Loading...
Larger font
Smaller font
Copy
Print
Contents

บหัศจรรย์แห่อการรักษา

 - Contents
  • Results
  • Related
  • Featured
No results found for: "".
  • Weighted Relevancy
  • Content Sequence
  • Relevancy
  • Earliest First
  • Latest First

    “กรงบันดาลไหขาพระองค์สะอาดได”

    ในบรรดาโรคภัยทั้งหลายที่รู้จักกันในทางเขตแดนตะวันออก โรค เรื้อนจัดว่าเป็นโรคที่น่ากลัวที่สุด เพราะเป็นโรคที่รักษาไม่หายและเป็นโรค ติดต่อที่แพร่กระจายได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งสภาพอันน่าเกลียดน่ากลัว ของเหยื่อที่ติดโรค จึงน่ามาซึ่งความหวาดกลัว แม้แต่กับผู้ที่กล้าหาญที่สุด ในหมู่ชาวยิวถือกันว่า โรคนี้เป็นการพิพากษาลงโทษอย่างหนึ่งอันเกิดจาก บาป ฉะนั้นจึงถูกเรียกว่า “บาดแผลที่พระองค์ทรงดี” “ เป็นกิจการแห่งนิ้ว พระหัตถ์พระเจ้า” เนื่องจากพิษโรคฝังรากลึก รักษาให้หายขาดไม่ได้ และ น่าไปสู่ความตาย โรคเรื้อนจึงเป็นสัญลักษณ์ของความผิดบาป {MH 67.1}MHTh 60.3

    ตามกฎบัญญัติพิธีกรรมของชาวยิวได้ถือว่าคนที่เป็นโรคเรื้อนเป็น ผู้ที่ไม่สะอาด สิ่งใดก็ตามที่เขาแตะต้องจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่สะอาด แม้แต่ อากาศที่เขาหายใจออกมาก็จะเป็นมลทิน เขาจึงเป็นเหมือนเช่นคนที่ตาย ไปแล้ว เขาลูกกีดกันให้พ้นจากที่พ้กอาศัยของมนุษย์ ผู้ที่ลูกสงสัยว่า เป็นโรคนี้ จะต้องไปแสดงตัวต่อปุโรหิต ซึ่งจะเป็นผู้ที่ตรวจสอบและตัดสิน ชี้ขาดถึงโรคที่เขาเป็นอยู่ หากเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเรื้อนจริง เขาก็จะ ต้องลูกแยกออกจากครอบครัว ลูกตัดขาดออกจากชุมนุมคนอิสราเอล และลูกกำหนดให้ต้องติดต่อเกี่ยวข้องกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเดียวกันเท่านั้น แม้แต่กษัตริย์และผู้ปกครองก็มิไต้รับการยกเว้น พระมหากษัตริย์ที่เป็นโรค ร้ายแรงนี้ จะต้องยอมสละพระราชบัลลังก์และหลีกหนีออกไปจากวงสังคม {MH 67.2}MHTh 60.4

    คนที่เป็นโรคเรื้อนจะต้องไปจากมิตรสหายและญาติพี่น้องของเขา และจะต้องทนรับคำสาปแช่งในการที่เขาป่วยเป็นโรคร้าย เขาถูกบังคับให้ ต้องร้องประกาศถึงความวิบัติของตนเอง ต้องฉีกเสื้อผ้าของตนและส่ง เสียงเตือนให้ทุกคนหลีกหนีไปเสียให้พ้นจากสิ่งที่แปดเปื้อน เสียงที่ร้องว่า “ไม่สะอาด ไม่สะอาด” อันโหยหวนออกมาจากปากของคนที่ลูกขับไล่ไส ส่งและเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง เป็นเสียงที่ทำให้ผู้ที่ไต้ยินสะดุ้งกลัวและ!สึก ขยะแขยง {MH 67.3}MHTh 61.1

