่นเอง ที่ทรงเป็นผู้นำ พวกเขาให้เข้าเฝัาต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ {MH 40.1}MHTh 35.3

    มารดาคนหนึ่งพาบุตรของเธอออกจากบานมาเพื่อจะเข้าเฝัาพระเยซู ระหว่างทางเธอเล่าความตั้งใจให้เพื่อนบานอีกคนหนึ่งฟัง เพื่อนบ้านคนนั้น อยากให้พระเยซูอวยพรแก่บุตรของเธอเช่นเดียวกัน ด้งนั้นจึงมีมารดาอีก หลายคนพาบุตรของพวกเธอไปด้วยกัน แม้ว่าเด็กบางคนมีอายุเกินวัย ทารก เป็นเด็กโตและเด็กหนุ่มแล้ว เมื่อมารดาเหล่านั้นทูลต่อพระองค์ด้วย ความขลาดกลัว ด้วยนํ้าตานองหน้า แสดงถึงความปรารถนาของตน พระ เยซูก็สดับฟังคำทูลขอด้วยพระทัยที่เห็นอกเห็นใจ ขณะเดียวกันทรง เฝืาดูว่าพวกสาวกจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่า พวกสาวกตำหนิหญิงเหล่านั้นและขับไล่ให้ออกไปเสีย ด้วยคิดว่าจะทำให้ พระองค์พอพระทัย พระองค์ทรงชี้ให้บรรดาสาวกเห็นถึงการกระทำที่ผิด พลาด ด้วยการตรัสว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆ เข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขา เลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น” มาระโก 10:14 พระองค์ทรงอุ้มเด็กขึ้นมาไวัในอ้อมพระกรของพระองค์ทรงวาง พระหัตถ์พวกเขาและประทานพระพรตามที่พวกเขาได้ตั้งใจไว้ {MH 41.1} มารดาเหล่านั้นด่างได้รับการปลอบใจ พวกเธอกลับบ้านไปพร้อม กำลังใจที่เข้มแข็งและได้รับพระพรตามที่พระคริสต์ทรงมีพระดำรัส ได้รับ การหนุนใจเพื่อแบกรับภาระต่อไปด้วยความยินดีและปฏิบัติหน้าที่เพื่อ บุตรของตนด้วยความหวัง {MH41.2}MHTh 36.1

    หากเราสามารถมองเห็นถึงชีวิตในวันข้างหน้าของเด็กเหล่านั้น จะ เห็นว่ามารดาได้เตือนบุตรของตนให้ระลึกถึงภาพในวันนั้นและได้ทบทวน พระดำรัสที่เปียมด้วยความรักของพระผู้ช่วยให้รอด เราจะเห็นว่า อีกหลาย ปีต่อมา บ่อยครั้งการจดจำถึงคำพูดเหล่านี้ ช่วยป้องกันมิให้เด็กเหล่านั้น พัดหลงหายไปจากทางที่ได้ยํ้าเตือนไว้ของผู้ที่ได้รับการไถ่โดยองค์พระผู้ เป็นเจ้าได้อย่างไร {MH 41.3}MHTh 36.2

    ทุกวันนี้ พระคริสต์ยังทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงกอปรด้วยพระ- ทัยกรุณาเหมือนครั้งที่ทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางมนุษย์ แท้ที่จริงพระองค์ยัง ทรงท่าหน้าเป็นผู้คอยช่วยเหลือของมารดาทั้งหลายเหมือนเมื่อครั้งที่พระองค์ ทรงอัุมเด็กเล็กในแผ่นดินยดาห็ใว่ในพระกรของพระองค์ เด็กๆ ในครอบครัว ของเราเป็นผู้ที่ทรงไถ่ไว้แล้วด้วยพระโลหิตของพระองค์ เช่นเดียวกับเด็ก ในสมัยก่อน {MH 41.4}MHTh 37.1

    พระเยซูทรงเข้าใจถึงภาระอันหนักในจิตใจของมารดาทุกคน พระองค์ ผู้ทรงมีมารดาที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับความยากจนและความขัดสน ทรงเห็น อกเห็นใจมารดาทุกคนที่ต้องตรากตรำท่างานหนัก พระองค์ผู้ทรงดำเนิน ในหนทางอันแสนไกลเพื่อช่วยปลดเปลื้องความทุกบ์ในจิตใจของหญิงชาว คานาอันเพียงคนหนึ่งนั้น ย่อมจะทรงกระท่าสิ่งเดียวกันให้แก่ผู้เป็นมารดา ในวันนี้ด้วยเช่นกัน พระองค์ผู้ทรงโปรดประทานบุตรชายเพียงคนเดียว ของหญิงม่ายชาวเมืองนาอินให้เป็นขึ้นมาจากความตาย และผู้ทรงทน ทุกข์ทรมานบนไม้กางเขนยังทรงระลึกถึงมารดาของพระองค์เอง ในทุกวัน นี้ พระองค์ย่อมรูสึกเห็นอกเห็นใจในความทุกข์โศกของมารดาทุกคน ทรง ปลอบประโยนและเกื้อหนุนจิตใจในยามที่เรามีความตรอมตรมและขัดสน {MH 42.1}MHTh 37.2

