Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    ความยากลำบากกำไห้เกดการขัดเกลา

    การดำเนินชีวิตเช่นนี้ เพื่อทุ่มเทแรงชักจูงเช่นนี้ ต้องจ่ายตันทุนของ ความพากเพียรนี้ในทุกย่างก้าวด้วยการเสียสละส่วนตนและความมีระเบียบ วินัย เนื่องจากการไม่เข้าใจถึงสิ่งนี้ ทำให้หลายคนเกิดความท้อถอยไปอย่าง ง่ายดายในการดำเนินชีวิตของคริสเตียน หลายคนที่ยอมมอบถวายชีวิต ของตนเองเพื่อปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอย่างจริงใจ ต่างต้องประหลาดใจ และผิดหวังที่ตนเองต้องเผชิญกับอุปสรรคและประดังด้วยการทดลองและ เรื่องยุ่งยากใจอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน คนเหล่านี้ต่างอธิษฐานขอให้ มีความเหมือนในลักษณะนิสัยของพระคริสต์ เพื่อมีความเหมาะสมใน กิจการขององค์พระผู้เป็นเจ้า แต่คนเหล่านี้กลับตกอยู่ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ดูเหมือนจะขุดคุ้ยความเลวของอุปนิสัยให้สำแดงออกมา ข้อบกพร่อง ต่างๆ ที่เขาทั้งหลายไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมือยู่ในตัว เช่นเดียวกับ ชาวอิสราเอลในสมัยโบราณซึ่งได้ตั้งข้อสงสัยว่า “ถ้าพระเจ้าทรงนำเรา อยู่เหตุไฉนสิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นกับเรา” {MH 470.2}MHTh 533.3

    สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น ก็เพราะว่าพระเจ้ากำลังทรงนำเขา ทั้งหลายอยู่ การทดลองและอุปสรรคต่างๆ เป็นวิธีการที่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเลือกเพื่อขัดเกลาอุปนิสัยของเราให้มีระเบียบวินัยและเป็นข้อกำหนด เงื่อนไขของความสำเร็จของพระองค์ พระองค์ผู้ทรงสามารถอ่านจิตใจของ มนุษย์ ทรงรู้จักอุปนิสัยของเขาทั้งหลายได้ดีกว่าคนเหล่านั้นเองเสียอีก พระองค์ทรงเห็นว่า บางคนมีกำลังความสามารถและความเหมาะสมพร้อม ถ้าพวกเขาจะได้รับการแนะนำอย่างถูกต้อง ก็จะทำให้พระราชกิจของ พระองค์เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ในการจัดสรรของพระองค์ พระองค์ทรงวาง บุคคลเหล่านี้ไว้ในดำแหน่งและสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อเขาทั้งหลายจะ สามารถพบเจอข้อบกพร่องในอุปนิสัยของตนเองที่ลูกซุกซ่อนไว้โดยที่ ตัวเองไม่เคยรับรู้มาก่อน พระองค์ประทานโอกาสให้คนเหล่านี้ได้แก่ไขข้อ บกพร่องต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงตนเองให้มีความเหมาะสมในการปรนนิบัติรับ ใช้พระองค์ บ่อยครั้ง พระองค์ทรงอนุญาตให้ไฟแห่งความทุกข์ยากไดีโหม ไหม้คนเหล่านี้เพื่อชำระเขาทั้งหลายให้บริสุทธิ์ {MH 471.1} ความจริงที่เราประสบกับความยากลำบากจากการทดลองเหล่านี้ เป็นเครื่องแสดงว่าองค์พระเยซูเจ้าทรงเห็นบางสิ่งที่มีค่าในตัวเราที่พระองค์ ทรงปรารถนาจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น หากพระองค์ไม่ทรงเห็นถึงอะไรในตัว เราที่สามารถใช้เชิดชูพระสิริของพระองค์แล้ว พระองค์คงไม่ทรงเสียเวลา เพื่อขัดเกลาเรา พระองค์ก็คงไม่ทรงโยนหินที่ไร้ค่าเข้าไปในเตาหลอมของ พระองค์ พระองค์จะทรงหลอมเฉพาะแร่ที่มีค่าเท่านั้น ช่างดีเหล็กนำเหล็ก และเหล็กกล้าใส่ในไฟเพื่อจะทราบว่าเหล็กนั้นเป็นโลหะชนิดใด เฉกเช่น เดียวกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาตให้ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้แล้ว ได้ตกอยู่ในเตาหลอมแห่งความทุกข์ยาก เพื่อจะพิสูจน์ว่าเขาเหล่านั้นมี อุปนิสัยใจคอเช่นไร และพระองค์สามารถจะปันแต่งคนเหล่านั้นให้เป็นผู้ที่ เหมาะสมในพระราชกิจของพระองค์หรือไม่ {MH 471.2}MHTh 534.1

