Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First
    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents

    “จงไปเกดและอย่ากำผิดอีก”

    เทศกาลอยู่เพิงเพิ่งจะสิ้นสุดลง พวกปุโรหิตและอาจารย์รับบีที่กรุง เยรูซาเล็มที่ร่วมสมคบคิดกันเพื่อจะจับผิดพระเยซู แต่ทุกอย่างก็ต้อง ล้มเหลว และเมื่อยามค์าคินมาถึงแล้ว “ ต่างคนต่างกลบไปบ้านของตน แต่พระเยซเสด็จไปยังภเขามะกอกเทศ” ยอห์น7:53;8:1 {MH86.1}MHTh 79.1

    เพื่อหลบลี้หนีจากความตื่นเต้นและความชุลมุนวุ่นวายภายใน เมือง จากฝูงชนที่อยากรู้อยากเห็นและพวกอาจารย์รับบีที่แฝงไว้ด้วยเล่ห์ เพทุบาย พระเยซูจึงเสด็จไปหาที่อันสงบเงียบภายใต้ซุ้มมะกอกเทศ ที่ซึ่ง พระองค์จะทรงอยู่ตามลำพิงกับพระเจ้าไต้ แต่เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่พระองค์ เสด็จกลับไปยังวิหารและเมื่อฝูงชนเข้ามาจับกลุ่มห้อมล้อมพระองค์แล้วจึง ทรงนั่งลงและตรัสสั่งสอนพวกเขา {MH 86.2}MHTh 79.2

    ไม่ช้าต่อมาพระองค์ถูกขัดขวาง มีพวกฟาริสีและอาลักษณ์กลุ่มหนึ่ง ไต้ฉุดลากหญิงผู้หนึ่งที่ตกอยู่ในอาการหวาดกลัวเข้ามาหาพระองค์ พวกเขา ไต้กล่าวหาด้วยนํ้าเสียงที่ดุด้น รุนแรงว่านางได้ละเมิดพระบญญัติข้อที่เจ็ดMHTh 79.3

    พวกเขาไดัผลักนาง ลัมลงต่อเบื้องพระพักตร์์ของพระเยซู แลัวเสแสรังทำ เป็นนับถือพระองค์ด้วยการทูลว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า หญิงคนนี้ถูกจับเมื่อ กำลังล่วงประเวณีอยู่ ในธรรมบ้ญญ้ตินั้นโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างคนเช่น นี้ให้ตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไรในเรื่องนี้” ยอห์น 8: 4, 5 {MH 87.1} การเสแสร้งทำเป็นนับถือพระองค์ก็เพื่อปกปิดแผนกลอุบายอัน หลักแหลมที่จะทำลายพระองค์ หากพระเยซูทรงตัดสินว่าหญิงนั้นไม่มี ความผิด พระองค์จะลูกกล่าวหาว่าพระองค์ทรงหมื่นประมาทกฎหมาย ของโมเสส แต่หากพระองค์ประกาศว่าหญิงนั้นมีความผิดสมควรที่จะรับ โทษถึงตาย พวกเขาก็จะฟ้องพระองค์ต่อพวกโรมันว่า พระองค์บงอาจถือ สิทธิ์ในการตัดสินลงโทษซึ่งเป็นสิทธิอำนาจของพวกโรมันแต่เพียงผู้เดียว เท่านั้น {MH 88.1}MHTh 79.4

    เคราะห์ร้ายที่ตัวสั่นเทิ้มด้วยความอับอาย ภาพของพวกที่มีตำแหน่งสูง ศักดิ์ที่มีสีหน้าอำมหิตไร้ความปรานี และไม่มีแม้แต่ความเห็นอกเห็นใจที่ มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พระทัยอันบริสุทธิ์ไร้มลทินของพระองค์ทรงเบือน พระพักตร์จากภาพเหล่านั้น พระองค์มิได้ทรงแสดงถึงสิ่งใดว่าพระองค์ ทรงได้ยินคำทูลถาม แต่พระองค์ทรงโน้มพระกายลง และทรงจ้องมอง ไปที่พื้นดิน และทรงใช้นิ้วพระหัตถ์เขียนลงบนผงคลีนั้น {MH 88.2}MHTh 80.1