    ในแว่นแคว้นแถบที่พระเยซูทรงปฏิบัติพระราชกิจอยู่นั้น มิคนที่เจ็บ ป่วยทรมานด้วยโรคนี้อยู่มากมาย และเมื่อข่าวของพระราชกิจของพระองค์ ได้ล่วงรูไปถึงพวกเขา มิอยู่คนหนึ่งมีความเชื่อได้เกิดขึ้นในจิตใจ หากเขา เข้าไปเฝัาพระเยซูได้ เขาก็อาจจะหายจากโรค แต่เขาจะไปหาพระเยซูได้ อย่างไร ในเมื่อเขาลูกกำหนดให้ต้องปลีกตัวเองจากผูัอื่นไปตลอดกาล เขา จะไปแสดงตนต่อเบื้องพระพ้กตร็ของแพทย์ผู้ประเสริฐไต้อย่างไร และพระ คริสต์จะทรงรักษาเขาไหม พระองค์จะเหมือนพวกฟาริสีและแม้กระทั่งพวก แพทย์คนอื่นๆ ที่คอยสาปแช่งเขาและเตือนเขาให้หนีไปจากที่อยู่อาศัย ของมนุษย์หรือไม่ {MH 68.1}MHTh 61.2

    เขาคิดถึงเรื่องทั่งหมดของพระเยซูที่มิคนเคยเล่าให้ฟังว่า ผู้ที่มาทูลขอ ให้พระองค์ทรงช่วยเหลือนั้นพระองค์ไม่เคยปฏิเสธผูใด ชายผู้น่าเวทนา คนนี้ไต้ตั้งใจที่จะไปหาพระผู้ช่วยให้รอด แม้ว่าเขาจะลูกกีดกันให้อยู่แต่ภาย นอกเมือง บางทีเขาอาจจะเดินไปตามรอยบาทวิถีของพระองค์ตามเส้นทาง ในแถบภูเขาหรือพบพระองค์ในขณะที่พระองค์ทรงกำลังสั่งสอนอยู่นอก เมืองก็เป็นได้ อุปสรรคที่เขาต้องเผชิญนั้นยิ่งใหญ่นัก แต่นี่เป็นเพียงความ หวังเดียวของเขา {MH 68.2}MHTh 61.3

    คนโรคเรื้อนยืนอยู่แต่ไกล เขาไต้ยืนพระดำรัสได้เพียงไม่กี่คำจาก พระโอษฐ์ของพระผู้ช่วยให้รอด เขามองเห็นพระองค์ทรงวางพระหัตถ์ลง บนคนป่วย เขาเห็นคนง่อย คนตาบอด คนเป็นอัมพาตและคนที่กำลังจะ ตายด้วยโรคต่างๆ ได้ลุกขึ้นด้วยพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติ และ ได้ถวายสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์ทรงปลดเปลื้องพวกเขาให้พ้นจากโรค ความเชื่อในจิตใจของเขาทำให้เกิดกำลังใจที่เข้มแข็ง เขาจึงค่อยๆ ขยับ เข้าไปใกล้ฝูงชนที่กำลังฟังคำสั่งสอน เขาลืมข้อบังคับที่ต้องปฏิบ้ติตาม ลืม เรื่องความปลอดภ้,ยของประชาชนและความหวาดกลัวของคนทั้งหลายที่ มีต่อเขาจนหมดสิ้น เขาหวังแต่เพียงพระพรที่จะได้รับการรักษาให้หาย จากโรคเท่านั้น {MH 68.3}MHTh 62.1

    สภาพของตัวเขาเป็นที่น่าขยะแขยงยิ่งนัก โรคร้ายได้ทำลายร่างกาย ไปจนตกอยู่ในสภาพอันน่าสะพรึงกลัวและแม้แต่มองดูร่างกายที่กำลัง เปื่อยเน่านั้นก็แสนจะสะอิดสะเอียน เมื่อฝูงชนเห็นเขา ต่างผงะถอยหนีไป ด้วยความหวาดผวาจนแทบจะเหยียบกัน เพราะกลัวว่าจะไปสัมผัสตัวเขา บางคนพยายามห้ามชายผู้นี๋ไม่ให้เข้าไปใกล้พระเยซู แต่ก็ไม่อาจทัดทาน ได้ เขาทั้งมองไม่เห็นและไม่ได้ยีนพวกเขาเลย เขามองไม่เห็นสีหน้าที่ แสดงความเกลียดชังของคนเหล่านั้น เห็นแต่เพียงพระบุตรของพระเจ้า ไดํยินแต่เพียงพระสุรเสียงของพระเจ้าที่ทรงเรียกคนที่กำลังจะตายให้กลับ ฟันคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง {MH 69.1}MHTh 62.2