    ช่างปันหม้อนำดินเหนียวมานวดตามความต้องการของเขา เขา นวดและปันดินก้อนนั้น เขาแยกดินออกเป็นส่วนๆ แล้วกด รีดและนวดจน เนื้อดินเข้ากัน เขารดดินให้ชุ่มนํ้าแล้วผึ่งให้แห้ง ปล่อยทิ้งไว้สักฟกโดยไม่ แตะต้องมัน รอจนเนื้อดินแห้งได้ที่ในสภาพที่สามารถปันขึ้นรูปได้ เขาก็จะ ปันดินเป็นภาชนะ ด้วยการขึ้นรูปและแต่งรูปทรงบนแป้นหมุนวงล้อ เมื่อ ขึ้นรูปเสร็จ ก็จะนำไปผึ่งแดดแล้วจึงนำไปเผาในเตาเผาต่อไป ด้วยวิธีการ ตังนื้ ดินเหนียวก็จะกลายเป็นภาชนะที่สามารถจะนำไปใช้งานได้ ใน ท่านองเดียวกัน พระเจ้าผู้ทรงเป็นจอมโยธาทรงปรารถนาที่จะปันและ ตกแต่งเรา เช่นเดียวกับดินที่อยู่ในมือของช่างปันหม้อฉันใด เราก็จะอยู่ใน พระหัตถ์ของพระองค์ฉันนั้น เราต้องไม่พยายามที่จะท่างานของช่างปัน หน้าที่ของเราคือ การยอมจำนนตัวเราให้กับการปันแต่งของพระเจ้าผู้ทรง เป็นจอมโยธา {MH 471.3}MHTh 535.1

    “ดูก่อนท่านที่รัา อย่าประหลาดใจ ที่ท่านต้องได้รับความทุกข์ยาก อย่างแสนสาหัสเป็นการลองใจ เหมือนหนึ่งว่าเหตุการณ์อันประหลาดได้ เกิดขึ้นกับท่าน แต่ว่าท่านทั้งหลายจงชื่นชมยินดีในการที่ท่านได้มีส่วนร่วม ในความทุกข์ยากของพระคริสต์ เพื่อว่าเมื่อพระสิริของพระเจ้าปรากฎขิ้น ท่านทั้งหลายก็จะไต้ชื่นขมยินดีเป็นอันมากด้วย” 1 เปโตร 4:12, 13. {MH 472.1}MHTh 535.2