    ด้วยความอดรนทนไม่ไหวที่พระองค์ทรงเนิ่นช้าและเห็นว่าพระองค์ ทรงแสดงท่าทีเมินเฉย บรรดาผู้กล่าวหาจึงได้ขยับเข้ามาใกล้เพื่อเร่งเร้าให้ พระองค์ทรงใส่พระทัยกับเรื่องนี้ แต่ขณะที่สายตาของพวกเขาได้เหลือบ ติดตามดูลายพระหัตถ์ของพระองค์ที่เขียนลงบนพื้นที่เบื้องพระบาทของ พระองค์ เสียงของพวกเขาก็แน่นิ่งไป เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้านั้นก็คือ ความผิดที่พวกเขาได้แอบกระทำไว้อย่างลับๆ ในชีวิต {MH 88.3}MHTh 80.2

    พระเยซูทรงลุกขึ้นและทรงจ้องมองไปที่พวกผู้หลักผู้ใหญ่ที่คิดวาง แผนร้ายต่อพระองค์ พระเยซูตรัสว่า “ผู้ใดในพวกท่านที่ไม่มีผิด ก็ให้ผู้นั้น เอาหินขว้างเขาก่อน” ยอห์น 8: 7 แล้วพระองค์ก็ทรงน้อมพระกายลง เขียนต่อไป {MH 88.4}MHTh 80.3

    พระองค์มิได้ทรงละเลยข้อกฎหมายของโมเสสหรือล่วงละเมิดสิทธิ อำนาจของชาวโรมัน ผู้กล่าวโทษพระองค์ต้องพ่ายแพไปอย่างราบคาบ บัดนี้เสื้อคลุมแห่งความบริสุทธิ์ที่เสแสร้งหลอกลวงได้ลูกฉีกออก พวกเขา ต้องเผชิญหน้ากับความอับอายและเหมือนจะต้องลูกประณามอยู่ต่อเบื้อง พระพักตร์ฃองพระเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ้ พวกเขาต่างรู้สึกสะดุ้งกลัว ด้วยเกรงว่าความชั่วร้ายที่ไต้แอบซ่อนไว่ในชีวิตจะลูกเปิดเผยออกต่อหน้า ฝูงชน พวกเขาจึงได้แอบถอยกลับไปอย่างเงียบๆ ด้วยศีรษะที่ก้มลงและ ทอดสายตาลงมองที่พื้น ปล่อยหญิงผู้เคราะห์ร้ายนั้นไว้กับพระผู้ช่วยให้รอด ผู้ทรงมืพระทัยเมตตาสงสาร {MH 88.5} พระเยซูทรงลุกขึ้นและทอดพระเนตรหญิงนั้นและตรัสว่า “พวกเขา ไปไหนหมด ไม่มีใครเอาโทษเจ้าหรือ นางนั้นทูลว่า พระองค์เจ้าข้า ไม่ มีผู้ใดเลย และพระเยซูตรัสแก่นางว่า เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเหมือนก่น จงไป เถิดและอย่าทำผิดอีก” ยอห์น 8: 1 0, 1 1 {MH 88.6}MHTh 80.4

    หญิงนั้นยืนตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอยู่เบื้องหน้าพระเยซู พระดำรัสของพระองค์ที่ว่า “ผู้ใดในพวกท่านที่ไม่มืผิด ก็ให้ผู้นั้นเอาหิน ขว้างเขาก่อน” เป็นเสมือนหนึ่งคำตัดสินประหารชีวิตนาง นางไม่กล้าเงย หน้ามองพระพักตร์ของพระผู้ช่วยให้รอด ได้แต่นึ่งเงียบคอยรับชะตากรรม ของตัวเอง แต่แล้วก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อนางเห็นว่า ผู้ที่กล่าวหานาง ได้จากไปอย่างเงียบ ๆ และอับอาย และแล้วนางก็ไดํยินถ้อยคำซึ่งให้ความ หวังแก่นางว่า “เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเหมือนกันจงไปเถิดและอย่าทำผิดอีก” จิตใจของนางไต้หลอมละลาย และนางไต้ซบกายลงแทบพระบาทของพระ เยซู นางสะอื้นไห้ด้วยความรักที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและไต้ สารภาพบาปของนางทั้งนํ้าตาแห่งความทุกข์ระทม {MH 89.1}MHTh 81.1