    เขาเบียดไปข้างหน้าเพื่อเข้าไปหาพระเยซูและหมอบลงแทบพระบาท ของพระองค์และร้องทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า เพียงแต่พระองค์จะโปรด ก็จะ ทรงบันดาลให้ข้าพระองค์สะอาดไตั” ลูกา 5:12 {MH 69.2}MHTh 62.3

    พระเยซูตรัสตอบว่า “เราพอใจแล้ว จงสะอาดเถิด” และทรงวาง พระหัตถ์บนร่างของเขา มัทธิว 8:2, 3 {MH 69.3}MHTh 62.4

    ในทันใดนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแก่ชายโรคเรื้อน โลหิตของ เขากลบสะอาดบริสุทธิ์ เส้นประสาทกลับมารับความรู้สึกได้อีก กล้ามเนื้อ ก็กลับแข็งแรง ผิวหนังที่เป็นวงด่างมีสะเก็ดสีขาว ดูผิดธรรมชาติอันเป็น ลักษณะเฉพาะของผู้ที่เป็นโรคเรื้อนนั้นได้เลือนหายไปและเนื้อหนังของเขา ก็กลับนวลเนียนเหมือนผิวของเด็ก {MH 69.4}MHTh 63.1

    หากพวกปุโรหิตได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรักษาคนโรค เรื้อนแล้ว ความเกลียดชังที่พวกเขามืต่อพระคริสต์อาจทำให้พวกเขาให้คำ ตัดสินที่ไม่ซื่อตรงได้ พระเยซูทรงปรารถนาที่จะให้การตัดสินนั้นมีความ ยุติธรรม พระองค์จึงทรงรับสั่งชายคนนั้นห้ามมีให้บอกผู้!ดว่าเขาได้รับการ รักษาจนหายจากโรคแล้ว แต่ให้ไปแสดงตัวที่วิหารพร้อมกับเครื่องบูชา ถวายโดยมิรอช้า ก่อนที่ข่าวร่ำลือเรื่องการอัศจรรย์จะโจษจันแพร่หลาย ออกไป เพราะก่อนที่พวกปุโรหิตจะรับเครื่องถวายบูชานั้น เขาจะต้อง ตรวจสอบดูเสียก่อนและให้การรับรองว่าผู้ที่นำของมาถวายนั้นได้หายจาก โรคอย่างสิ้นเชิงแล้ว {MH 69.5}MHTh 63.2

    เมื่อได้ตรวจสอบดูแล้ว ปุโรหิตผู้เคยตัดสินเนรเทศคนโรคเรื้อนนื้ รับรองว่าเขาได้หายจากโรคจริง ชายผู้ใด้รับการรักษาจนหายโรคได้กล้บ บ้านและอยู่ร่วมกับสังคมของเขาได้อีกครั้ง เขารู้สึกว่าสุขภาพอันสมบูรณ์ แข็งแรงที่เขาได้รับเป็นคุณอันประเสริฐยิ่ง เขามีความชื่นชมยินดีที่ได้ กลับเป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายแข็งแรงและได้กลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัว ของตนเองอีก เขาไม่อาจเก็บงำความจริงที่ได้รับการรักษาจนหายโรคไดัอีก ต่อไป แม้ว่าพระเยซูได้ทรงเตือนเขาแล้วก็ตาม ขายผู้นื้ได้ออกไปประกาศ ถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ผู้ทรงรักษาเขาให้หายโรคด้วยความยินดีอย่าง ยิ่ง {MH 69.6}MHTh 63.3