    ยามกลางวันที่มีแสงสว่างเจิดจ้าและมีเสียงอื่นๆ ดังมาเข้าหูของมัน นกที่อยู่ในกรงจะไม่สามารถหัดร้องเพลงที่นายของมันพยายามสอน มัน จะหัดได้แต่เสียงนี้นิด เสียงนั้นหน่อย แต่ก็ไม่อาจเรียบเรียงและขับขาน ทำนองทั้งบท แต่หากนายของมันเอาผ้ามาคลุมกรงนกไว้และน่ากรงไป แขวนไว้ในที่ๆ มันได้ยินแต่บทเพลงเพียงบทเดียวที่มันต้องหัดร้อง เมื่อ ตกอยู่ในความมีด นกตัวนั้นจะพยายามหัดร้องเพลงนั้นซํ้าแล้วซํ้าเล่า จน สามารถร้องเพลงนั้นไต้อย่างไพเราะ เมื่อเจ้าของนำนกออกจากความมีด ต่อจากนั้นมันก็สามารถร้องเพลงนั้นในที่มีแสงสว่างไต้ พระเจ้าทรงปฏิบต ต่อเหล่าบุตรของพระองค์ในลักษณะเช่นเดียวกัน พระองค์ทรงมีบทเพลง ที่จะสั่งสอนเรา ซึ่งเมื่อเราหัดร้องเพลงนั้นท่ามกลางเงามีดแห่งความทุกข์ ยากได้แล้ว เราก็จะสามารถร้องเพลงนั้นต่อมาในภายหลังได้ตลอดไป {MH 472.2}MHTh 536.1

    หลายคนไม่พึงพอใจในกิจการงานที่ตนเองทำในชีวิต ทั้งนี้อาจจะ เป็นเพราะสภาพแวดล้อมของสิ่งที่อยู่รอบกายของคนเหล่านั้นไม่เป็นที่ ถูกใจ คนเหล่านั้นใช้เวลาอยู่กับงานที่ซํ้าซาก เมื่อคิดว่าตนเองสามารถ ทำงานในหน้าที่รับผิดชอบที่สูงส่งกว่านั้นได้หลายครั้งคนเหล่านั้นมักจะ เสึกว่า ความพากเพียรพยายามของตนเองนั้นไร้ผล หรือไม่มีใครที่มอง เห็นคุณค่า อนาคตของเขาทั้งหลายจึงเริ่มสั่นคลอน {MH 472.3}MHTh 536.2

    ขอใหัเราระลึกไว้เสมอว่า แม้งานที่เราต้องทำไม่ใช่งานที่เราสมัคร ใจ เราก็ต้องยอมรับว่างานนั้นเป็นการทรงเลือกของพระเจ้าให้เราทำ ไม่ ว่าจะพอใจหรือไม่ เราต้องทำหน้าที่ๆ อยู่ใกล้ตัวของเรามากที่สุด “มือของ เจ้าจับทำการงานอะไร จงกระทำการนั้นด้วยเต็มกำลังของเจ้า เพราะว่า ในแดนคนตายที่เจ้าจะไปนั้น ไม่มีการงานหรือแนวความคิด หรือความรู้ หรือสติปัญญา” ปัญญาจารย์9:10 {MH 472.4}MHTh 536.3

    หากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระประสงค ให้เราน่าข่าวประเสริฐไป ประกาศที่เมืองนีนะเวห์ พระองค์ก็คงไม่ทรงพอพระทัยหากเราจะน่าข่าว นั้นไปประกาศยังเมืองยัฟฟาหรือเมืองคาเปอร์นาอูม พระองค์ทรงมีเหตุผล ใช้เราไปยังที่ๆ ย่างเท้าของเราถูกกำหนดให้มุ่งหน้าไป อาจจะมีใครบางคน ที่นั่น ที่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือที่เราสกมารถช่วยเขาได้ พระองค์ผู้ ทรงส่งฟีลิปไปหาข้าราชการชาวเอธิโอเปีย ส่งเปโตรไปหานายร้อยชาว โรมัน และส่งสาวใช้เด็กหญิงชาวอิสราเอลไปช่วยนามานแม่ทัพชาวซีเรีย ในวันนี้พระองค์ทรงใช้ชายหญิงและคนหนุ่มสาวให้เป็นผู้แทนของพระองค์ ไปยังคนทั้งหลายที่ต้องการความช่วยเหลือและต้องการการทรงนำจาก พระเจ้า {MH 473.1}MHTh 537.1