    สิ่งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มด้นชีวิตใหม่ของนาง เป็นชีวิตแห่งความ บริสุทธิ์และสันติลุขที่ใต้อุทิศถวายแด่พระเจ้า การที่พระเยซูได้ทรงยกชูจิต วิญญาณที่ได้หลงไปในบาปนี้ พระองค์ใต้ทรงกระทำการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ กว่าการรักษาโรคทางกายที่ร้ายแรงที่สุด พระองค์ทรงรักษาความเจ็บป่วย ในฝ่ายจิตวิญญาณที่นำไปสู่ความตายชั่วนิรันดร หญิงผู้สำนึกผิดคนนี้ได้ กลายมาเป็นสาวกผู้ติดตามของพระองค์ที่มืความภักดีมากที่สุดคนหนึ่ง นางได้แสดงออกถึงการขอบพระคุณในพระกรุณาธิคุณที่ทรงอภัยต่อ ความผิดบาปของนางด้วยความรักที่สำแดงออกในการเสียสละตนเองและ การอุทิศถวาย เกี่ยวกับหญิงผู้กระทำผิดนี้ โลกมีเพียงแต่คำดูหมื่นและ ความเหยียดหยาม แต่กับพระองค์ผู้ทรงปราศจากความผิดบาป พระองค์ ทรงเมตตาสงสารในความอ่อนแอของนางและทรงยื่นพระหัตถ์ออกไปเพื่อ ให้ความช่วยเหลือ ในขณะที่พวกฟาริสีผู้หน้าซื่อใจคดได้แต่กล่าวประณาม แต่พระเยซูทรงรับสั่งกับนางว่า “จงไปเถิดและอย่าทำผิดอีก” {MH 89.2}MHTh 81.2

    พระเยซูทรงตระหนักดีถึงสภาพจิตวิญญาณของทุกๆ คนว่า ความ ผิดบาปของเขายื่งมีมากเท่าใด เขาก็ยิ่งมีความต้องการพระผู้ช่วยให้รอด มากยิ่งขึ้นเท่านั้น พระหทัยของพระองค์ที่เปี่ยมด้วยความรักอันพิสุทธิ์และ ความเมตตาสงสารทรงเพรียกหาคนทั้งหลายที่ตกอยู่ในบ่วงแร้วของศัตรู อย่างไร้ซึ่งความหวัง ด้วยพระโลหิตของพระองค์ พระองค์ได้ทรงลงพระนาม ในหนังสือสำคัญที่ได้แสดงเจตจำนงว่าพระองค์จะทรงปลดเปลื้องมนุษย- ชาติให้พ้นจากพันธนาการ {MH 89.3}MHTh 82.1

    พระเยซูมิทรงปรารถนาให้ผู้ที่พระองค์ทรงไถ่ไว้ด้วยราคาอันสูงค่า เช่นนี้ต้องกลายเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในการทดลองของศัตรู พระองค์มิ ทรงปรารถนาให้เราต้องฟายแพ้และถึงซึ่งกับความพินาศ พระองค์ผู้ทรง ปิดปากสิงห์ในถํ้าสิงโตและทรงดำเนินร่วมกับพยานผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ร้อนแรง ทรงพร้อมที่จะประกอบกิจแทนเราเพื่อขจัด ความชั่วร้ายทุกประการที่อยู่ในธรรมชาติของเรา ในวันนี้พระองค์กำสัง ประทับอยู่ที่แท่นบูชาแห่งพระกรุณา ทรงกำลังนำค่าอธิษฐานของผู้ที่ ปรารถนาจะให้พระองค์ทรงช่วยเหลือทูลขอต่อพระเจ้า พระองค์จะมิ ทรงปฏิเสธผูัที่มีความโศกาอาดูรและมีจิตใจที่สำนึกผิด พระองค์ทรงเต็มMHTh 82.2

    พระทัยที่จะทรงอภัยให้แก่ทุกคนที่เข้ามาหาพระองค์เพื่อขอให้พระองค์ทรง ยกโทษในความผิดบาปและช่วยให้เราไต้กลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ชอบธรรม ด้งเดิม พระองค์มิได้ทรงบอกทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสามารถเปิดเผยไดให้แก่ มนุษย์ทุกคนแต่พระองค์ทรงรับสั่งแก่จิตวิญญาณของทุกคนที่เป็นทุกข์ให้ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง ผู้ใดที่ตั้งมั่นอยู่ในพระกำลังของพระเจ้าและได้คืนดิ กับพระองค์ พระองค์ก็จะทรงท่าสันติภาพให้เกิดขึ้น {MH 90.1}MHTh 82.3

    บรรดาจิตวิญญาณที่ได้เข้าลื้ภัยอยู่ในพระองค์นั้น พระเยซูจะทรง ยกชูเขาขึ้นให้พ้นจากลื้นที่กล่าวโทษและทะเลาะวิวาท ไม่มีมนุษย์คนใด หรือทูตสวรรค์ชั่วร้ายองค์ใหนที่สามารถจะกล่าวหาจิตวิญญาณเหล่านี้ได้ พระคริสต์ทรงโปรดให้พวกเขาไต้เข้าสนิทในธรรมชาติแห่งความเป็นพระ- เจ้าและความเป็นมนุษย์ของพระองค์เอง พวกเขาจะได้ยืนเคียงข้างกับพระ ผู้ทรงรับความผิดบาปไปภายใต้รัศมีที่ส่องมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า {MH 90.2}MHTh 82.4

    พระโลหิตของพระคริสต์ชำระให้ “ปราศจากบาปทั้งสิ้น” 1 ยอห์น 1:7 {MH 90.3}MHTh 83.1

    “ใครจะฟัองคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้ พระเจ้าทรงโปรด ให้พ้นโทษแล้ว ใครเล่าจะเป็นผู้ปรับโทษอีก พระเยซูคริสต์น่ะหรือ ผู้ทรง สิ้นพระชนม์แล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความ ตาย สถิต ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า และทรงอธิษฐานขอเพื่อ เราทั้งหลายด้วย” โรม 8:33, 34 {MH 90.4}MHTh 83.2

    พระคริสต์ทรงสำแดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีฤทธิ์อำนาจอันไม่จำกัด เหนือลมและคลื่นและผู้ที่ถูกผีเ’ข้าสิง พระองค์ผู้ทรงห้ามพายุและทำให้ท้อง ทะเลอันปันป่วนได้สงบลง ตรัสความสันติสุขให้บังเกิดขึ้นในจิตใจที่ว้าวุ่น สับสนและตกอยู่ภายใต้อำนาจของซาตาน {MH 91.1}MHTh 83.3

    ในธรรมศาลาที่เมืองคาเปอรนาอุม พระเยซูตรัสถึงพระราชภารกิจ ของพระองค์ที่จะทรงปลดปล่อยผู้ที่ตกเป็นทาสแห่งบาปให้ใต้เป็นอิสระ แต่ พระองค์ต้องทรงหยุดชะงักลงกลางคันเพราะมีเสียงหวีดร้องแหลมขึ้นมา อย่างน่ากลัว มีชายบ้าคลั่งคนหนึ่งวิ่งแร่ออกมาจากท่ามกลางคนเหล่านั้น และร้องเสียงดังว่า “พระเยซูชาวนาซาเร็ธ ท่านมายุ่งกับเราทำไม ท่านมา ทำลายพวกเราหรือ เรารู้ว่าท่านเป็นผูใด ท่านคือองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า” มาระโก 1:24 {MH 91.2}MHTh 83.4

    พระเยซูตรัสสำทับผีโสโครกนั้นว่า “จงนิ่งเสีย ออกมาจากเขาซีเมื่อ ผีนั้นได้ทำให้เขาล้มลงทำมกลางประชุมชน แล้วก็ออกมาจากเขาแต่มิได้ ทำอันตรายเขาเลย” ลูกา 4:35 {MH 91.3}MHTh 83.5

    สาเหตุที่ทำให้ชายผู้นี้ต้องทนทุกข์ทรมานนั้นเกิดมาจากชีวิตของ เขาเอง เขาได้ลุ่มหลงเพลิดเพลินอยู่กับความสนุกสนานที่ผิดบาปและได้ เที่ยวเตร่ประหนึ่งชีวิตเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ การขาดความยับยั้ง ชั่งใจ และการไม่ เอาจริง เอาจังในชีวิตจึงทำให้คุณสมบัติอันดีงามในอุปนิสัย ของเขาต้องเสื่อมทรามลงและซาตานได้เข้ามามีอำนาจควบคุมเหนือตัวเขา ได้อย่างสิ้นเชิง กว่าเขาจะรู้สึกเสียใจที่ได้ทำผิดไปก็สายเกินแก้แม้ว่าเขา จะยินดีสละทรัพย์สมบัติและความสุขที่มีอยู่เพื่อหวังจะได้ความเป็นมนุษย์ ของเขากลับคืนมา แต่เขาก็ช่วยตัวเองไม่ได้และหมดสิ้นหนทางเพราะได้ ตกอยู่ภายใต้อำนาจของซาตานแล้ว {MH 91.4}MHTh 83.6

    เมื่อเขาได้เข้ามาอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระผู้ช่วยให้รอด จึงเป็น สิ่งที่ดลจิตใจให้เขาปรารถนาที่จะได้เป็นอิสระ แต่ผีร้ายได้ต่อต้านฤทธิ์อานาจ ของพระคริสต์ เมื่อชายคนนี้พยายามวิงวอนขอให้พระเยซูทรงช่วยเหลือ เขา วิญญาณชั่วร้ายไดใส่คำพูดเข้าไปในปากและเขาไต้หวีดร้องออกมา ด้วยความเจ็บปวดทรมานอันเกิดจากความหวาดกลัวที่มีอยู่ภายใน ชาย ที่ถูกผีเข้าสิงพอที่จะเข้าใจได้บ้างว่าเขากำลังอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ของ พระองค์ผู้ทรงสามารถที่จะปลดปล่อยเขาให้ได้รับอิสรภาพได้ แต่เมื่อเขา พยายามที่จะมาให้ถึงพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ อำนาจอีกอย่างหนึ่งก็ได้เหนี่ยว รั้งเขาไว้มนใต้บ้นดาลให้เขากล่าวถ้อยคำอื่นๆ ออกมาแทน {MH 91.5} การต่อสู้ระหว่างอำนาจของซาตานและความปรารถนาของเขาเอง ที่จะได้เป็นอิสระนั้นเป็นไปอย่างรุนแรง ดูประหนึ่งว่าชายที่เจ็บปวดทรมาน อยู่นั้นจะต้องสูญเสียชีวิตของเขาในการดิ้นรนต่อสู้กับศัตรูที่ไต้เป็นต้นเหตุ ของความพินาศในวัยหนุ่มของเขา แต่พระผู้ช่วยให้รอดได้ตรัสสั่งด้วยสิทธิ อำนาจและทรงปลดปล่อยชายที่ตกเป็นเชลยให้เป็นอิสระ ชายคนที่ลูกผีสิง ยินอยู่ต่อหน้าฝูงชนที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่ได้เห็นเขาได้เป็นอิสระ และกลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง {MH 92.1}MHTh 84.1

    เขาได้สรรเสริญพระเจ้าด้วยความปีติยินดีที่ได้ทรงปลดเปลื้องเขา ออกจากบ่วงมาร ดวงตาถมึงทึงที่เมื่อก่อนเคยลุกเป็นไฟด้วยความบ้าคสั่ง แต่ปัดนี้ ได้ฉายแววแห่งความรูสึกนึกคิดและหยาดนํ้าตาที่ได้สำนึกในพระ มหากรุณาธิคุณได้เอ่อท้นเต็มเบ้า ฝูงชนเหล่านั้นพากันตะลึงง้นด้วยความ พิศวง และในทันทีที่ได้สติ พวกเขาพากันร้องอุทานถามว่า “การนี้เป็น อย่างไรหนอ เป็นคำสั่งสอนใหม่แน่ ท่านสั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและ มันจำต้องฟัง” มาระโก 1:27 {MH 92.2}MHTh 84.2

    ในทุกวันนี้มีผู้คนมากมายที่ได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของวิญญาณชั่ว ร้ายเช่นเดียวกับชายที่ถูกผีสิงในเมืองคาเปอรนาอูม คนทั้งหลายที่เจตนา จะละทิ้งพระบัญญ้ติของพระเจ้ากำลังมอบตัวเองไว้ภายใต้อำนาจการควบคุม ของซาตาน หลายคนไต้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความชั่วร้าย โดยคิดว่าตัวเองจะ สลัดความเลวร้ายนั้นให้หลุดพ้นออกไปไต้เมื่อเขาต้องการ แต่เขากลับถูก ล่อลวงให้หลงผิดมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งเขารู้สึกตัวว่าไต้ลูกบงคับ โดยอำนาจที่เข้มแข็งกว่า เขาไม่อาจที่จะหลีกหนีจากอำนาจลึกลับนี้ไต้ บาปอันลี้ลับหรือกิเลสตัณหาที่มืพลังอำนาจครอบงำย่อมจะกักเขาไว้เป็น เชลยอย่างสิ้นท่าเช่นเดียวกับคนที่ถกผีสิงในเมืองคาเปอรนาอุม {MH 92.3}MHTh 85.1

    ถึงกระนั้นสภาพของเขาก็ยังไม่ไต้หมดหวังเสียทีเดียว พระเจ้ามิ ทรงบงคับจิตใจของเราโดยที่เราไม่ยินยอม แต่มนุษย์ทุกคนมืเสรีที่จะเลือก ไต้ว่าเขาจะยอมให้อำนาจใดไต้ครอบครองเขา ไม่มืใครที่จะตกตาหรือชั่ว ช้า เกินกว่าที่จะไต้รับการปลดปล่อยให้หลุดพ้นจากอำนาจชั่วร้ายโดยพระ- คริสต์ คนที่ลูกผีสิงกล่าวไต้แต่เพียงคำพูดของซาตาน แทนที่จะเป็นคำ อธิษฐาน แต่กระนั้นพระเยซูก็ทรงไดยินคำวิงวอนร้องขอที่ไม่ไต้เอ่ยออก มาเป็นคำพูด แต่อยู่ภายในจิตใจของชายผู้นั้น พระองค์มืไต้ทรงมองข้าม จิตวิญญาณที่แม้มิไต้ร้องทุกข์ออกมาเป็นคำพูดก็ตาม คนทั้งหลายที่ไต้ ยอมเข้าร่วมในพ้นธสัญญากับพระเจ้าจะไม่ลูกทอดทิ้งให้ตกอยู่ภายใต้ อำนาจของซาตานหรือตกอยู่ภายใต้สภาพธรรมชาติอันอ่อนแอของเขาเอง {MH 93.1}MHTh 85.2

    “จะเอาเหยื่อไปจากผู้มีกำลัง....หรือจะช่วยเชลยของผู้ชนะให้พ้น ได้หรือ...พระเจ้าตรัสด้งนี้ว่า....แม้เชลยของผู้มีกำลังก็จะต้องเอาไป....และ เหยื่อของผู้น่ากลัวก็ต้องช่วยให้พ้น เพราะเราจะต่อสู้กบผู้ที่ต่อสู้เจ้า และ จะช่วยบุตรของเจ้าให้รอด” อิสยาห์49:24, 25 {MH 93.2}MHTh 85.3

    ความเปลี่ยนแปลงอันมหัศจรรย์จะก่อเกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เปิด ประฅูต้อนรับพระผัูช่วยให้รอด {MH 93.3}MHTh 85.4

    Larger font
    Smaller font
    Copy
    Print
    Contents