    ในเวลาที่ชายคนนี้มาหาพระเยซูนั้น เขามี “โรคเรื้อนเค็มทั้งคัว” พิษอันร้ายแรงได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา พวกสาวกพยายาม ป้องกันมีให้พระอาจารย์แตะต้องถูกตัวคนโรคเรื้อน เพราะผู้ที่แตะต้องคน โรคเรื้อนจะกลายเป็นคนไม่สะอาดด้วย แต่เมื่อพระองค์ทรงวางพระหัตภ์ ลงบนคนโรคเรื้อน พระเยซูไม่เป็นมลทิน แต่โรคเรื้อนก็กล้บหายสะอาด ด้วยเหตุนี้ โรคเรื้อนแห่งความผิดบาปที่ทั้งผังรากลืก มีพิษอ้นร้ายแรง ไม่ ลกมารถชำระล้างให้สะอาดได้ด้วยกำลังของมนุษย์ “ ศีรษะก็เจ็บหมด จิตใจ ก็อ่อนเปลี้ยไปสิ้น ตั้งแต่ฝาเท้าจนถึงศีรษะ ไม่มีความปกติในนั้นเลย มีแต่ ฟกชํ้าและดำเขียวและเป็นแผลเลือดไหล” อิสยาห์ 1: 5,6 แต่เมื่อพระ เยซูเสด็จมาดำรงอยู่ในสภาพธรรมชาติเยี่ยงมนุษย์ธรรมดา พระองค์ไม่ แปดเปื้อนค้วยมลทิน การไคัเขัามาอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์นั้น ไต้มิฤทธิ์อำนาจของการเยียวยารักษาคนบาปให้หายไต้ ผู้ใดที่ได้ซบกาย ลงแทบพระบาทของพระองค์และพูดด้วยความเชื่อว่า “พระองค์เจ้าข้า เพียงแต่พระองค์จะโปรด ก็จะทรงบันดาลให้ข้าพระองค์หายโรคได้” จะ ไต้ยีนคำตอบว่า “ เราพอใจแล้ว จงหายเถิด”, ม่ทธิว 8:2,3 {MH 70.1}MHTh 63.4

    ในการรักษาโรคบางราย พระองค์มิได้โปรดให้เป็นไปตามความ ต้องการที่ร้องทูลขอในทันที แต่ในกรณีของโรคเรื้อนนั้น พระองค์ทรง โปรดให้เป็นไปตามสิ่งที่ทูลขอทันที เมื่อเราอธิษฐานทูลขอพระพรทางฝ่าย โลก คำตอบอธิษฐานอาจจะล่าช้า หรือพระเจ้าอาจประทานสิ่งอื่นที่เรามิไต้ ทูลขอให้แก่เราแทน แต่จะไม่มิการเนิ่นช้าเมื่อเราไต้ทูลขอให้พระองค์ทรง ช่วยเราให้รอดจากความผัดบาป การชำระเราจากบาป การทำให้เราไต้ เป็นบุตรของพระองค์และเพื่อช่วยให้เราดำเนินชีวิตในทางที่บริสุทธิ์ไต้ นั้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า พระคริสต์ “ ทรงสละพระองค์เองเพราะ บาปของเราทั้งหลายเพื่อช่วยเราให้พ้นจากยุคปัจจุบันอันชั่วร้ายตาม นั้าพระทัยพระบิดาเจ้าของเรา” กาลาเทีย 1: 4 “ และนี่คือความมั่นใจที่ เรามีต่อพระองค์คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ก็ทรงโปรดฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็รู้ว่าเราได้รับสิ่งที่ เราทูลขอนั้นจากพระองค์” 1 ยอห์น 5; 14, 15 {MH 70.2}MHTh 64.1

    พระเยซูทรงทอดพระเนตรผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบากและ จิตใจที่ต้องแบกภาระอ้นหนัก ผู้ที่สิ้นความหวัง และผู้ที่แสวงหาความสุข ทางโลกเพียงเพื่อจะบรรเทาความปรารถนาของจิตวิญญาณพระองค์ทรง เชื้อเชิญทุกคนให้เข้ามาแสวงหาการพักผ่อนในพระองค์ {MH 71.1}MHTh 64.2