    ขอให้มารดาทั้งหลายผู้มีความยุ่งยากใจเข้าไปหาพระเยซู เธอทั้ง หลายจะได้รับพระคุณอย่างเพียงพอที่จะช่วยเหลือในการเอาใจใส่ดูแลบุตร ของตน ประตูได้เปิดไวให้กับมารดาทุกคนที่นำภาระของนางมาไว้แทบ พระบาทของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ผู้ตรัสว่า “ จงยอมให้เด็กเล็กๆ เข้า มาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย” มาระโก 10:14 พระองค์ยังคงเชื้อเชิญมารดา ทั้งหลายให้นำบุตรเล็กๆ ของตนมาให้พระองค์ทรงอวยพร {MH 42.2}MHTh 37.3

    ในบรรดาเด็กๆ ที่เหล่ามารดาได้นำมาเฟัาพระองค์นั้น พระเยซูทรง ทอดพระเนตรเห็นว่าเมื่อพวกเขาเติบโต เขาจะเป็นชายหญิงที่เป็นทายาท แห่งพระคุณและเป็นพลเมืองของอาณาจักรของพระองค์ และบางคนจะ ยอมทนทุกข์ทรมานจนถึงแก่ความตายเพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ พระองค์ทรงทราบดีว่าเด็กเหล่านี้จะยอมเชื่อฟังพระองค์และเต็มใจรับ พระองค์เป็นพระผู้ไถ่ของเขาได้ง่ายกว่าคนที่โตเป็นผูัใหญ่มีความเฉลียว ฉลาดทางฝ่ายโลกและมีจิตใจที่แข็งกระด้าง เมื่อพระองค์ทรงสั่งสอนพวก เขา ทรงโน้มพระองค์ลงมาเสมอกับเด็กเหล่านั้น พระองค์ผู้ทรงเดชานุภาพ แห่งสวรรค์ ทรงตอบคำถามของพวกเขาและอธิบายบทเรียนที่สำค้ญให้ เกิดกระจ่างแจ้ง แม้เด็กก็สามารถเข้าใจได้ พระองค์ทรงปลูกเมล็ดพนธุ แห่งความจริงไว่ในจิตใจของเขา ซึ่งอีกหลายปีต่อมาจะเจริญขึ้นและเกิด ผลจนถึงชีวิตนิรันดร {MH 42.3}MHTh 38.1

    เมื่อพระเยซูตรัสสั่งพวกสาวกไม่ให้กีดกันเด็ก ๆ ที่จะเข้ามาเฝืาพระองค์ นั้น พระองค์กำลังตรัสแก่ผู้ติดตามของพระองค’ในทุกยุคทุกสมัยเช่นเดียว กัน บอกให้เจ้าหน้าที่ในคริสตจักร ศิษยาภิบาล ศาสนาจารย์ พวกผู้ช่วย และคริสเตียนทุกคน พระเยซูทรงนำพาเด็กๆ ให้เข้ามาหาพระองค์และ ตรัสสั่งเราว่า “จงยอมให้พวกเด็กๆ เข้ามาหาเรา’, ประหนึ่งตรัสว่า พวก เด็กๆ จะเข้ามาหาพระองค์ หากเราไม่ขัดขวางพวกเขา {MH 42.4}MHTh 38.2

    อย่าให้อุปนิสัยที่ไม่เหมือนพระคริสต์ทำให้ผู้อื่นเข้าใจพระเยซูผิด เพี้ยนไป จงอย่าแสดงอาการเย็นชาและเกรี้ยวกราดใส่เด็กๆ จนทำให้พวก เขาถอยห่างไปจากพระองค์ อย่าเป็นเหตุให้เขารู้สึกว่าสวรรค์เป็นสถานที่ ไม่น่าอยู่เพราะท่านอยู่ที่นั่น อย่าพูดถึงเรื่องศาสนาดูประหนึ่งว่าเป็นสิ่งที่ เด็กไม่อาจเข้าใจได้ หรือทำราวกับว่าพวกเขายังไม่สมควรรับเอาพระคริสต์ ขณะเยาว์วัย อย่าทำให้พวกเขาฝังใจอย่างผิดๆ ว่าศาสนาของพระคริสต์ เป็นศาสนาแห่งความเศร้าหมอง และการที่พวกเขาจะเข้าไปหาพระผู้ช่วยให้ รอดจะต้องสละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให่ชีวิตสดใสร่าเริงออกไป {MH 43.1}MHTh 38.3

    ขณะทพระวญญาณบรสุทธทรง โนัมนัาวจตใจของเต็ก ๆ นั้น ขอให ร่วมมือในพระราชกิจของพระองค์ สอนพวกเขาว่าพระผู้ช่วยให้รอดกำลัง เรียกพวกเขาอยู่ ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้พระองค์ทรงชื่นชมยินดียิ่งไปกว่าการ ที่เด็กทั้งหลายถวายตัวแด่พระองค์ตั้งแต่ช่วงเบ่งบานของวัยเยาว์และช่วง ที่สดใสของชีวิต {MH 44.1}MHTh 38.4

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents